“อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ แต่จะต้องไม่รุนแรงถึงขั้นทำให้บาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต” เป็นหลักการสำคัญของการบริหารจัดการอุบัติเหตุทางถนน ดังนั้น อุบัติเหตุที่โค้งถนนรัชดาภิเษก บริเวณหน้าศาลอาญา ที่เกิดขึ้นในเดือนกันยายน 3 ครั้ง ภายในเวลา 9 วัน มีผู้เสียชีวิตถึง 4 ราย จึงเป็นเรื่องที่วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ให้ความสำคัญ
“รายงานวันจันทร์” วันนี้จะไปคุยกับประธานคณะอนุกรรมการสาขาป้องกันอุบัติเหตุทางถนนและการเสียชีวิตวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) “พิชัย ธานีรณานนท์” เกี่ยวกับเรื่องนี้
อุบัติเหตุที่โค้งรัชดาภิเษกมีสาเหตุจากอะไร?
พิชัย-จากการรับฟังปัญหาและลงพื้นที่ตรวจวิเคราะห์พบว่า ถนนรัชดาภิเษก เป็นถนนขนาด 8 ช่องจราจร ไปกลับ โดยในช่วงโค้งถนนถัดจากอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธิน ผ่านซอยรัชดา 36 (เสือใหญ่อุทิศ) ถึงซอยรัชดา 32 รวมระยะทางเกือบ 2 กม. มีรัศมีโค้งกว้างมาก ลักษณะของอุบัติเหตุส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในเวลากลางคืน เพราะปริมาณรถน้อยถนนโล่ง ทำให้ผู้ขับขี่หลายคนใช้ความเร็ว
เดิมอุบัติเหตุจะเกิดถนนรัชดาฯฝั่งขาออก แต่หลังจากมีอุโมงค์ทางลอดแยกรัชโยธินอุบัติเหตุส่วนใหญ่เปลี่ยนมาเกิดฝั่งขาเข้าเมืองแทน เนื่องจากรถที่ลอดอุโมงค์แยกรัชโยธินมักจะต้องเร่งความเร็วตลอดมาจนถึงโค้งถนน ซึ่งไม่มีกลไกชะลอความเร็วของรถลง ดังนั้นหากความเร็วรถสูง ผู้ขับจะควบคุมได้ยาก หรือไม่สามารถควบคุมรถให้วิ่งตามแนวเส้นทางได้
นอกจากนี้ยังพบว่าทางโค้งมีลักษณะเป็นทางโค้งหลังหัก (Broken Back Curve) คือโค้งที่มีสองรัศมีซึ่งเชื่อมด้วยเส้นตรงสั้น ทำให้เมื่อผู้ขับขี่เข้าโค้งจะไม่ปรับพวงมาลัย ดังนั้นหากขับด้วยความเร็วสูงกว่า 80 กม./ชม. มักจะไม่สามารถควบคุมรถได้ ขณะที่ราวเหล็กที่เกาะกลางถนนและขอบทางเท้า มีระยะร่นจากขอบทางเข้าไปอีกประมาณ 30 ซม. ทำให้ประสิทธิภาพราวเหล็กที่จะป้องกันอันตรายจากรถชนนั้นลดลง
...
อีกทั้งตำแหน่งของราวเหล็กกั้นริมทางเท้าอยู่ชิดกับเสาไฟฟ้าอีกด้วย รถที่เสียหลักจะพุ่งชนขอบทางเท้า ก่อนจะเหินไปชนราวเหล็ก รวมถึงผิวจราจรบริเวณโค้งไม่เรียบ มีการสึกกร่อน เมื่อฝนตกจะเป็นหลุมน้ำขัง มีส่วนทำให้รถที่วิ่งมาเกิดล้อแฉลบ การควบคุมรถเกิดความเสี่ยงได้ นอกจากนี้บริเวณทางโค้งซอยรัชดา 36 มีรถเข้าออกจำนวนมาก ถ้าไม่สังเกตจะเกิดการเฉี่ยวชนได้
จะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร?
พิชัย-การแก้ไขปัญหาระยะสั้น จะต้องแก้ไขทางโค้งหลังหักให้เป็นทางโค้งเดียวกัน โดยเพิ่มการนำทางโค้งด้วยการติดตั้งเครื่องหมายจราจรบนผิวทางแบบสะท้อนแสงที่แนวด้านนอกขอบโค้ง และติดตั้งป้ายบังคับความเร็วให้ประชาชนเห็นชัดเจนทั้งบนผิวถนน และป้ายบังคับความเร็วแบบอิเล็กทรอนิกส์แบบแขวนสูง รวมถึงติดตั้งกลไก ชะลอความเร็วของรถยนต์ (Traffic Calmin) ส่วนราวเหล็กกั้น ควรใช้ราวกันชนแบบคอนกรีตหุ้มวัสดุยางเพื่อลดแรงกระแทกตั้งชิดขอบ
ทางเท้า หรือราวกันชนแบบโรลเลอร์ นอกจากนี้ จะต้องปรับปรุงผิวถนน ให้สภาพดี เรียบตามมาตรฐาน ปูผิวด้วยหินเล็ก (Chip sea) เพื่อลดความเสี่ยงการเสียหลักหลุดโค้ง แนะนำประชาชนระมัดระวังการใช้ความเร็วรถ
ทางแก้ปัญหาถาวรต้องแก้ไขอย่างไร?
พิชัย-ควรยกโค้ง (Superelevation) เพิ่มแรงต้านข้างบนล้อรถ Sideway Force โดยการยกโค้งด้านนอกให้สูง เพื่อให้บังคับล้อรถให้วิ่งเข้าโค้งได้อย่างปลอดภัย รวมถึงมุ่งเน้นพัฒนาหลักสูตรและปลูกฝังทัศนคติความปลอดภัยตั้งแต่วัยเด็กในโรงเรียน
สรุปสาเหตุเกิดจากปัญหากายภาพของถนน การออกแบบด้านวิศว-กรรมจราจรที่ไม่เหมาะสม และพฤติกรรมการขับขี่ ซึ่งทาง กทม.รับหลักการ โดยจำเป็นต้องจัดแผนเร่งด่วนที่ทำได้เร็ว (Quick Win) และแผนระยะยาวที่ต้องใช้เวลาและเสนองบประมาณเพื่อดำเนินการต่อไป.