ประเด็นการปรับอัตราค่าโดยสาร รถไฟฟ้าสายสีเขียว และความคืบหน้า การต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวยาวไป 30 ปี ระหว่าง กทม. และบริษัทขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ BTSC ทั้งที่เหลือเวลาในการสัมปทานปัจจุบันถึง 9 ปี สัมปทานจะสิ้นสุดลงในปี 2572 ไม่ให้คิดมากก็ต้องคิดบ้างเป็นธรรมดา ที่เห็นอะไรไม่ชอบมา พากล แล้วเรื่องนี้ ประธานบีทีเอส คีรี กาญจนพาสน์ ทำหนังสือไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นเรื่องขอความเป็นธรรมหรือมีเหตุผลอื่นใดก็แล้วแต่ ทางข่าวทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ ให้ คมนาคม กับ มหาดไทย ไปเคลียร์กันให้เรียบร้อย
อันเนื่องมาจากความเห็นของ กทม. ภายใต้สังกัด มหาดไทย กับ กระทรวงคมนาคม ที่อยู่ภายใต้สังกัดของ พรรคภูมิใจไทย ที่ไม่ตรงกัน เลยโยงไปถึง โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี ที่ คมนาคม มีมติปรับเปลี่ยนประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุน หลังจากที่อิตาเลียนไทยมีหนังสือถึงคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ขอให้มีการทบทวนวิธีการประเมินข้อเสนอ (โครงการนี้มีมูลค่า 1.4 แสนล้าน ภายใต้การดูแลของ รฟม.)
ข่าวแนะนำ
เดือดร้อนไปถึง บีทีเอส หมูเขาจะหามเอาคานเข้ามาสอด เลยไปยื่นฟ้อง ศาลปกครอง เป็นการเปลี่ยนกติกา โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอีนุงตุงนังกันไปหมด ถึงขนาดร้องให้เปลี่ยนตัวองค์คณะตุลาการที่พิจารณาคดีนี้กันเลยทีเดียว ไม่หยุดแค่นั้น เล่นกันถึง ฎีกา ทูลเกล้าฯถวายฎีกาขอความเป็นธรรม
ทีนี้แหละมีการเปิดศึกกันจะจะขยายวงไปที่ การขยายอายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ด้วย ว่ากันว่า ขณะที่ มหาดไทย รายงานการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวเสร็จ คมนาคม ลุกขึ้นค้านทันที เตรียมสคริปต์ฉบับเต็มเอาไว้ล่วงหน้า ตาต่อตา หมัดต่อหมัด
ประเด็น ค่าโดยสารแพง ถูกยกมาเป็นข้ออ้าง เมื่อเทียบกับรถไฟฟ้าอื่นๆ เป็นผลรวมไปจนถึงการค้านต่อสัมปทานดังกล่าว เป็นเหตุให้ ครม.ต้องเลื่อนการพิจารณาออกไป
ลามไปจนถึงโครงการรถไฟฟ้าเส้นอื่นๆที่คมนาคมขอทบทวนรายละเอียดของโครงการ เช่น รถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยายสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี ที่ บีทีเอส ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 75
ในภาพรวมการออกมาคัดค้านการขึ้นราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้า ย่อมเป็นผลดีกับประชาชน การค้านการต่ออายุสัมปทานล่วงหน้าอีก 30 ปี ก็เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ได้ทั้งเงินได้ทั้งกล่อง
แต่ ในทางการเมือง และอีกมุมของ โครงการระดับอภิมหาโปรเจกต์ ต้องไปว่ากันอีกที เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังพัฒนา จะมีปัญหาการพัฒนากับการคอร์รัปชัน ที่แยกกันไม่ออก
กระบวนการตรวจสอบจึงเป็นกำแพงสำคัญที่จะปกป้องผลประโยชน์ของชาติและประชาชน บางครั้งทำให้เกิดปัญหาที่กระทบไปถึงชาวบ้านด้วย เช่น โครงการมอเตอร์เวย์ โคราช มีการเปิดการทดลองกันไปเรียบร้อย ปีนี้นึกว่าจะวิ่งได้ในบางช่วง ปรากฏว่า ยังเปิดไม่ได้เพราะมีการร้องว่าบางส่วนของโครงการไปล้ำที่ป่าสงวน หรือการที่ ป.ป.ช.ขอให้การท่าอากาศยานเบรกการลงทุนโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารทิศเหนือมูลค่า 4.2 หมื่นล้าน เพราะไปสะดุดอะไรบางอย่างเข้าการอภิปราย จะถึงใครบ้าง ใครได้ใครเสียไม่รู้
แต่ชาวบ้านถูกจับเป็นตัวประกันไปเรียบร้อย.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th