เกิดเป็นดราม่าบนโลกออนไลน์อยู่บ่อยครั้ง จากการรีวิวสินค้าและบริการในแง่ลบ จนเกิดการฟ้องร้องหรือขู่จะฟ้องโดยเจ้าของธุรกิจ และกรณีโรงแรมแห่งหนึ่งในไทย ยื่นฟ้องนักท่องเที่ยวชายชาวอเมริกันที่ทำงานในไทย ในข้อหาหมิ่นประมาท เขียนรีวิวในแง่ลบ ก่อนมีการไกล่เกลี่ยและนักท่องเที่ยวต้องทำหนังสือขอโทษ รวมถึงเคสของ “พลอย ชิดจันทร์” โดนฟ้อง 50 ล้านบาท หลังเผยแพร่คลิปรีวิวบ้านที่เจอปัญหามาโดยตลอด

ยังไม่รวมอีกหลายๆ เคส มีผู้รีวิวในสื่อโซเชียล ถูกฟ้องร้อง หรือบางคนถูกฟ้องปิดปากก็มี และต่อไปหากใครจะรีวิวในเรื่องใดที่อาจได้รับผลกระทบจากใช้สินค้าและบริการ ควรแสดงความคิดเห็นในลักษณะใดไม่ให้โดนฟ้อง โดย “ทนายเจมส์” นิติธร แก้วโต กล่าวกับ “ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์” ว่า ผู้วิจารณ์แสดงความเห็นจะต้องเกี่ยวข้องกับสินค้าและผลิตภัณฑ์นั้นๆ โดยตรง และสิ่งที่วิจารณ์ต้องติชมด้วยความเป็นธรรมสุจริต ไม่ใช่จงใจซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์นั้นๆ เพื่อโจมตี ทำลายชื่อเสียง หรือบูลลี่ จากการรับเงินจากฝ่ายตรงข้าม ถือเป็นการวิจารณ์โดยไม่สุจริต

“อีกเรื่องหนึ่ง การวิพากษ์วิจารณ์ต้องเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์โดยตรง ไม่ใช่ไปวิจารณ์ในเรื่องผลประกอบการของเขา บอกว่าเป็นเหตุทำให้เลย์ออฟพนักงาน จนทำให้ผลิตภัณฑ์ไม่ดีไม่มีคุณภาพ เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องเลย ถือเป็นการวิจารณ์เรื่องส่วนตัว ซึ่งทำไม่ได้ ส่วนกรณีของนักท่องเที่ยวอเมริกัน โดนฟ้องนั้น มองว่าอาจเป็นการติชมเรื่องค่าบริการแพง ก็เป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต และหากพูดง่ายๆ เป็นการฟ้องเพื่อปิดปาก”

...

 

ทนายเจมส์ ยังยกตัวอย่างกรณีแม่บ้านรายหนึ่งซื้อขนมปังมากิน โดยเคี้ยวคำแรกไม่เจอ แต่เคี้ยวคำต่อไปเจอจิ้งจก ซึ่งมีการโพสต์คลิปและมีสำนักข่าวหนึ่งเล่นข่าวนี้ จากนั้นมีการฟ้องผู้เผยแพร่คลิปคนแรก และแม่บ้านที่กินจิ้งจกเข้าไป โดยบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ยืนยันมั่นใจในการผลิต นำไปสู่การฟ้องร้อง และโดยส่วนตัวมองว่าหากขึ้นสู่ศาล มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริง เชื่อว่าจะมีการยกฟ้อง เนื่องจากเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต แต่ไม่ว่าผลิตภัณฑ์จะเป็นอย่างไร ทางบริษัทต้องฟ้องเพื่อปิดปาก หากผู้วิพากษ์วิจารณ์ใจแข็งไม่พอ ไม่อยากเสียเวลา ก็ต้องยอม

“คำถามของผม ไม่ว่าคนวิจารณ์จะผิดหรือถูก ก็เสี่ยงถูกฟ้อง และเมื่อแสดงความเห็นโดยสุจริตแล้ว แต่สิ่งที่เสียไป ใครจะรับผิดชอบในการค่าใช้จ่าย ทั้งค่าทนาย ค่าใช้จ่ายต่างๆ หากจะวิจารณ์ควรใช้ถ้อยคำ เป็นการติชม อย่าใช้คำที่แรงเกินไป อย่าใช้อารมณ์ ควรมีขอบเขต เพื่อไม่เป็นการเปิดช่องให้เขาฟ้องได้ และอย่าพูดคำว่าโกง ควรตั้งข้อสงสัยเพียงว่าสินค้าผลิตภัณฑ์นั้นดี หรือไม่ดี เป็นลักษณะไม่ได้ยืนยันข้อเท็จจริง ก็ไม่ถูกฟ้อง หรืออาจถูกฟ้องปิดปาก”

 

ในกรณีของพลอย ชิดจันทร์ มองว่าสุดท้ายแล้วจะมีการไกล่เกลี่ย เพราะการออกมาฟ้องร้องของบริษัทอสังหาฯ ก็เพื่อต้องการเรียกชื่อเสียงกลับคืนมา โดยตามมาตรา 329 ประชาชนสามารถติชมได้ หากทำด้วยความสุจริต ซึ่งทำให้งงว่าทำไมมีการฟ้องร้อง หรือกรณีมีการโฆษณาเกินจริง สามารถแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ และสุดท้ายแล้วหากใครจะออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ควรระมัดระวัง เพราะจะทำให้เสียเวลา และถามว่าจะได้อะไรจากสิ่งนี้.