“อรรถพล ใหญ่สว่าง” เผย พบ “บิ๊กตู่” ในการประชุมสภา วปอ. สั่งกำชับให้เลขาฯ ป.ป.ท. ส่งเอกสารการสอบคดี “บอส อยู่วิทยา” ของชุด “วิชา มหาคุณ” ฉบับเต็มกว่า 6,000 หน้า พร้อมคลิปเสียงหลักฐานให้ถึงมือด้วยตัวเอง รับต้องรีบอ่านสำนวนทั้งหมดก่อนเอาเข้าที่ประชุม ก.อ. วันที่ 10 ต.ค.นี้ เพื่อจะได้รู้แนวทางว่า ต้องสั่งสอบใครบ้าง ยกตัวอย่างเคยสอบอัยการและถูกดำเนินคดีอาญาไปแล้ว นายกฯเผยคดีบอสต้องไม่ล่าช้า ทั้งการสอบผู้เกี่ยวข้อง และการออกหมายแดงตำรวจสากล เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

กรณีสำนักข่าวต่างประเทศตีแผ่ข่าวอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา อายุ 31 ปี ทายาทกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง กรณีขับรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ชนรถ จยย. ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิตบนถนนสุขุมวิท เหตุเกิดเมื่อเช้ามืดวันที่ 3 ก.ย.2555 แล้วหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศจนถูกออกหมายจับ รวมทั้งออกหมายแดงตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) หลังการสั่งคดียืดเยื้อมากว่า 7 ปี ความผิดบางข้อหาหมดอายุความไปแล้ว เหลือแต่คดีหลักขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต่อมาอัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้องโดยตำรวจไม่มีความเห็นแย้งอย่างเงียบๆ ทำให้นายวรยุทธกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ หลังความแตกสร้างกระแสความไม่พอใจให้คนในสังคมอย่างรุนแรง จนหน่วยงานอัยการตำรวจ รวมไปถึงรัฐบาล ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคดีที่เกิดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหา ต่อมาคณะทำงานของตำรวจ อัยการ และชุดของนายวิชา มหาคุณ ตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว ส่งผลกลับไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ประมวลผลการสอบสวนส่งข้อมูลต่อไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

...

ความคืบหน้าจากสำนักงานอัยการสูงสุด (อส.) เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 22 ก.ย. นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุม ก.อ.ครั้งที่ 10/2563 ความคืบหน้าหลังรับสำนวนการสอบสวนคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา จากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดนายวิชา มหาคุณ ที่มาจากเลขาธิการ ป.ป.ท.ว่า เนื่องจากครั้งที่แล้วสำนวนที่ได้มาจากเลขาฯ ป.ป.ท.เป็นสำนวนฉบับย่อ จึงทำหนังสือไปถึงเลขาฯ ป.ป.ท.เพื่อขอฉบับเต็ม วันนี้ช่วงเช้ารับแจ้งจากเลขาฯ ป.ป.ท.ว่า เอกสารสำนวนฉบับเต็มพร้อมคลิปเสียงรวบรวมไว้แล้ว แต่ต้องเข้าคณะกรรมการในส่วนของ ป.ป.ท.อีกครั้งหนึ่ง แล้วท่านจะนำมาส่งถึงตนด้วยตัวเองเร็วๆนี้ เพราะการจะไปสอบบุคคลใดที่เกี่ยวข้อง หรือเน้นสอบเฉพาะบางคนนั้นไม่ถูกต้อง เราต้องได้เอกสารแล้วสอบทีเดียว

นายอรรถพลกล่าวต่อว่า เมื่อได้เอกสารฉบับเต็มมาแล้ว ฐานะประธาน ก.อ.จะพิจารณาก่อนว่าเป็นอย่างไร เรื่องนี้นายกฯกำชับว่า เอกสารต้องส่งประธาน ก.อ.เพียงคนเดียว ตนต้องดูเบื้องต้นว่า มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ประชุม ก.อ. ครั้งหน้าวันที่ 10 ต.ค.นี้ จะแจ้งไปยังเลขาฯ ก.อ.ขณะนั้น เพื่อนำเสนอเข้าที่ประชุม ก.อ.ทันวันที่ 10 ต.ค. ส่วนประเด็นเรื่องคลิปเสียงอัยการ และต้องสอบใครบ้าง นายอรรถพล กล่าวว่า ตนทราบจากสื่อ เราต้องดูเอกสารสำนวนฉบับเต็ม 6,000 กว่าหน้าและคลิปเสียงตอนนี้ เรายังไม่ได้รับ การจะตั้งสอบใคร ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ มีทั้งหลักเกณฑ์การสอบอัยการทั่วไป และหลักเกณฑ์การสอบระดับรองอัยการสูงสุด เป็นไปตามที่เพิ่งประกาศราชกิจจานุเบกษาเร็วๆนี้ อัยการสูงสุดจะเป็นผู้พิจารณาเริ่มแรก แต่ต้องเสนอเข้า ก.อ.ในการตั้ง ถ้ามีบุคคลที่เกี่ยวข้อง จำเป็นต้องมีหลักเกณฑ์การระบุให้สอบในอนาคต ต้องพิจารณาดูว่า หลักเกณฑ์ดังกล่าวประกาศราชกิจจาฯแล้วหรือไม่

ถามถึงอัยการสูงสุดที่ผ่านมา ดำเนินการอะไรหรือไม่ นายอรรถพลกล่าวว่า อัยการสูงสุดเคยตั้งคณะทำงานก่อนหน้านี้แล้ว แต่ปรากฏข่าวว่าคณะทำงานลาออก อัยการสูงสุดไม่นิ่งนอนใจ ถามถึงการดำเนินการหลังได้รับสำนวนฉบับเต็มแล้ว นายอรรถพลกล่าวว่า หากได้รายงานจากชุดนายวิชาแล้ว จะดูว่ามีใครเกี่ยวข้อง ตนคิดว่าความรู้ความสามารถของตน หากได้อ่านแล้วจะเข้าใจ ประธาน ก.อ.แม้ไม่ได้สอบเอง แต่รู้ว่าควรสอบใคร หากสอบแล้วจะเป็นไปตามที่เราได้ข้อมูลหรือไม่ ต้องว่ากัน คล้ายกับการพิจารณาชั้นศาล ส่วนกรณีหนังสือลาออกของนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด มีผลหรือไม่ นายอรรถพลกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีผล

วันนี้นายเนตรยังมาประชุม ก.อ.ตามปกติ หนังสือลาออกสามารถยับยั้งได้ 3 เดือน ยังไม่ได้ตั้งสอบอะไรเลย มั่นใจว่าตั้งสอบทันก่อนครบกำหนด 3 เดือน นายอรรถพลกล่าวอีกว่า จากที่นายกฯกำชับให้ส่งมายังมือตน ฐานะคนรับมอบต้องลงทุนอ่านสำนวนเอง 6,000 กว่าหน้า ตนอ่านได้เร็ว ไม่เกินสัปดาห์น่าจะจบ คาดว่าจะนำเสนอเข้าที่ประชุมก.อ.ได้เร็ว ยืนยันว่าความเห็นส่วนตัว ถ้ามีใครเกี่ยวข้อง ต้องสอบให้หมด เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเอง ด้วย “ผมมีโอกาสพบท่านนายกรัฐมนตรีตอนวันประชุม วปอ. ผมเป็นกรรมการสภา วปอ. และท่าน นายกฯเป็นประธาน ท่านอยากให้สอบให้ละเอียด มีการคุยประเด็นนี้ด้วย ดังนั้นถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมต้องขยันขึ้น และรีบอ่านโดยเร็วที่สุด” ประธาน ก.อ.กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลการสอบสวนจะนำไปสู่การดำเนินคดีอาญาแผ่นดินกับคนที่เกี่ยวข้องหรือไม่ประธาน ก.อ.กล่าวว่า ผลการสอบจะนำไปสู่การดำเนินคดีอาญาได้หรือไม่นั้น ให้ดูคดีในอดีต สอบวินัยอัยการคนหนึ่งจนมีคดีเข้าสู่การพิพากษาของศาลฎีกาและได้รับโทษไปแล้ว นอกจากนี้ อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอื่น ส่วนเรื่องการแก้ไขระเบียบการดำเนินคดีอาญาของอัยการ เรื่องการร้องขอความเป็นธรรมนั้น ส่วนตัวคิดว่า ผู้ร้องขอความเป็นธรรมจะต้องมาแสดงตัวกับอัยการด้วย เช่นเดียวกับการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีขีดเส้น 1 สัปดาห์ให้ตำรวจประสานอินเตอร์โพลออกหมายแดงคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ว่า วันที่ 21 ก.ย. ตนเปิดเผยความคืบหน้าไปแล้วว่า คดีอยู่ระหว่างการดำเนินการในส่วนใด เมื่อตำรวจไทยประสานไปยังตำรวจสากลเพื่อออกหมายแดงแล้ว ต้องติดตามดูว่า สามารถติดตามตัวผู้ต้องหาได้หรือไม่ ถ้าพบต้องดำเนินการขอให้ส่งตัวฐานะผู้ร้ายข้ามแดนกลับมายังประเทศไทย เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาทางคดี กำชับให้ทุกหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย และเกี่ยวข้องบูรณาการดำเนินงานทุกขั้นตอน ทุกอย่างต้องไม่ล่าช้า เพราะมีหลายส่วนต้องดำเนินการ ขอให้ติดตามความก้าวหน้าจากคณะทำงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ที่ติดตามคดีอยู่ในขณะนี้

...