ปลัดยุติธรรมแจง คณะกรรมการเร่งประมวลผลการทำงานราชทัณฑ์ คาด 7 วันรู้ผล ชี้มีบันทึกหลักฐาน-วิดีโอการทำงานชัดตรวจสอบได้ ยันดูแลผู้ต้องขังทุกคนอย่างเท่าเทียมตามมาตรฐานสากล ไม่ได้ให้ใครเป็นพิเศษ


เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2564 ที่กระทรวงยุติธรรม ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกกระทรวงยุติธรรม แถลงข่าวการจัดตั้งคณะกรรมการประมวลข้อเท็จจริงในการดำเนินงานของกรมราชทัณฑ์ที่ประชาชนสนใจ เพื่อประมวลข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของกรมราชทัณฑ์ที่ประชาชนสนใจ


ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แม้ว่าทางกรมราชทัณฑ์จะมีการชี้แจงไปแล้ว โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อประมวลข้อเท็จจริง และตั้ง นายวัลลภ นาคบัว เป็นประธานกรรมการ และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตัวแทนจากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เข้ามาดูแลในส่วนนี้ ประเด็นที่มีข้อกล่าวหา และความรู้สึกที่ไม่ดีต่อการทำงานของกรมราชทัณฑ์ มีหลายประเด็น แต่ราชทัณฑ์ได้แถลงเป็นทางสาธารณะแล้ว แต่กระทรวงต้องตรวจสอบและประมวลผลในเรื่องนี้ ข้อกล่าวหาว่า ผู้ต้องขังมีความรู้สึกถึงการถูกทำร้าย และการดำเนินการที่ไม่เหมาะสม มีการดำเนินการในยามวิกาล เรื่องนี้ตนคิดว่าเราคงต้องประมวลผลอย่างเร่งด่วน สิ่งที่เราได้สั่งการให้ดำเนินการดูแลในเรื่องนี้ ขอให้ได้ความชัดเจนในสิ่งที่เกิดขึ้น รวมถึงรายละเอียดต่างๆ ซึ่งน่าจะตรวจสอบได้เพราะมีหลักฐานชัดเจน รวมทั้งกรมราชทัณฑ์มีระเบียบการปฏิบัติงานที่ชัดเจนอยู่แล้ว โดยเมื่อผลการสอบสวนออกมาเป็นอย่างไร เราจะเร่งชี้แจงให้ทราบ

...


ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีหลายคนสงสัยว่า กระบวนการต่างๆ เหล่านี้ ทำในเวลากลางคืนเหมาะสมหรือไม่นั้น เรื่องนี้เป็นไปตามหลักการ ที่ผ่านมากรมราชทัณฑ์ยืนยันมาตลอดในการป้องกันโควิด ป้องกันคนหมู่มาก โดยคณะกรรมการชุดนี้ที่แต่งตั้งขึ้นมา จะมีอำนาจเพิ่มเติม สามารถแนะนำและตั้งข้อสังเกตหากการปฏิบัติเป็นไปตามมาตรฐานแล้ว การตรวจโควิดต่างๆ ควรจะต้องมีแนวทางอย่างไรให้ทุกคนคิดถูกต้องเหมาะสม ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาถึงมาตรการอีกครั้งว่า เหมาะสมหรือไม่หรือต้องแก้ไขอย่างไร


ผู้สื่อข่าวถามว่า การเข้าไปยามวิกาล ตอนตี 2 เหมาะสมหรือไม่ ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ กล่าวว่า ราชทัณฑ์มีกระบวนการ มีระบบการบันทึกการทำงานและมีวิดีโอ ซึ่งได้ส่งให้หน่วยงานทางกระบวนการยุติธรรมช่วยดูแล้ว เราพยายามทำเรื่องที่เป็นจริงให้ปรากฏ ซึ่งกระบวนการสอบสวนไม่น่าจะเกิน 7 วันน่าจะได้ข้อสรุปความเป็นจริง ส่วนมาตรฐานอื่นๆ เราก็กังวลใจว่า การตรวจโควิด หากหลุดเข้าเรือนจำจะเป็นปัญหามาก แต่หากคนที่ไม่อยากตรวจจะทำอย่างไร นี่อาจจะเป็นเรื่องของมาตรฐานที่ต้องควรปรับปรุง ในส่วนของหน่วยงานศาลคงต้องทำควบคู่กันไป


เมื่อถามว่า มีการปฏิบัติเป็นการพิเศษกับคนกลุ่มนี้หรือไม่ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ในหลักการปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นที่ใดเรามีข้อจำกัดในการดูแลคนหมู่มากของ ยูเอ็น หากมีการเจ็บป่วยบาดเจ็บเดินไม่ได้ เราจะดูแลเป็นพิเศษ หน้าที่ของเราคือดูแลทุกคนให้ปลอดภัย ซึ่งเป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล ซึ่งไม่ใช่แค่ 7 คนนี้เท่านั้นแต่ทุกคนต้องได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียม หลักการดูแลตามมาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าอย่างไร เราจะเร่งให้กรรมการชี้แจงทันที.