เมื่อฟ้าลิขิตให้ได้เป็นเซ็มบัตสึด้วยการแข่งเป่ายิ้งฉุบ "จีจี้ BNK48" คนดวงดีเป็นเซ็นเตอร์ยืนตรงกลางในเพลงใหม่ รวมทั้งอันเดอร์เกิร์ลผู้โชคดีได้โอกาสโชคชะตาจะให้ได้มาเปล่งประกายได้ยืนบนเวที

  • งานแข่งขันเป่ายิ้งฉุบเพื่อเลือกเซ็มบัตสึของวง ตระกูล 48 ในไทย
  • จีจี้ BNK48 เซ็นเตอร์ที่ได้มาโดยการเป่ายิ้งฉุบชนะรวดทุกตา
  • โอกาสที่จะได้ติดเพลงหลัก โดยไม่มีเรื่องฐานแฟนคลับชื่อเสียงมาเกี่ยวข้อง

ผ่านพ้นไป 1 สัปดาห์กับกิจกรรมสำคัญของเหล่าไอดอลหญิงวง BNK48 และวงน้องสาวจากเชียงใหม่ CGM48 กว่า 64 ชีวิต ที่ต้องมาแข่งขันในรายการ BNK48 JANKEN TOURNAMENT 2020 - SENBATSU OF DESTINY เฟ้นหา CENTER & SENBATSU ที่เป็นการแข่งขันเป่ายิ้งฉุบ เพื่อหาผู้ชนะเพียงคนเดียวครองตำแหน่ง JANKEN QUEEN คนแรกของประเทศไทย ที่จะได้สิทธิ์ในการเป็นเซ็นเตอร์ และเซ็มบัตสึ 15 คน ในเพลงหลักของอัลบั้มชุดที่ 3 อันเป็นกิจกรรมที่สืบทอดมาจากวงพี่ต้นฉบับจากญี่ปุ่นนั่น คือ AKB48

...

ต้องอธิบายสักนัดสำหรับท่านผู้อ่านไทยรัฐที่อาจจะไม่เข้าใจ หรือไม่รู้จักวงไอดอล BNK48 และ CGM48 ทั้ง 2 วงนี้เป็นวงน้องสาวของวงไอดอลสาวชื่อดังของญี่ปุ่น AKB48 โดยในตระกูล 48 นี้ ในเพลงแต่ละซิงเกิลจะมีสมาชิกหลักในเพลง 16 คน เป็นพื้นฐาน หรืออาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่าได้ตามความเหมาะสม เราเรียกสมาชิกเพลงหลักว่า เซ็มบัตสึ ในระบบ 48กรุ๊ป (โฟร์ตี้เอดจ์กรุ๊ป) จะมีการคัดเลือกสมาชิกในวงมาเป็นเซ็มบัตสึ โดยการเลือกของผู้บริหาร ที่อ้างอิงไปตามปัจจัยต่างๆ เช่น ความนิยม ชื่อเสียง ฐานแฟนคลับ ความสามารถ ร้องและเต้น หน้าตา ภาพลักษณ์ หรืออื่นๆ ตามที่ทางต้นสังกัดกำหนด

ระบบการคัดเลือกเซ็มบัตสึของวง 48กรุ๊ป

ในสมาชิก 16 คน จะมีเพียงคนเดียวที่ได้ตำแหน่ง “เซ็นเตอร์” ที่จะมายืนตรงกลาง เป็นคนนำร้องหลักในเพลง หรือออกรายการ ออกทีวี โปรโมตตามสื่อให้สัมภาษณ์ ก็จะเป็นหน้าที่ของเซ็นเตอร์ หรือถ้าหากมีกัปตันวงอยู่ก็จะเป็นหน้าที่ของกัปตันที่จะตอบคำถามสื่อ โดยที่ผ่านมา BNK48 จะมีสมาชิกที่เป็นเซ็มบัตสึหลักๆ ที่ติดบ่อยจนถูกแฟนคลับ หรือ เหล่าโอตะ เร่ิมมองว่าการเลือกเซ็นเตอร์และเซ็มบัตสึในแต่ละเพลงมีความเป็นธรรม หรือให้โอกาสสมาชิกในวงอย่างยุติธรรมหรือไม่

จึงมีการคิดกิจกรรมที่ให้แฟนคลับเป็นผู้เลือก ผู้ที่จะมาเป็นเซ็มบัตสึเอง ผ่านการลงคะแนนเสียง นำไปสู่การเลือกตั้ง หรือเซ็มบัตสึ โซเซ็นเคียว หรืองาน General Election ที่แฟนคลับเป็นผู้ลงคะแนนเลือกได้เองเริ่มจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2009 และเป็นกิจกรรมหลักที่จัดขึ้นมาทุกปีต่อเนื่องกัน แต่อย่างไรก็ตาม โอกาสก็จะอยู่กับ เมมเบอร์ที่มีความดัง มีชื่อเสียง หรือเป็นที่รู้จัก ฐานแฟนคลับแน่น ส่วนคนรองๆ ที่แฟนคลับน้อยกว่าโอกาสก็จะน้อยตามไป ทางต้นสังกัดที่ญี่ปุ่น จึงมีการจัดการแข่งขัน ที่เรียกว่า JANKEN หรือการแข่งขันเป่ายิ้งฉุบ เป็นงานใหญ่ประจำปีของวง AKB48 มาตั้งแต่ปี 2010 เพื่อเปิดโอกาสให้เมมเบอร์ทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกันที่จะติดเซ็มบัตสึ ในซิงเกิลด้วยการใช้ทักษะ และดวงมาเป่ายิ้งฉุบกัน นอกจากนี้ยังเปิดกว้างให้เมมเบอร์ได้คิดและออกแบบเครื่องแต่งกายที่จะมาร่วมงานเป่ายิ้งฉุบด้วย

...



JANKEN QUEEN คนแรกของประเทศไทย

ผลการแข่งขันจากงาน BNK48 JANKEN TOURNAMENT 2020 - SENBATSU OF DESTINY ผู้ที่ครองตำแหน่ง JANKEN QUEEN คนแรกของประเทศไทย คือ จีจี้ BNK48 น.ส.ณัฐกุล พิมพ์ธงชัยกุล สมาชิก BNK48 รุ่นที่ 2 จากผู้เข้าแข่งขัน 64 คน เธอได้ใช้แต้มบุญ โชคชะตา และดวงเอาชนะเมมเบอร์ในวงจนสามารถครองตำแหน่งได้สำเร็จ โดยผู้ที่ติดเซ็มบัตสึอีก 15 คน ในการแข่งขันครั้งนี้ ประกอบด้วย อร BNK48 วี BNK48 และเฌอปราง BNK48 สมาชิกหลัก BNK48 ได้แก่ ปัญ ก่อน มายู เจนนิษฐ์ มินมิน พาขวัญ ส่วนสมาชิก CGM48 ได้แก่ ปาริมะ นีน่า เคียล่า ฟอร์จูน มิลค์ และณิชา

...

นี่เป็นอีกทางหนึ่งของการคัดเลือกหาเซ็นเตอร์ ในแบบที่ให้โชคชะตาเป็นตัวกำหนด โดยผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนสามารถใช้โชคจากการเป่ายิ้งฉุบเอาชนะเมมเบอร์อีกคนได้ เพื่อผ่านเข้ารอบต่อไป ซึ่งอย่างน้อยจะต้องชนะ 2 ครั้งขึ้นไปจึงจะการันตีสิทธิ์ในการเข้ารอบไปเป็นเซ็มบัตสึได้ การเป่ายิ้งฉุบถูกแบ่งเป็น 4 สายแต่ละสายจะมีคนได้เป็นเซ็มบัตสึ 4 คนจาก 64 คนผู้ชนะผ่านเข้าสู่รอบ 32 คนและรอบ 16 คน (ตรงนี้จะได้เซ็มบัตสึแล้ว) จากนั้นก็แข่งเพื่อคัดให้เหลือ 8 คน แล้วก็หาผู้ชนะที่ผ่านเข้ารอบตัดเชือก ก็จะหาผู้ชนะเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ 4 คน

แข่ง JANKEN เรื่องโชคเรื่องดวง เครื่องรางของขลัง ต้องมี

เสน่ห์ของการแข่งขันเป่ายิ้งฉุบแบบไทยที่ได้เห็นกัน นอกจากเครื่องแต่งกายชุดที่แต่ละคนใส่มาในหัวข้อเกี่ยวกับความเป็นไทยแล้ว เรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เครื่องราง ของที่จะมายึดเหนี่ยวจิตใจ นำโชค ก็เป็นเรื่องที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ที่สำคัญ เพราะทุกครั้งที่มีคนขึ้นมาแข่งขันบนเวทีก็จะเห็นมีการพนมมือท่องคาถา บทสวด เพื่อให้โชคดี แถมก่อนหน้านี้บางคนเดินสายไหว้พระทำบุญที่วัดกันหลายคน เช่น น้ำหนึ่ง BNK48 สาวสิงห์บุรี และ ณิชา CGM48 สาวเชียงราย ที่มาเจอกันในรอบแรก ทั้งคู่จัดว่าเป็นไอดอลสายบุญที่เข้าวัดทำบุญไหว้พระกันหนักมาก แม้แต่วันแข่งก็เลือกสีที่เป็นสีมงคลในวันเสาร์ คือ สีน้ำเงินเพื่อให้เด่นในโชคลาภ ออกจากที่พักก็ต้องรอฤกษ์มงคลก้าวเท้าออกหอ และสุดท้าย ผู้ที่ชนะ คือ ณิชา CGM48 ที่ดวงดีจนสามารถติดเซ็มบัตสึได้ ส่วน เจนนิษฐ์ BNK48 ก็มาในชุดแต่งกายแบบกระโปรงสุ่มยาวพร้อมกับภาชนะไทยๆ เพื่อเอาเคล็ดเรื่องดวง นี่ก็เป็นอีกคนที่ใช้เรื่องความเชื่อเข้ามาช่วยในการตัดสินใจจนสามารถเข้ารอบ 16 คนได้เช่นกัน

...

ผู้เข้าแข่งขันบางรายก็ถือเคล็ดยึดตามธีมการแต่งกาย เช่น ปัญ BNK48 กัปตันทีม BIII ที่แต่งชุดนักมวยไทยก็มีเจตนารมณ์อันแน่วแน่ ในการออกอาวุธสู้กับคู่แข่งด้วยการออกแต่ค้อน ดังนั้น การที่ต้องมาเจอกับ ตาหวาน BNK48 กัปตันทีม NV ถือเป็นศึกการดวลกันของกัปตันทั้ง 2 ทีม หลังจากเสมอทั้งคู่ออกค้อนมา 2 ครั้ง ความกดดันที่ต้องมาเป่ายิ้งฉุบรอบที่ 3 ปัญยังออกค้อนขณะที่ตาหวานเปลี่ยนมาออกกรรไกร ทำให้ปัญชนะเข้ารอบไป นับเป็นอีก 1 คนที่ออกค้อนอย่างเดียวแล้วเข้ารอบ 16 คนได้ เหมือนกับ นีน่า CGM48 ที่ได้โอกาสติดเซ็มบัตสึจากการออกกรรไกรอย่างเดียว 3 รอบ

ด้าน อร BNK48 ก็เป็นอีกคนที่ต้องมาเจอเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง มิโอริ BNK48 ที่มีเอกลักษณ์ในการถ่ายภาพ คือแบมือขอ 5 บาท ทำให้ อรได้เผยในไลฟ์ตู้ปลาว่าตัวเธอก็คิด และลองวิเคราะห์การออกอาวุธของมิโอริเช่นกันและคิดว่ามิโอริน่าจะดักทางคู่แข่ง ออกสิ่งที่ตรงข้ามกระดาษด้วยการออกค้อน และอรจึงออกกระดาษและเอาชนะมาได้  

ส่วน จีจี้ BNK48 ผู้ครองตำแหน่ง JANKEN QUEEN ปีนี้ มาในชุด ขี่กระทิงมาชิงชัย ที่เป็นสาวนักรบไทยนุ่งตะเบ็งมานขี่กระทิงถือดาบ เผยในไลฟ์ตู้ปลาว่า เธอคิดว่าจะเอาฮาสร้างสีสันเพราะคิดว่าไม่น่าจะเข้ารอบ ไม่ได้คิดอะไรมาเลย มาคิดหน้างานก่อนขึ้นเวที โดยจะเลือกสัญชาตญาณแรกของตัวเอง เพราะไม่อยากเสียใจในภายหลัง นั่นเลยทำให้ดวงพาฟ้าลิขิตให้ชนะทุกคน รวมทั้ง วี BNK48 คู่แข่งในรอบชิงฯ ที่ทั้งคู่ก็ไม่คิดว่าจะได้มาเจอกัน เพราะอยู่คนละสาย แถมการที่เป็นรูมเมตกัน เลยทำให้ทั้งคู่ก็ซ้อมเป่ายิ้งฉุบกันมาตลอด

งาน JANKEN โอกาสครั้งแรกของคนที่รอเปล่งประกาย

BNK48 มีสมาชิกในวงมากมาย แต่โอกาสติดเซ็มบัตสึไม่ได้มีให้ทุกคน หลายคนอยู่มานานแต่โอกาสติดเซ็มบัตสึครั้งแรกก็ยังไม่ค่อยมี โอกาสที่จะได้ออกงานพบสื่อ เพื่อทำให้ตัวเองเป็นที่รู้จักก็มีไม่มาก ผู้ที่โชคดีได้รับโอกาสเต็มในครั้งนี้ ฝั่ง BNK48 คือ พาขวัญ สมาชิกสาวสวยจากจังหวัดสกลนคร นี่เป็นโอกาสติดเซ็มบัตสึเพลงหลักครั้งแรกของตัวเธอ ที่ผ่านมา พาขวัญติดแค่เพลง Reborn ที่เป็นเพลงรองในอัลบั้มชุดที่ 2 จาบาจา ขณะเดียวกันเธอยังได้แสดงโซโลเพลงในเธียร์เตอร์อย่างเพลง พระจันทร์เสี้ยว อีกด้วย

ในส่วนของน้องๆ จาก CGM48 ได้แก่ ปาริมะ นีน่า เคียล่า ฟอร์จูน มิลค์ และณิชา นี่เป็นโอกาสครั้งแรกที่พวกเธอจะได้ร่วมงานกับ BNK48 วงพี่สาว เชื่อว่าน้องๆ จากเชียงใหม่จะได้รับประสบการณ์ และโอกาสที่จะเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น รวมทั้งอันเดอร์เกิร์ลอย่าง เคียล่า และณิชา ที่ติดเซ็มบัตสึครั้งแรก แล้วยังติดในเพลงหลักของวงพี่อีกด้วย นี่จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก ที่ทั้ง 2 คนจะได้ฝึกฝนและพัฒนาตัวเองจากประสบการณ์ที่ได้รับในครั้งนี้

จีจี้ BNK48 เซ็นเตอร์คนใหม่ จากการเป็นสมาชิก BNK48 รุ่นที่ 2 ที่ล่าสุดได้ตำแหน่งอันเดอร์เกิร์ลจากงาน General Election ครั้งที่ 2 ก่อนหน้านี้ เธอพลาดโอกาสไม่ติดอันดับในการเลือกตั้ง General Election ครั้งแรก แต่ก็ยังได้รับโอกาสให้เป็นเซ็มบัตสึในเพลง จาบาจา และ 77 ดินแดนแสนวิเศษ พร้อมทั้งยังเป็นเมมเบอร์ที่ออกรายการ The skaXBNK48 บ่อยครั้ง ทำให้สกิลวาไรตี้มีสูง แถมยังเป็นเมมเบอร์อีก 1 คนที่ไลฟ์สดได้สนุกคน ติดตามเยอะ จีจี้ จะได้โอกาสเป็นเซ็นเตอร์เพื่อพิสูจน์ความสามารถ เชื่อว่าแฟนคลับคงเฝ้ารอดูเธอยืนตรงกลางแถวหน้ากันอย่างใจจดใจจ่อ.

เรื่องและภาพโดย : จุลดิส รัตนคำแปง

ข้อมูลประกอบ    : BNK48