รมว.ยุติธรรม เปิดงานอบรม "หลักสูตรไกล่เกลี่ยข้อพิพาท รุ่นที่ 26" กรมคุ้มครองสิทธิผนึกเซ็น MOU ร่วม 6 หน่วยงาน หวังช่วยประชาชนเข้าถึงความยุติธรรม ลดความขัดแย้งเกิดความสมานฉันท์มากขึ้นในสังคม
เมื่อวันที่ 12 มี.ค.64 ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จัดโครงการการฝึกอบรม "หลักสูตรการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
ตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562" รุ่นที่ 26 โดย มีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครอง คณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ผู้บริหารหน่วยงานภาคี ผู้แทนหน่วยงานราชการ วิทยากรอาจารย์ประจำหลักสูตร และผู้เข้ารับการฝึกอบรม ร่วมงาน
โดย นายเรืองศักดิ์ กล่าวรายงานว่า การฝึกอบรมหลักสูตรการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ตาม พ.ร.บ.การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 รุ่นที่ 26 กำหนดจัดระหว่างวันที่ 12-13 มีนาคม 2564 และวันที่ 18-20 มีนาคม 2564 มีผู้เข้ารับการอบรมจำนวน 50 คน ซึ่งเมื่อสำเร็จการฝึกอบรมแล้วจะได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ไกล่เกลี่ยตามกฎหมาย และในวันนี้นับเป็นโอกาสอันดี ที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพได้จัดพิธีลงนามความร่วมมือกับหน่วยงานภาคี 6 หน่วยงาน คือ การเคหะแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ และวิทยาลัยทองสุข เพื่อบูรณาการดำเนินงานด้านการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน การขับเคลื่อนแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท อันเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนเข้าถึงได้อย่างสะดวก รวดเร็วและเป็นธรรม

...
นายสมศักดิ์ กล่าวเปิดงานว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้รัฐพึงจัดระบบการบริหารงานในกระบวนการยุติธรรมทุกด้านให้มีประสิทธิภาพ เป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ และให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยสะดวก รวดเร็ว และไม่เสียค่าใช้จ่ายสูงเกินสมควร ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันมีความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะสร้างความยุติธรรมลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระทรวงยุติธรรมให้ความสำคัญในการนำความยุติธรรมไปสู่ประชาชน อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีความเสมอภาคทุกชนชั้น ดั้งนั้น พ.ร.บ.การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 ถือเป็นกฎหมายที่จะช่วยให้หน่วยงานของรัฐ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคพนักงานสอบสวน และภาคประชาชนสามารถอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนได้โดยสะดวก รวดเร็ว และไม่เสียค่าใช้จ่ายสูงเกินสมควร เกิดความเท่าเทียมกันและเสมอภาคทุกชนชั้น สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและนโยบายรัฐบาล

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามกฎหมาย เป็นการดำเนินการให้คู่กรณีมีโอกาสเจรจาตกลงกัน ระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธีและปราศจากการวินิจฉัยข้อพิพาท และให้ข้อตกลงอันเกิดจากความตกลงยินยอมของคู่กรณีมีสภาพบังคับตามกฎหมาย ซึ่งทุกท่านที่ได้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรนี้ ถือว่าเป็นกลไกที่สำคัญอย่างยิ่ง ที่จะขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม พ.ร.บ.การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ในวันนี้กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐและสถาบันการศึกษา ให้เข้ามามีส่วนร่วมดำเนินงานด้านการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ขับเคลื่อนแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท อันเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการอำนวยความ ยุติธรรมให้ประชาชนเข้าถึงได้โดยสะดวก รวดเร็วและเป็นธรรมอย่างแท้จริง ทำให้ปริมาณคดีขึ้นสู่ศาลลดน้อยลง ลดปัญหาความขัดแย้ง เกิดความสมานฉันท์ขึ้นในสังคม