อัยการธนกฤต ผอ.นิติวัชร์อัยการ แสดงความเห็นข้อกฎหมาย กรณีสินมั่นคงประกันภัยอ้างสิทธิ์บอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อาจเข้าข่าย พ.ร.บ.ข้อสัญญาไม่เป็นธรรม เอาเปรียบประชาชนเกินสมควร หากไม่จ่าย ยื่นฟ้องเป็นคดีผู้บริโภคได้
กรณีสินมั่นคงประกันภัย ออกประกาศบอกกล่าวเลิกสัญญาประกันภัยโควิด-19 ที่ประกาศขายให้กับประชาชนในแพ็กเกจ เจอ จ่าย จบ จนมีประชาชนซื้อกรมธรรม์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยอ้างว่า เพื่อรักษาธุรกิจของบริษัทไว้ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานกระบวนการยุติธรรม สถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด แสดงความเห็นข้อกฎหมายต่อผู้สื่อข่าวผ่านทางเฟซบุ๊ก ความว่า
ตามที่บริษัทสินมั่นคงประกันภัย ออกประกาศแจ้งยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยอ้างข้อสัญญาในกรมธรรม์ประกันภัยข้อ 2.4.3 และ ข้อ 2.5.1 ที่ให้บริษัทฯ ใช้สิทธิ์บอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยได้ นั้นขอให้ความเห็นทางวิชาการในประเด็นข้อกฎหมายในเรื่องนี้ เป็นการส่วนตัว ดังนี้
กรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทฯ เป็นข้อตกลงตามสัญญาและเป็นสัญญาสำเร็จรูปที่มีการกำหนดข้อสัญญาที่เป็นสาระสำคัญไว้ล่วงหน้าแล้ว
ซึ่งหากข้อสัญญาใดทำให้บริษัทฯผู้รับประกันภัย ได้เปรียบประชาชนผู้เอาประกันภัยเกินสมควร ให้ถือว่าข้อสัญญานั้นเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม และให้มีผลบังคับได้เพียงเท่าที่เป็นธรรมและพอสมควรแก่กรณีเท่านั้น
และในกรณีที่เป็นสัญญาสำเร็จรูป ให้ตีความสัญญาสำเร็จรูปไปในทางที่เป็นคุณแก่ฝ่ายประชาชนผู้เอาประกันภัยที่มิได้เป็นผู้กำหนดสัญญาสำเร็จรูป ทั้งนี้ เป็นไปตามพระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม มาตรา 4
นอกจากนี้ ตามมาตรา 4 วรรค 3 (3) ประกอบกับมาตรา 10 ยังกำหนดให้ข้อตกลงที่ให้สิทธิ์บริษัทฯ บอกเลิกสัญญาได้ โดยฝ่ายประชาชนผู้เอาประกันภัยมิได้ผิดสัญญาในข้อสาระสำคัญ ให้ถือว่าเป็นข้อตกลงที่ทำให้ได้เปรียบประชาชนผู้เอาประกันภัยซึ่งเป็นคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเกินสมควรด้วย เมื่อพิจารณาถึงอำนาจต่อรอง ฐานะทางเศรษฐกิจ ของบริษัทฯ รวมทั้งความคาดหมาย แนวทางที่เคยปฏิบัติ และทางได้เสียทุกอย่างของฝ่ายประชาชนผู้เอาประกันภัยตามสภาพที่เป็นจริง
...
ดังนั้น ข้อสัญญาในกรมธรรม์ประกันภัยข้อ 2.4.3 และ ข้อ 2.5.1 ของสินมั่นคงดังกล่าว ที่ให้บริษัทฯ ใช้สิทธิ์บอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยได้ จึงไม่น่าจะมีผลบังคับใช้ได้ และถ้าหากบริษัทฯ ไม่ยอมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ประชาชนผู้เอาประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัย โดยอ้างสิทธิ์ในการบอกเลิกกรมธรรม์
ประชาชนผู้เอาประกันภัยก็ย่อมมีสิทธิ์นำคดีมาฟ้องต่อศาล เพื่อขอให้วินิจฉัยว่าข้อกำหนดในกรมธรรม์ประกันภัยเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม บริษัทฯ เป็นฝ่ายผิดสัญญาและเรียกร้องให้บริษัทต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยรวมทั้งค่าเสียหายให้แก่ตนได้ และคดีนี้ถือเป็นคดีผู้บริโภค ซึ่งนำเอาพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภคมาบังคับแก่คดีได้ด้วย.