หนุ่มพาลูกเลี้ยงซ้อนท้าย จยย.ขับเสยท้ายพ่วงจอดข้างทางดับคู่คาที่ เมียรุดดูศพปล่อยโฮเป็นลม โชเฟอร์พ่วงเผยจอดนอน-เปิดไฟผ่าหมากทิ้งไว้ ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาเพราะเป็นจุดห้ามจอด
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 30 พ.ย.63 ร.ต.อ.บัญญัติ ชนะสิทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ตลิ่งชัน รับแจ้งรถชนกันหน้าร้านอาหารปลาอยู่เย็น ถนนราชพฤกษ์ขาเข้า แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม.มีผู้เสียชีวิต จึงเดินทางไปสอบ พร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูรุด
ที่เกิดเหตุเป็นถนนช่องทางหลัก 4 เลน ตรวจสอบที่เลนซ้ายสุดพบรถบรรทุกคอนเทนเนอร์ 22 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ รุ่น 500 สีขาว หมายเลขทะเบียน ส่วนหัว 70-5236 ราชบุรี ทะเบียนส่วนท้ายพ่วง 70-2905 ราชบุรี สภาพรถด้านหลังขวามีรอยยุบและไฟเลี้ยวแตก ห่างจากท้ายรถบรรทุกไปประมาณ 2 เมตร พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน ใกล้กันพบศพ นายธีรภัทร์ รัสมี อายุ 27 ปี สภาพศพนอนหงายใส่เสื้อยืดสีขาวทับด้วยเสื้อคลุมหลายพราง นุ่งกางเกงขาสามส่วนลายพราง มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ใบหน้ายุบศีรษะแตก ข้างกันพบศพ ด.ญ.เพชรรัตน์ ทองมี อายุ 10 ปี สภาพศพใส่เสื้อยืดลายการ์ตูนสีส้ม นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว มีบาดแผลใบหน้ายุบ เนื่องจากกระแทกท้ายรถบรรทุกอย่างแรง เบื้องต้นไม่พบว่าผู้ตายทั้ง 2 ราย สวมหมวกนิรภัยแต่อย่างใด
จากการสอบสวน นายอาคม คณากูล อายุ 29 ปี คนขับรถบรรทุก ให้การว่า ขับรถบรรทุกกระดาษมาจาก อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี กำลังมุ่งหน้าไปส่งที่ท่าเรือ ใน จ.สมุทรปราการ ระหว่างนั้นเกิดอาการง่วงนอน จึงจอดรถที่ริมทางเพื่อพัก โดยเปิดไฟผ่าหมากไว้ แต่เมื่อจอดได้ 10 นาที ก็ได้ยินเสียงดังสนั่นเหมือนมีอะไรมาชนท้าย จึงลงมาดูก็เห็น รถจักรยานยนต์ของผู้ตายล้มอยู่ มีทั้งคนเจ็บและเสียชีวิต จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าให้การช่วยเหลือ
...
ต่อมา น.ส.สายพิณ กลีบบัว อายุ 27 ปี แฟนสาวของ นายธีรภัทร์ และเป็นมารดา ของ ด.ญ.เพชรรัตน์ ผู้ตายทั้ง 2 ได้เดินทางมาดูศพสามีและลูกสาว ที่ สน.ตลิ่งชัน โดยเมื่อเดินทางมาถึง น.ส.สายพิณ ก็ถึงกับร้องไห้โฮเป็นลม จนเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องหามไปนอนพัก เบื้องต้น นาสายพิณ ให้ข้อมูลว่า ตนกับแฟนหนุ่มมีอาชีพขายกับข้าวที่ตลาดพรานนก เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมามีปากเสียงกับแฟนเล็กน้อย แฟนจึงพาลูกสาวซึ่งเกิดกับสามีเก่า ออกมาจากบ้านย่านพรานนก โดยพากันขับรถจักรยานยนต์ไปบ้านเกิดที่ จ.พระนครศรีอยุธยา คาดว่าขากลับแฟนคงมองไม่เห็นรถบรรทุกจอดอยู่ ทำให้ขับพุ่งชนท้ายเข้าอย่างจัง เป็นเหตุให้เสียชีวิตไปพร้อมกันทันที
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้เชิญตัว นายอาคม โชเฟอร์รถบรรทุกมาสอบปากคำที่โรงพัก เพื่อรอการแจ้งข้อหาอีกครั้ง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นจุดห้ามจอดรถ ส่วนศพผู้ตายทั้ง 2 จะมอบให้แพทย์นิติเวชนำไปผ่าชันสูตรอย่างละเอียด รอการมอบให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป