ผู้ต้องหาสาวเครียดปีนลูกกรงในห้องขังขึ้นไปถึงเพดานสูง 3 เมตรจะฆ่าตัวตาย โกลาหลทั้งโรงพัก เกลี้ยกล่อมนาน 30 นาทีถึงยอมลงมา สาเหตุเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์โรงแรมย่านห้วยขวางเอาเปรียบและบริการไม่ดี แต่พูดจาวกวนไม่ชัดเจน สอบถามทางโรงแรมเรื่องราวกลับตาลปัตร ถูกแฉว่าจะเข้าพักโรงแรมแต่ไม่ยอมจ่ายเงินก่อน ลงมือทำร้ายรีเซฟชันและทำลายข้าวของเสียหาย ถูกแจ้ง 2 ข้อหาดำเนินคดีเสียเอง ระหว่างนั้นตำรวจสงสัยขอตรวจค้นรถยนต์ส่วนตัว พบปืน 9 มม. พร้อมกระสุน โดนอีก 2 ข้อหาอาวุธปืนผิดมือ และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะฯ หลังถูกพาเข้าห้องขังเลยเกิดคลั่ง ญาติพร้อมทนายรีบเจรจาโรงแรมและพนักงานจนตกลงยอมความ แต่คดีอาวุธปืนไม่รอดส่งฟ้องศาล 9 ต.ค.สาวคลั่งปีนลูกกรงห้องขังจะกระโดดลงมาฆ่าตัวตายรายนี้ เปิดเผยที่ สน.สุทธิสาร เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า เกิดความโกลาหลภายในห้องขัง เมื่อผู้ต้องหาหญิงคนหนึ่งพยายามฆ่าตัวตาย ด้วยการปีนลูกกรงภายในห้องขังขึ้นไปเกาะหัวชนเพดานห้องสูงกว่า 3 เมตร เมื่อเดินทางตรวจสอบพบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณโถงกลางห้องควบคุมผู้ต้องหา พบหญิงสวมเสื้อกล้ามสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว ทราบชื่อ น.ส.พลอยพัชชา สุขพันศิลา อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาคดีมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาพกพาอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่ต้องนำเบาะมารองที่พื้นจุดที่คาดว่าจะตกลงมา ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานกว่า 30 นาที น.ส.พลอยพัชชาจึงยอมลงมาสงบสติอารมณ์ด้านล่าง เจ้าหน้าที่ตัดสินใจใส่กุญแจมือคล้องไว้กับลูกกรงห้องขังเกรงว่าจะก่อเหตุซ้ำ ขณะที่ น.ส.พลอยพัชชายังคงกรีดร้องไม่พอใจที่ถูกใส่กุญแจมือ จนเจ้าหน้าที่ต้องยอมถอนกุญแจมือออกจึงเริ่มสงบลงผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนถูกจับกุม น.ส.พลอยพัชชาขับรถยนต์ฟอร์ด สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน ขท 5280 ชลบุรี มาที่โรงพักช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. เข้าแจ้งความร้องทุกข์พนักงานสอบสวนว่า โรงแรมมีสไตล์ ย่านห้วยขวางให้บริการไม่ดี หลังจากพยายามสอบสวนรายละเอียดเบื้องต้น น.ส.พลอยพัชชาให้การวกไปวนมาจับต้นชนปลายไม่ถูกคล้ายคนเมา จึงประสานไปยังโรงแรมที่ น.ส.พลอยพัชชาร้องทุกข์ ได้รับคำชี้แจงเบื้องต้นจากพนักงานโรงแรมและเดินทางมาพร้อมภาพกล้องวงจรปิด ให้การว่า น.ส.พลอยพัชชาทำร้ายร่างกายพนักงานและทำลายข้าวของเสียหาย ตำรวจจึงขอให้พาไปตรวจค้นรถ พบปืน 9 มม. พร้อมเครื่องกระสุนจำนวน 6 นัด และซองปืน 1 อันที่เบาะหลังรถ ส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ดำเนินคดี จนเกิดเหตุการณ์คลุ้มคลั่งดังกล่าวนายศตวรรษ ทรรพกาญจน์ ทนายอาสาประจำ สน.สุทธิสาร ผู้อยู่ในเหตุการณ์เผยว่า สภาพของ น.ส.พลอยพัชชา มีอาการคล้ายคนเมา ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง พยายามเสนอให้น้ำและอาหารให้รู้สึกผ่อนคลายแล้วลงมาด้านล่าง ก่อนเจ้าหน้าที่จะเอากุญแจมือคล้องมือไว้กับลูกกรง เพื่อป้องกันไม่ให้ปีนขึ้นไปอีก จากการพูดคุยเห็นว่า น.ส.พลอยพัชชา มีความรู้ทางกฎหมายดี รู้สิทธิทางกฎหมายของตัวเองครบถ้วน สอบถามเบื้องต้นทราบว่า ทำงานอยู่ที่พัทยา จ.ชลบุรี แต่ไม่รู้ว่าอาวุธปืนมาจากไหน เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบด้าน พ.ต.ท.สืบพงศ์ กรุณา รอง ผกก. (สอบสวน) สน.สุทธิสาร เผยว่า ก่อนจับกุมคดีอาวุธปืน น.ส.พลอยพัชชาขับรถฟอร์ด โฟกัส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ขท 5280 ชลบุรี มาแจ้งความที่ สน.สุทธิสาร ว่า เข้าพักที่โรงแรมมีสไตล์ ย่านห้วยขวาง แต่ถูกเอาเปรียบและบริการไม่ดี พนักงานสอบสวนไปตรวจสอบกับทางโรงแรม แต่ปรากฏว่าเรื่องราวกลับตาลปัตรเป็นว่า น.ส.พลอยพัชชาจะไปเข้าพักโรงแรมดังกล่าว แล้วไม่ยอมจ่ายเงินค่าห้องก่อน จากนั้นทำร้ายร่างกายพนักงานรีเซฟชัน และทำลายข้าวของของโรงแรมเสียหาย ตัวแทนโรงแรมมาแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น และทำให้เสียทรัพย์ มีญาติและทนายความของ น.ส.พลอยพัชชาติดต่อมาว่า ชดใช้ค่าเสียหายทางโรงแรมแล้วพ.ต.ท.สืบพงศ์กล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ขอตรวจค้นรถของ น.ส.พลอยพัชชา พบปืนพก 9 มม. เครื่องกระสุนขนาด 9 มม. 6 นัด และซองปืน อยู่บนเบาะรถด้านหลังคนขับฝั่งขวา ดำเนินคดีอีก 1 คดี ตามความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนคือ พกพาอาวุธปืนไปในเมืองและที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และอาวุธปืนผิดมือ เนื่องจากตรวจสอบพบว่าปืนของกลางมีชื่อเป็นของคนอื่น นอกจากนี้จากการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด เบื้องต้นไม่พบสารเสพติด หรือแอลกอฮอล์ต่อมาญาติของ น.ส.พลอยพัชชาเดินทางมาที่โรงพัก ยื่นเงินสด 150,000 บาท ขอประกันตัวออกไปในชั้นพนักงานสอบสวน โดยพนักงานสอบสวนนัดให้มาพบ เพื่อส่งตัวฟ้องศาลอาญาวันที่ 9 ต.ค.นี้
