สลด หนุ่มป่วยโควิด รอเตียงจนดับ หลังน้าสาวนอนเสียชีวิตในบ้านไม่ถึงอาทิตย์ ชาวบ้านวอน อย่าต้องให้มีคนตายมากกว่านี้ เนื่องจากในบ้านยังมีอีก 3 คนที่ป่วยโควิด
เวลา 21.30 น. วันที่ 20 ก.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพักอาศัย ภายในซอยเจริญกรุง 107 จึงประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูพร้อมไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงบ้านหลังหนึ่ง ลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ มีความสูง 2 ชั้น ปลูกติดกันหลายหลัง ตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อายุ 26 ปี ทราบจากชาวบ้านว่า ผู้เสียชีวิตเป็นผู้ป่วยโควิด-19 ภายในบ้านยังมีผู้พักอาศัยอยู่อีก 3 คน หนึ่งในนั้นมีผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นแม่ของผู้ตายรวมอยู่ด้วย ทุกคนอยู่ในอาการโศกเศร้า ต่างนั่งกอดกันร้องไห้ ซึ่งเป็นภาพที่หดหู่มากๆ
ทราบต่อมาว่า บ้านหลังนี้มีคนอยู่ด้วยกัน 6 คน ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด โดยมี 1 คนที่ได้เตียงและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาสมาชิกในบ้าน 1 คนได้เสียชีวิตลงช่วงเช้าวันที่ 16 ก.ค. กระทั่งวันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 1 คน
ที่ผ่านมาหลังจากที่สมาชิกทุกคนรู้ว่าติดโควิด-19 ก็อยู่แต่ภายในบ้าน ไม่ได้ออกไปไหน เบื้องต้นก็จะมีหน่วยงานของอาสาสมัครมาคอยส่งข้าวส่งยาให้บ้างเป็นบางครั้ง แล้วจะมีไรเดอร์ที่มาส่งอาหารหน้าบ้านอยู่เป็นประจำ แต่ไม่เคยเห็นหน่วยงานของภาครัฐเข้ามาดูแล กระทั่งมีคนเสียชีวิตในบ้านถึง 2 ศพ
สอบถามจากเพื่อนบ้านเล่าว่า ชาวบ้านแถวนี้หวาดกลัวกันหมด เพราะว่าในบ้านติดกันหลายคน คนที่ตายไปคนแรกเมื่อ 2-3 วัน เป็นน้า ส่วนวันนี้คนที่ตายเป็นหลาน และยังเหลืออีก 3 คนที่ยังอยู่ในบ้านหลังนี้ ฝากหน่วยงานเข้ามารับไปรักษาด้วย อย่าให้ต้องมีการตายเพิ่มขึ้นอีกเลย แค่นี้ก็หดหู่พอแล้วที่เห็นคนในบ้านต้องมาตายต่อหน้าต่อตา
...
ส่วนเพื่อนบ้านข้างบ้านและบ้านตรงข้าม ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เรื่องแบบนี้ไม่น่าให้เกิดขึ้นได้ มีศพแรกแล้วทำไมต้องให้มีศพที่ 2 ด้วย ที่ต้องมาตายในบ้านด้วยโควิด-19 อยากให้หมอมาให้คำแนะนำ หรืออธิบายการใช้ยา หรือการรักษาตัวเองที่บ้าน ไม่ใช่มาส่งยาหน้าบ้านแล้วกลับไป ตนอยู่บ้านเห็นแต่มาส่งอาหาร ส่งยา แต่ไม่มีการพูดคุยอะไรกันเลย เหมือนส่งๆ ไป ส่งแล้วก็กินๆ ไป รู้สึกสงสาร อายุไม่เยอะ ไม่น่าจะมาจบชีวิตแบบนี้ เมื่อก่อนเจอหน้ากันทักทายพูดคุยกัน พอรู้ว่าติดเชื้อ เขาก็ปิดบ้าน ปิดตัวเองไป ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดแล้วเรื่องแบบนี้
ทั้งนี้ สิ่งที่ชาวบ้านแถวนี้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากจะให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเร่งหามาตรการช่วยเหลือผู้ป่วยจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้เร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่านี้
เบื้องต้นทางทีมงานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตแพ็กใส่ถุงบรรจุศพอย่างมิดชิดเป็นอย่างดีแล้วนำใส่โลงศพไปฌาปนกิจที่วัดเป็นการเร่งด่วน โดยมีพี่ชายของผู้เสียชีวิตทำได้แค่เพียงยืนส่งน้องอยู่บริเวณประตูบ้าน ซึ่งเป็นการลาครั้งสุดท้าย ไม่สามารถออกมาจากบริเวณบ้านได้.