อธิบดีกรมควบคุมโรค ยัน กระจายไฟเซอร์ในสัปดาห์นี้ ส่วนเป้าเดือน ส.ค. จัดสรรวัคซีน 10 ล้านโดสทั่วประเทศ เร่งตรวจเชิงรุกต่อเนื่อง หลังผู้ติดเชื้อใหม่วันนี้เกิน 2 หมื่น
วันที่ 4 ส.ค. 2564 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 จากเชื้อสายพันธุ์เดลตา (สายพันธุ์อินเดีย) ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่พบผู้ป่วยจำนวนมาก รวมทั้งในต่างจังหวัดจากผู้ป่วยที่เดินทางกลับไปรักษาที่บ้าน ซึ่งวันนี้พบผู้ป่วยรายใหม่กว่า 20,000 ราย จึงต้องเร่งดำเนินการค้นหา คัดกรองผู้ติดเชื้อ โดยมีทีมปฏิบัติการสอบสวนโรค (Operation) ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดและ กทม. เพื่อค้นหาผู้ป่วยเพิ่ม แยกผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำให้เข้าระบบการเฝ้าระวัง ควบคุมการแพร่กระจายเชื้อให้อยู่ในวงจำกัดโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคได้เร่งกระจายวัคซีนไปยังจังหวัดต่างๆ ตามการจัดสรรของคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ โดยในเดือน ส.ค.นี้ จะทยอยส่งวัคซีนให้จังหวัดจำนวน 10 ล้านโดส เพื่อฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ, 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง, หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และเพิ่มกลุ่มเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ที่มีโรคประจำตัว เพื่อลดอาการป่วยที่รุนแรงและลดอัตราการเสียชีวิต รวมทั้งฉีดให้กับกลุ่มบุคลากรการแพทย์และบุคลากรด่านหน้า ซึ่งจะจัดส่งวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) ไปให้จังหวัดในสัปดาห์นี้
สำหรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตนเองด้วยชุดทดสอบ Antigen Test Kit : ATK) นายแพทย์โอภาส ระบุว่า เป็นการตรวจหาเชื้อเบื้องต้นที่ช่วยให้รู้ผลได้เร็วขึ้น เพื่อให้ผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาได้อย่างรวดเร็ว เป็นไปตามแนวทางของกรมการแพทย์ หากผล ATK เป็นบวก เรียกว่าผู้ติดเชื้อเข้าข่าย สามารถรับยาและรักษาแบบแยกกักตัวที่บ้านได้ทันที ส่วนกรณีหากต้องเข้าแยกกักตัวในชุมชน หรือในสถานพยาบาล ผู้ติดเชื้อเข้าข่ายควรได้รับการตรวจด้วยวิธี RT-PCR คู่ขนาน และระหว่างรอผลตรวจยืนยันจะต้องพยายามแยกออกจากผู้ป่วยโควิด-19 เนื่องจากผลตรวจด้วย ATK ให้ผลบวกลวงได้ (ร้อยละ 3-5) อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค หมายเลข 1422
...