ครอบครัวผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์บ้านหลังใหญ่ ในหมู่บ้านกฤษดานคร 31 ถูกเพลิงไหม้พังถล่ม นิมนต์พระทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ กำหนดพระราชทานเพลิงศพพร้อมกัน 10 เม.ย.นี้ สภาวิศวกรรมนำก้อนอิฐไปตรวจ หาสาเหตุการถล่ม เกี่ยวกับโครงสร้างบ้าน หรือความร้อน

เวลา 11.00 น. วันที่ 5 เม.ย. บริเวณจุดเกิดเหตุอาคารถล่ม เลขที่ 138/12 หมู่บ้านกฤษดานคร 31 แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ทราบว่าวันนี้จะยังไม่มีการรื้อถอนซากอาคารที่พังถล่มแต่อย่างใด เพราะต้องรอใบอนุญาตในการรื้อถอน

น.ส.นภาดา สกุลไทย เจ้าหน้าที่จากสำนักประกันสังคม เขตพื้นที่ 6 กล่าวว่า วันนี้มาสอบถามว่าอาคารที่พังถล่มนั้นเป็นสถานประกอบกิจการจริงหรือไม่ เพื่อที่จะดูแลลูกจ้าง คือ นายเกียรติ แพตเตอร์สัน หนึ่งในผู้เสียชีวิต ในเรื่องสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน หากเสียชีวิตขณะปฏิบัติงานจะได้ค่าตอบแทนค่อนข้างสูง 100 เท่าของค่าแรงขั้นต่ำ หรือเสียชีวิตเพราะปกป้องทรัพย์สินของนายจ้าง แต่จากการสอบถามเพื่อนร่วมงานเบื้องต้นทราบว่า ขณะเกิดเหตุเป็นเวลาพักผ่อน ก็อาจจะได้เงินค่าปลงศพ 5 หมื่นบาท และเงินให้ญาติอีกจำนวนหนึ่ง ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการส่งเบี้ยประกันสังคม

...

ขณะที่ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร เผยว่า วันนี้ทางสภาวิศวกรจะไม่มีการลงพื้นที่ เนื่องจากติดภารกิจ เบื้องต้นได้วิเคราะห์ผ่านการดูคลิปวิดีโอที่มีการแชร์กันทางโซเชียลว่ามีสิ่งที่น่าสนใจคือ ต้องมาหาสาเหตุว่า เพราะเหตุใดอาคารจึงถล่มลงมา โดยมี 4 ปัจจัยหลักในการประเมิน คือ 1. การออกแบบถูกต้องหรือไม่ 2. การก่อสร้างเป็นไปตามแบบหรือไม่ 3. ใช้งานผิดประเภทหรือไม่ และ 4. มีตัวเร่ง ในกรณีนี้หมายถึงเกิดเพลิงไหม้และมากกว่านั้น ต้องมาวิเคราะห์ว่าเพราะเหตุใด ทั้งนี้ ทางสภาวิศวกรยังอยากให้มีการถอดบทเรียน ในกรณีที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ลักษณะนี้อีก ให้มีการนำแปลนของโครงสร้างอาคารมาดูควบคู่กับการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย

ด้าน นายณรงค์ รักษ์คิด รักษาการหัวหน้าฝ่ายโยธา สำนักงานเขตทวีวัฒนา เปิดเผยว่า มีการยื่นแบบขออนุญาตก่อสร้าง และมีวิศวกรควบคุมงานอย่างถูกต้องเมื่อปี 2553 สิ้นสุดอายุเมื่อปี 2554 และเจ้าของบ้านมีการยื่นขอก่อสร้างดัดแปลงเพิ่มเติมอีกครั้งในช่วงปี 2554 สิ้นสุดปี 2555 โดยเนื้อที่ก่อสร้างมีประมาณ 600 ตารางเมตร

นอกจากนี้ วิศวกรโยธา สำนักงานเขตทวีวัฒนา ได้เข้ามาตรวจสอบร่วมกับตัวแทนเจ้าของบ้านที่มาขออนุญาตเข้ารื้อถอนอาคาร โดยวิศวกรจะเข้าไปประเมินความปลอดภัยในการรื้อถอน เบื้องต้นต้องล้อมพื้นที่เพื่อป้องกันความปลอดภัยก่อน จากนั้นรื้อถอนแผ่นเหล็ก และสิ่งของที่ได้นำมาทำการกู้ภัยก่อนหน้านี้ ส่วนจะใช้เครื่องมือหนักในการรื้อถอนหรือไม่ต้องประเมินในพื้นที่โดยรวมด้วย

"การรื้อถอนจะประสานร่วมกับตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เพื่อเข้าไปตรวจสอบสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ ประกอบด้วย หลังพยานระบุว่ามีแสงเพลิงเกิดขึ้นชั้น 1 ของบ้าน จึงต้องวางแผนการรื้อถอนด้วย บ้านใกล้เคียงที่ได้รับความเสียหาย เจ้าของบ้านพร้อมซ่อมแซมให้ และการถล่มของอาคารจะเกี่ยวกับโครงสร้างของบ้าน หรือความร้อนหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถยืนยันได้ ซึ่งวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท. จะประสานขอตัวอย่างก้อนคอนกรีตที่เกิดเหตุไปตรวจสอบหาการทนความร้อน แต่ยังไม่สามารถนำไปได้ ต้องรอให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าพื้นที่ก่อน"

ต่อมา นายโรเบิร์ต เรมอน แพตเตอร์สัน บิดาของ นายเกียรติ แพตเตอร์สัน พร้อมอดีตภรรยา ได้เดินทางไปรับศพลูกชายที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช แล้วนำใส่โลงนำมายังที่เกิดเหตุอีกครั้ง และนิมนต์พระให้มาทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณลูกชาย ไปยังวัดท่าพูด ถนนพุทธมณฑลสาย 5 จ.นครปฐม เพื่อรับน้ำหลวงอาบศพ บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าสลด

จากนั้น เวลา 14.55 น. ครอบครัวของ นายสมัญญา นิลธง นายอรรถพล ท้วมทอง และ นายสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด อาสาสมัครฯ ที่เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุเพื่อทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณ เช่นกัน และในวันที่ 10 เม.ย.64 เวลา 16.00 น. จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้เสียชีวิต

ขณะเดียวกัน นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งมีความห่วงใย และได้แสดงความเสียใจทายาทของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ มอบหมายให้ นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม นางสาวจีระภา บุญรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 6 ลงพื้นที่มอบเงินค่าทำศพแก่ทายาทที่เสียชีวิต 2 ราย ณ วัดศาลาแดง หมู่ 6 ถนนบางแวก แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร

นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยลูกจ้าง ผู้ประกันตน ที่ได้รับบาดเจ็บ และแสดงความเสียใจกับทายาทผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยได้กำชับให้ตน และสำนักงานประกันสังคมดำเนินการติดตามการให้ความช่วยเหลือลูกจ้าง ผู้ประกันตนให้ทันท่วงที ซึ่งในวันนี้ตนได้รับมอบหมาย ให้มามอบเงินช่วยเหลือทายาทของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้ประกันตน จำนวน 2 ราย โดยทายาทมีสิทธิได้รับเงิน กรณีเสียชีวิตจากกองทุนประกันสังคม ดังนี้

...

1. นายสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด จะได้รับค่าทำศพ 50,000 บาท เงินสงเคราะห์กรณีตาย 82,800 บาท เงินบำเหน็จชราภาพกรณีตาย 132,884.03 บาท รวมทั้งสิ้น 265,684.03 บาท ให้กับมารดาผู้เสียชีวิต

2. นายอรรพล ท้วมทอง จะได้รับประโยชน์ทดแทนเป็นเงินบำเหน็จชราภาพกรณีตาย 12,223.12 บาท ให้กับทายาทของผู้เสียชีวิต

พร้อมกันนี้ นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยังได้แสดงความเสียใจกับญาติของ นายสมัญญา นิลธง ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ หลังจากนั้นยังได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประกันตนที่ได้รับบาดเจ็บ คือ นายอิทธิพล ประสงค์ทรัพย์ ซึ่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหัวเฉียว อีกด้วย

ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคม ทั่วประเทศให้ดูแลลูกจ้าง ผู้ประกันตน ทั้งในระบบและนอกระบบประกันสังคมในยามที่เกิดเหตุการณ์ให้ได้สิทธิอย่างครบถ้วน ทันท่วงที ตามนโยบายของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวง