อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ฟันโรงพยาบาลเอกชน ที่รักษา “พริตตี้วา” ตาม พ.ร.บ. สถานพยาบาล พ.ศ.2541 สองข้อหา ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เตรียมมอบอำนาจให้ผู้เกี่ยวข้องไปแจ้งความ เผยสุดมั่วมีค่าอาหาร 400 บาทอยู่ในบิลค่ารักษา ขณะที่ผลชันสูตรศพ “พริตตี้วา” อย่างเป็นทางการออกแล้ว ผู้ตายไม่ได้ถูกมอมยาและล่วงละเมิดทางเพศ

จากกรณีมารดาของ น.ส.วิชญาพร วิเศษสมบัติ หรือพริตตี้วา ที่รับงานเอนเตอร์เทนในบ้านหรูแห่งหนึ่งย่านเสนานิคม เข้าร้องเรียนต่อกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ว่าโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่รักษาบุตรสาวก่อนเสียชีวิต เรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลจากบุตรสาวที่เป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติจนเป็นเหตุให้เริ่มการรักษาล่าช้า จนอาจเป็นเหตุให้บุตรสาวเสียชีวิต

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 12 มี.ค. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สบส.ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย เชิญตัวแทนโรงพยาบาลเอกชนคู่กรณีและญาติผู้เสียชีวิตเข้าให้ข้อมูลต่อที่ประชุมคณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องร้องเรียน หลังคณะกรรมการพิจารณาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนแล้ว มีมติว่าโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวกระทำผิดจริง สั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่กองกฎหมายดำเนินการเอาผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 กับโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวสองข้อหา ประกอบด้วยความผิดตาม ม.36 เนื่องจากช่วงระยะเวลาที่เกิดเหตุคือวันที่ 23 ก.พ.

สถานพยาบาลไม่มีการคัดแยกผู้ป่วยเข้าข่ายฉุกเฉินวิกฤติ (สีแดง) ในระบบบันทึกและประเมินผู้ป่วยของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เป็นเหตุให้เกิดการคิดค่าบริการในขณะนั้น จนเป็นที่มาของการร้องเรียนการรักษาพยาบาลที่ล่าช้า ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตาม ม.73 เนื่องจากในใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลเรียกเก็บค่าอาหารจากผู้ป่วยเป็นเงิน 400 บาท โดยที่ผู้ป่วยไม่ได้รับบริการ ถือเป็นการจัดทำเอกสารอันเป็นเท็จ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พนักงานเจ้าหน้าที่กองกฎหมายที่รับมอบอำนาจเตรียมแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจตามขั้นตอน

...

“เพื่อป้องกันมิให้เกิดการปฏิเสธหรือเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ผมกำชับให้พนักงาน เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมการรับผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติของโรงพยาบาลเอกชนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่บนเส้นทางหลักที่มีการสัญจรคับคั่ง สร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนที่จะได้รับบริการทางการแพทย์ตามมาตรฐานกำหนด” นพ.ธเรศกล่าว

ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนคดีเสียชีวิต ของ น.ส.วิชญาพร วิเศษสมบัติ หรือพริตตี้วา ที่ไปรับงานเอนเตอร์เทน ที่บ้านหรูย่านเสนานิคม เมื่อวันที่ 23 ก.พ. มีรายงานว่าพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ได้รับผลชันสูตรศพของพริตตี้วาอย่างเป็นทางการแล้ว เบื้องต้นพบศพของพริตตี้วาไม่ได้ถูกมอมยา เพราะตรวจไม่พบเเอลกอฮอล์ พบเพียงสารเสพติด รวมทั้งไม่มีร่องรอยการล่วงละเมิดทางเพศ ส่วนกล้องวงจรปิดที่กองพิสูจน์หลักฐานนำไปกู้ข้อมูลได้ภาพบางส่วนแล้ว ช่วงเวลาประมาณตีสี่ของวันที่เกิดเหตุ พบภาพผู้ตายนั่งอาเจียนอยู่ ผู้ที่อยู่ในงานปาร์ตี้ ยังช่วยนำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งนี้ ตำรวจส่งตัวผู้ที่อยู่ในงานทั้งหมดไปหาสารเสพติดแล้ว ส่วนผู้ใดเป็นเจ้าของยาเสพติดหรือนำเข้ามาในงานอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อหา