หนุ่ม รปภ.ห้างดังย่านปิ่นเกล้า แก้ปัญหาชีวิตไม่ตก ใช้มีดยาว 1 ฟุต แทงอกซ้ายตัดขั้วหัวใจตัวเองดับสยอง เพื่อนร่วมงานเผย เพิ่งเข้ามาทำงานไม่ถึง 4 เดือน เป็นคนเงียบๆไม่ชอบสุงสิงกับใคร ซ้ำเพิ่งยื่นใบลาออกมีผล 1 ธ.ค.นี้ ตำรวจตรวจกล้องวงจรปิดไม่พบสิ่งผิดสังเกต เห็นผู้ตายเดินเหม่อเหมือนคนเครียดก่อนหายไปจากกล้อง ด้านพ่อผู้ตายให้ข้อมูลตำรวจ ลูกชายเพิ่งมาลาบอกจะบวชตลอดชีวิต แต่กลับก่อเหตุเศร้าก่อน
รปภ.คิดสั้นแทงตัวตายในห้างดังครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 17 พ.ย. ร.ต.อ.วรธน เอี่ยมวิทยา รอง สว. (สอบสวน) สน.บางยี่ขัน รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม. ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.พาติกร ศรชัย ผกก.สน.บางยี่ขัน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่ในห้างสรรพสินค้าชั้นจี เป็นโซนซุปเปอร์มาร์เกต (ท็อปส์ มาร์เก็ต) บริเวณเคาน์เตอร์ชั่งน้ำหนักอาหารทะเล พบศพนายเกียรติศักดิ์
สูตรชัย อายุ 42 ปี รปภ.แผนกอาหาร สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสแล็กสีดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ ถูกของมีคมแทงเข้าที่อกซ้ายตำแหน่งหัวใจ นอนเสียชีวิต ใกล้กันมีเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล ตกอยู่บนพื้น บนเคาน์เตอร์มีมีดทำอาหารยาว 1 ฟุต เปื้อนเลือดติดอยู่ เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐานพร้อมให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลางนำไปตรวจสอบหารอยนิ้วมือแฝง บริเวณดังกล่าวไม่มีร่องรอยการต่อสู้
สอบสวนนายชุมพล ธิติปวเรศ อายุ 49 ปี พนักงานซุปเปอร์มาร์เกตอาหารสดให้การว่า เมื่อเวลา 04.00 น. เตรียมตัวเปิดแผนกตามปกติ ขณะที่กำลังตักน้ำแข็งแช่อาหาร เห็นผู้ตายเดินผ่านหลังเข้าไปหลังเคาน์เตอร์ ได้ยินเสียงเครื่องชั่งน้ำหนักตกพื้นคิดว่าเครื่องชำรุด แต่ยังไม่เอะใจ เมื่อเสร็จงานที่ทำอยู่ถึงเดินไปดู พบผู้ตายนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นและเห็นมีดเปื้อนเลือดวางบนเคาน์เตอร์ รีบเรียกพนักงานแถวนั้นช่วยเหลือ แต่ไม่เป็นผล นายเกียรติศักดิ์เสียชีวิตในที่สุด เบื้องต้นตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำเพื่อนร่วมงานและพยานแวดล้อมหาสาเหตุ เนื่องจากผู้ตายเพิ่งทำงานได้ประมาณ 4 เดือน เป็นคนเงียบๆ ไม่สุงสิงกับใคร หรือระบายปัญหาให้เพื่อนร่วมงานฟัง
...
ขณะเดียวกัน ตำรวจ สน.บางยี่ขัน ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า จุดเกิดเหตุมีพนักงานอยู่เพียง 2 คน คือผู้ตาย กับพนักงานแผนกอาหารสด เห็นผู้ตายเดินเหม่อลอยคล้ายอยู่ในอาการเครียด ส่วนพนักงานอีกคนกำลังทำงานตามปกติ ก่อนผู้ตายจะเดินหายไปจากกล้อง จุดที่ผู้ตายเสียชีวิตกล้องจับภาพไม่ได้ ตลอดจนไม่พบว่าจะมีเหตุทะเลาะวิวาท เมื่อสอบถามไปยังบิดาผู้ตายทราบว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายบอกว่าจะขอลาไปบวชวัดป่าตลอดชีวิต ไม่ได้บอกถึงสาเหตุ แต่เชื่อว่ามีความเครียดที่สะสมอยู่ นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ตายเพิ่งยื่นใบลาออกไปเมื่อไม่นาน จะมีผลในวันที่ 1 ธ.ค. หลังจากนี้พนักงานสอบสวนรอผลตรวจรอยนิ้วมือแฝงที่มีด และร่องรอยตามร่างกายผู้ตายเพื่อรวบรวมไว้เป็นหลักฐานสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป