ตำรวจให้ค่าหัวไอ้เด่น โมเดลลิ่ง เก๊ 5 พัน ประชาสัมพันธ์ไปยังแท็กซี่เป็นหลักหลังพบมารสังคมใช้เป็นพาหนะหลบหนี สุดแสบเบี้ยวจ่ายทุกครั้ง ส่วนการตามล่าคลาดกันหวุดหวิด หลังชุดสืบตามรอยไปถึงบ้านเพื่อนที่อยุธยา แฉเหลี่ยมแพรวพราว ยังใช้ไลน์ใช้เฟซปลอมทักพริตตี้ ที่มีรถหวังใช้หลบหนี ด้านสาว ปวช. เหยื่อกามเข้า แจ้งความเป็นรายที่ 5 ขณะที่กลุ่มเหยื่อตั้งไลน์ผู้เสียหาย ตะลึงมีถึง 36 คน แบ่งเป็น 3 ประเภท ถูกปลอมไลน์ บังคับเสพยาและข่มขืนชิงทรัพย์ โดยเคสหลังพบ เหยื่อหื่นมีถึง 10 รายแล้ว
จากคดีเขย่าขวัญสั่นประสาทบรรดาสาวพริตตี้-สาวเอนฯ หลังมีเหยื่อสาวหลายรายเข้าแจ้งความตำรวจให้ดำเนินคดีนายเด่นภูมิ หรือเด่น หรือโจอี้ วัฒนโชติภิญโญ อายุ 39 ปี จิ้งจอกสังคม หลังออกอุบายเป็นโมเดลลิ่งเก๊ ดัดเสียงเป็นกะเทยหลอกให้มาเอนเตอร์เทนลูกค้าในสถานที่ต่างๆ ก่อนใช้มีดจี้บังคับเสพไอซ์ และข่มขืนไม่ใส่ถุงยาง ซ้ำถ่ายคลิปเก็บไว้ ก่อนให้เหยื่อหลอกสาวพริตตี้สาวเอนเตอร์เทนมาเป็นเหยื่อแบบลูกโซ่ ล่าสุดมีเหยื่อกามเข้าแจ้งความทั้งสิ้น 4 คน แบ่งเป็นท้องที่ สน.บางขุนเทียน 2 คน สน.ประชาชื่น 1 คน สน.บวรมงคล อีก 1 คน ศาลอาญาตลิ่งชัน ออกหมายจับไว้แล้ว 1 คดี ล่าสุดมีผู้เสียหายอีก 2 ราย เตรียมเข้าแจ้งความเพิ่ม ขณะที่ตำรวจยังคว้าน้ำเหลว
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 10 พ.ค. น.ส.พราว (นามสมมติ) อายุ 22 ปี นักเรียน ปวช. ปี 3 สถาบันอาชีวศึกษาแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ผู้เสียหายอีกรายที่ถูกนายเด่นภูมิ หรือเด่น หรือโจอี้ วัฒนโชติภิญโญ อายุ 39 ปี ล่อลวงมาทำร้ายร่างกายบังคับให้เสพยา ข่มขืนโดยไม่สวมถุงยางอนามัยและถ่ายคลิปเก็บไว้ อีกทั้งใช้มีดแหย่เข้าไปในอวัยวะเพศด้วย เหตุเกิดที่โรงแรมโรสทาวน์ โฮเต็ล ซอยจรัญสนิทวงศ์ 40/1 เมื่อวันที่ 7 เม.ย.64 เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.หญิง ณัฐฐาภาณี ดวงดี สว. (สอบสวน) สน.บวรมงคล เป็นรายที่ 5 เพื่อเอาผิดนายเด่นภูมิ ในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ ต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำนนต่อสิ่งนั้นโดยมีอาวุธ และหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่น ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย”
...
นส.พราวกล่าวถึงเหตุที่ถูกนายเด่นภูมิใช้มีดแหย่เข้าไปในอวัยวะเพศจนเลือดออก เป็นเพราะโมโหที่ตนหลอกพริตตี้คนอื่นมาให้ไม่ได้ เพราะไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อน ทำให้มีพิรุธจนคนอื่นไม่กล้ารับงาน สุดท้ายนายเด่นภูมิใช้ไลน์ปลอมโพสต์หาเด็กเอนฯที่พร้อมรับงาน จน น.ส.ฝนเหยื่อรายที่ 2 ซึ่งแจ้งความกับตำรวจ สน.บวรมงคล ไปก่อนหน้า หลงเชื่อรับงานและนั่งรถแท็กซี่มาถึงโรงแรมช่วงเวลา 02.00 น. วันที่ 9 เม.ย. ก่อนถูกข่มขืนและทำร้ายร่างกายไม่ต่างจากตน กระทั่งช่วงสายนายเด่นวางแผนให้ น.ส.ฝนหลอกสาวเอนฯมาหาอีกคน มาจากย่านปากเกร็ด มาถึงโรงแรมประมาณ 11.00 น. ก่อนประสบชะตากรรมเดียวกัน ขณะที่ตนและ น.ส.ฝนจะออกอุบายหลบหนีมาได้
มีรายงานด้วยว่า ล่าสุดแม่ น.ส.ฝนได้ตั้งกลุ่มไลน์ ผู้เสียหายที่ถูกนายเด่นภูมิหลอกลวงมาปู้ยี่ปู้ยำ มีทั้งหมด 36 คน แบ่งการถูกกระทำผิดเป็น 3 ประเภทคือ ถูกปลอมไลน์ บังคับเสพยาเสพติด และข่มขืนชิงทรัพย์ กรณีหลังมีผู้เสียหาย 10 คน
ส่วนการไล่ล่าจับกุมมารสังคมรายนี้ มีรายงานว่า ตำรวจหลายหน่วยในนครบาลและกองปราบปราม ร่วมกันเร่งหาเบาะแสพบว่า ขณะนี้นายเด่นภูมิได้เงินสนับสนุนจากพ่อบุญธรรมโอนเข้าบัญชี วันละ 500-1,500 บาท ทั้งนี้ นายเด่นภูมิจะหลบหนีโดยรถแท็กซี่และจะไม่จ่ายค่าโดยสารทุกครั้ง ล่าสุดเมื่อ 2 วันที่แล้ว นายเด่นภูมิหนีไปหาเพื่อนที่เคยติดคุกด้วยกันเมื่อปี 2552 ใกล้วัดช้าง ใน จ.พระนครศรีอยุธยา แต่เพื่อนไม่ยอมให้ค้างที่บ้าน เพราะกลัวความผิด เมื่อฝ่ายสืบสวนตามไปก็คลาดกันเพียงนิดเดียว เบาะแสครั้งสุดท้าย เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 9 พ.ค.นายเด่นภูมิได้เข้าไปขอเงินพ่อบุญธรรม ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 68 ก่อนรีบนั่งรถแท็กซี่ออกไป ตลอดการหลบหนีนายเด่นภูมิจะปิดโทรศัพท์มือถือ เวลาจะติดต่อใครจะใช้โทรศัพท์มือถือของเพื่อนที่ไปหา และไม่เลิกพฤติกรรมเดิม ยังปลอมเฟซบุ๊กปลอมไลน์เลือกเหยื่อพริตตี้ที่มีรถยนต์ เพื่อจะได้มีพาหนะสะดวกในการหลบหนี
ล่าสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองปราบปราม ได้นำภาพพร้อมประวัติก่อเหตุของนายเด่นภูมิระบุเป็นบุคคลอันตราย ประชาสัมพันธ์ไปยังคนขับแท็กซี่เพื่อให้ช่วยกันเฝ้าระวังและเป็นหูเป็นตาเนื่องจากนายเด่นภูมิมักจะใช้รถแท็กซี่เป็นพาหนะหลบหนี หากแท็กซี่คนใดพบเห็นนายเด่นภูมิบุคคลตามในรูป ขอให้แจ้งกลับมาที่ตำรวจโดยเร็วที่สุด พร้อมมีเงินรางวัลนำจับให้ด้วย 5,000 บาท