พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมคณะพนักงาน สอบสวนคดี “ผกก.โจ้” แถลงผลการทำงานคืบหน้า สรุปตอนนี้โดนทั้งหมด 4 คดี คดีหลักซ้อมทรมานผู้ต้องหาจนตายหลักฐานแน่น ส่วนคดีร่ำรวยผิดปกติ จับรถหรูฟันเงินรางวัลรุดหน้า ตรวจสอบละเอียดยิบรถทั้ง 410 คัน ยืนยันแล้วว่าเป็นรถขโมยจากต่างประเทศโดยเฉพาะมาเลเซียนำเข้าประเทศถึง 270 คัน พฤติกรรมเป็นขบวนการ มีตำรวจเกี่ยวข้องเพิ่มแน่ แต่จำนวนเท่าไหร่ต้องรอสรุป
คดี “ผกก.โจ้” เริ่มกลับมาร้อน ความคืบหน้าจากกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 4 ต.ค. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม รอง จตช. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. และ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. แถลงความคืบหน้าคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ กับพวกรวม 7 คน ซ้อมทรมานผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิตและคดีอื่นที่เกี่ยวข้อง
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ กล่าวว่า คดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ ผกก.โจ้ มีทั้งหมด 4 คดี ขณะนี้เรามีหลักฐานมากพอที่จะเอาผิดได้แน่ โดยเฉพาะคดีซ้อมทรมานผู้ต้องหา (นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ อายุ 24 ปี) จนถึงแก่ชีวิตคืบหน้า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว คาดว่าไม่น่าเกินเดือน พ.ย.สามารถสรุปสำนวนส่งอัยการพิจารณา ส่วนเรื่องคดีสินบนนำจับรถหรู ตรวจสอบพบว่า ผกก.โจ้ เกี่ยวข้องกับการจับกุมรถหลบเลี่ยงเสียภาษี 410 คัน เบื้องต้นพบข้อมูลเป็นรถแจ้งหายที่ประเทศมาเลเซียตั้งแต่ปี 2555 รวม 270 คัน แบ่งเป็นรถที่ถูกแจ้งหายก่อนตรวจยึด 101 คัน และรถแจ้งหายหลังถูกตรวจยึด 169 คัน ส่วนรถที่เหลือ 140 คัน ยังไม่พบแหล่งที่มา อยู่ระหว่างตรวจสอบอย่างละเอียด
...
“รถหรู 410 คันที่เกี่ยวข้องกับ ผกก.โจ้ ผิดกฎหมายแน่นอน เพราะวิธีการจับกุมไม่ชอบด้วยกฎหมาย ยึดก่อนรถผ่านเข้าประเทศด้วยซ้ำ และยังพบพิรุธอีกหลายประเด็น รถเหล่านี้ส่วนใหญ่ชาวต่างชาติเป็นคนนำเข้ามา ก่อนเดินทางกลับด้วยสายการบิน ในส่วนนี้มอบหมายให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเร่งตรวจสอบประวัติอย่างละเอียดว่า ชาวต่างชาตินำรถเข้ามาในประเทศแล้วกี่คัน เป็นรถคันใดบ้างเพื่อให้หลักฐานแน่นหนา มั่นใจว่าจะสามารถเอาผิด ผกก.โจ้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้แน่ เพียงแต่ขอเวลารวบรวมข้อมูลจากกรมศุลกากรและสถาบันการเงินก่อน” รอง ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.อ.สุชาติกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาได้รับข้อมูลเกี่ยวกับรถทั้ง 410 คัน จากกรมศุลกากรค่อนข้างมาก ตั้งแต่การเข้ามาของรถ ใครเป็นคนนำเข้ามา ใครเป็นนอมินี และใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ ส่วนจะเป็นขบวนการและมีตำรวจนายอื่นเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้น เท่าที่ตรวจสอบขณะนี้พบว่า มีแน่แต่มีจำนวนเท่าไหร่ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ เรามีข้อมูลหมดแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนกรอบเวลาสรุปเรื่องนี้ยังไม่กำหนด เนื่องจากรายละเอียดค่อนข้างมากต้องตรวจสอบให้แน่ชัดก่อน
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ขอยืนยันว่า คดี ผกก.โจ้ ที่จับผู้ต้องหาและทรมานจนตายที่ จ.นครสวรรค์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมทีมงานที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.สั่งตั้งขึ้นมา ทำตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริง ไม่มีการช่วยเหลือกัน โดยเฉพาะหลักฐานที่แต่เริ่มแล้วสามารถใช้ดุลพินิจเองได้แล้วว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานเพียงพอหรือไม่ แต่ในทางสำนวนเรามีหลักฐานรายละเอียดมากขึ้นทุกประเด็น