ผบช.น. แจงเอาผิดผู้ชุมนุมทางการเมือง 80 หมาย ยันไม่ได้กลั่นแกล้งให้ใคร เป็นการรวบรวมความเสียหาย และการร้องทุกข์ของประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ส่วนเหตุทำร้ายร่างกายใน ม.รามคำแหง ตำรวจออกหมายเรียกแล้ว 1 ราย
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 2 พ.ย.63 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมนัดหมายการชุมนุมบริเวณสถานี MRT ย่านท่าพระ ในช่วงเย็นวันนี้ โดยระบุว่า หากมีการขออนุญาตชุมนุมถูกต้องตามกฎหมาย ตำรวจก็จะเข้าไปจัดระเบียบดูแลความเรียบร้อยให้ โดยยืนยันว่าไม่มีการเลือกปฏิบัติ แต่เนื่องจากที่ผ่านมากลุ่มผู้ชุมนุมมักไม่ขออนุญาตจัดการชุมนุมในสถานที่ต่างๆ ตำรวจจึงจำเป็นต้องดำเนินคดีไปตามข้อเท็จจริง

ส่วนที่มีการเปิดเผยข้อมูลว่า จะมีการดำเนินคดี 80 หมายกับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า แต่ละหมายแต่ละคดี เป็นการรวบรวมการกระทำความผิดในพื้นที่ สน.ต่างๆ รวมถึงที่มีผู้เสียหาย ทั้งที่เห็นหลักฐานการกระทำความผิดทางโซเชียลมีเดีย หรือเห็นด้วยตนเอง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจ ทำให้เมื่อรวมกันแล้วจึงมีคดีความมากถึง 80 คดี บางคดีเกิดขึ้นในพื้นที่นครบาลอย่างเดียว ขณะที่บางคดีเกิดขึ้นคาบเกี่ยวหลายพื้นที่
...

ส่วนกรณีเหตุชุลมุนที่เกิดขึ้นหน้า สน.ประชาชื่นนั้น พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน ยังระบุไม่ได้ว่ามีกี่คนเข้าข่ายต้องถูกดำเนินคดี ส่วนเรื่องยุทธวิธีการเคลื่อนย้ายผู้ต้องหา หรือการอายัดตัว ยอมรับว่าต้องมีการศึกษาปัญหา เพื่อปรับเปลี่ยนยุทธวิธีใหม่ ส่วนการแชร์ข้อมูลที่มีการพาดพิงถึงการกระทำของเจ้าหน้าที่ เรื่องนี้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เป็นผู้ตรวจสอบดำเนินการ

สำหรับกรณีการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายกลุ่มผู้ชุมนุมที่ไปทำกิจกรรมภายในมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา คดีนี้มีผู้ร้องทุกข์ทั้งหมด 5 ราย เป็นผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งหลังนำส่งแพทย์ตรวจรับการรักษาแล้ว แพทย์ลงความเห็นว่ามี 2 รายต้องพักรักษาตัว 10-14 วัน ส่วนผู้ต้องสงสัย 10 คนที่มีการระบุรายชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการเข้าไปทำร้ายร่างกายนั้น พนักงานสอบสวนได้เรียกตัวมาสอบปากคำแล้ว พบการกระทำความผิดชัดเจน 1 ราย ซึ่งได้ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดที่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายร่างกายในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ ส่วนที่เหลือยังอยู่ในขั้นตอนการเปรียบเทียบพยานหลักฐาน ว่าในวันเกิดเหตุได้ร่วมกระทำความผิดในข้อหาใดหรือไม่ ทั้งนี้ยืนยันว่าแต่ละคดีที่ตำรวจดำเนินการ ไม่มีการเลือกปฏิบัติหรือถ่วงเวลา เช่นในคดีนี้ก็ใช้เวลาเพียง 9 วันก็สามารถออกหมายเรียกผู้ต้องหาได้แล้ว ขณะที่บางคดี เช่น เหตุการณ์ชุมนุมที่ท้องสนามหลวงเมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. ตำรวจยังดำเนินคดีได้ไม่ครบทุกคน.
