ท่านมุ้ย เสด็จให้สัมภาษณ์หลังพิธีสวดพระอภิธรรมศพ สรพงศ์ ชาตรี ว่า ได้อยู่ส่งจนวินาทีสุดท้ายได้เอามือลูบหัวจนเขาจากไป ตั้งแต่เป็นผู้กำกับมา เขาคือนักแสดงที่เล่นได้ทุกบทบาท มีความสามารถสูงมาก
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 11 มี.ค.2565 มีพิธีอัญเชิญพวงมาลาหลวง และอัญเชิญพวงมาลาพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายจิตรพัฒน์ ไกรฤกษ์ เชิญพวงมาลาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร และพวงมาลา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ไปวางหน้าหีบศพหน้าหีบศพ สรพงศ์ ชาตรี โดยหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาถวายผ้าไตร ลำดับต่อมา ดวงเดือน จิไธสงค์ จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยหน้าหีบศพ โดยหม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ทอดผ้าไตร และกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แก่ สรพงศ์ ชาตรี จากนั้นเวลา 18.30 น. เริ่มสวดอภิธรรม และเสร็จสิ้นในเวลา 19.00 น.

...
ภายหลังสวดอภิธรรมศพเสร็จสิ้น หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล หรือท่านมุ้ย ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนที่หน้าหีบศพ สรพงศ์ ชาตรี ว่า ท่านได้อยู่กับสรพงศ์ ชาตรี จนถึงวินาทีสุดท้าย ได้เอามือลูบหัวเขาจนกระทั่งตอนที่เขาจากไป ตั้งแต่ตนกำกับภาพยนตร์มา สรพงศ์ ยอมเล่นทุกบทบาท สมัยนั้นเขาไว้ผมยาว แต่พอถึงบทต้องตัดผมสั้นเขาก็ยอมตัดโดยดี ซึ่งในสมัยนั้นเป็นเรื่องใหม่ ผลงานการแสดงของเขาในตอนแรกนั้นตนคิดว่าเขาจะต้องได้รางวัลตุ๊กตาทองมากกว่า ไชยา สุริยัน ซึ่งตอนนั้น ไชยา ได้ไปแล้ว 2-3 ตัว ในที่สุด สรพงศ์ ชาตรี คว้ารางวัลตุ๊กตาทองได้ถึง 5-6 ตัว เท่าที่จำได้ แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแสดงของ สรพงศ์ ชาตรี ได้เป็นอย่างดี.