รายงานข่าวจากบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี แจ้งว่า เมื่อวันที่ 1 เม.ย.64 ที่ผ่านมา ได้ครบกำหนด 60 วัน ที่บริษัทได้ทำหนังสือถึงบริษัทกรุงเทพธนาคมจำกัด (มหาชน) และกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ก.พ.64 ขอให้ชำระหนี้การให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 ช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ซึ่งค้างชำระมาเป็นเวลา 3 ปี 9 เดือน นับตั้งแต่เดือน เม.ย.2560 จำนวน 9,602 ล้านบาท และหนี้ค่าซื้อระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) ที่ถึงกำหนดชำระในเดือนมีนาคม 2564 จำนวน 20,768 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นประมาณ 3 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กทม.และบริษัทกรุงเทพธนาคม ยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องนี้แต่อย่างใด ทำให้บริษัทจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายและตามสัญญา ด้วยการฟ้องร้องต่อศาล โดยคาดว่าจะยื่นเรื่องในสัปดาห์หน้า ส่วนการเดินรถไฟฟ้านั้น บริษัทยังคงเดินรถไฟฟ้าตามปกติต่อไป

แหล่งข่าวแจ้งอีกว่า นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้า บริษัทจะยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง กรณีคณะกรรมการคัดเลือกตาม ม.33 แห่งพ.ร.บ.การร่วมลงทุน พ.ศ.2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-สุวินทวงศ์ และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ที่ยกเลิกการประมูลโครงการ เมื่อวันที่ 3 ก.พ.64 โดยมิชอบ ซึ่งเป็นการฟ้องร้องเพิ่มเติมจากที่ก่อนหน้านี้ บริษัทได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ดำเนินการผู้บริหาร รฟม.รวม 7 คน ฐานความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการประกวดราคาทีโออาร์ โดยศาลนัดฟังคำสั่งคดีในวันที่ 5 พ.ค.64.