ส.ต.ต.หญิง สังกัด ตม.หึงโหด ล็อกคอยิงสาวแม่ค้าออนไลน์ อดีต สาวคนรักกลางวัดดังฝั่งธนฯ 4 นัด ซ้อน ดับสยองหลังผู้ตายเพิ่งใส่บาตรเสร็จ ส่วนตำรวจสาวทอมมือฆ่า ขับรถหนีกลับบ้านศรีประจันต์ จ.สุพรรณฯ ให้พ่อแม่ พามอบตัว สารภาพมาจากเรื่องหึงหวงที่ผู้ตายเลิกรา ซ้ำยังโทร.ฟ้องผู้บังคับบัญชา กล่าวหาเลิกแล้วไม่ยอมคืน ทรัพย์สินให้ ด้านตำรวจเจ้าของคดีเร่งทำสำนวนส่งฟ้อง ศาลทันที เหตุกลัวครหาช่วยตำรวจด้วยกัน
เหตุตำรวจทอมหึงโหดยิงทิ้งอดีตสาวคนรักดับคาวัดก่อนมอบตัวครั้งนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 21 ก.ย. ขณะที่ พ.ต.อ.ลือศักดิ์ ดำเนินสวัสดิ์ ผกก.สน.ภาษีเจริญ ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการจราจรในพื้นที่ รับแจ้งเหตุยิงกันภายในวัดนิมมานรดี ถนนบางแค 1 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ศิริชาติ จันทร์พรมมา รอง ผกก.ป.สน.ภาษีเจริญ พ.ต.ท.บริบูรณ์ จำปาดี สว.สส.สน.ภาษีเจริญ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณลานจอดรถหน้าพระอุโบสถเชื่อมกับทางเดินเข้าออกกุฏิพระสงฆ์ในวัด พบศพ นางลินลดา พัฒนพันธ์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/12 หมู่ 3 ซอยเพชรเกษม 41 แขวงและเขตบางแค กทม. นอนหงายจมกองเลือดในสภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว นุ่งกางเกงวอร์มขายาวสีดำ อยู่ข้างรถเก๋งยี่ห้อมินิคูเปอร์ สีขาว ทะเบียน ญผ 5288 กรุงเทพ-มหานคร ของผู้ตาย ตรวจพบบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะด้านหลัง 3-4 นัด มีตะกร้าข้าวของที่ใช้ใส่บาตร และพบปลอกกระสุนปืน 9 มม. 4 ปลอก หัวกระสุนปืนขนาดเดียวกันอีก 1 นัด ตกอยู่ที่พื้น เจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน น.ส.มณีรัตน์ ศรีธรราษฎร์ อายุ 52 ปี แม่บ้านผู้ตายมาทำบุญใส่บาตรด้วยกัน ให้การด้วยอาการตื่นตระหนกว่า ผู้ตายมีอาชีพค้าขายกระเป๋าและเสื้อผ้าทางออนไลน์ ออกจากบ้านมาพร้อมกับตนเมื่อช่วงเช้ามืดเพื่อมาใส่บาตรที่วัด จังหวะที่มาถึงเห็นรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง สีดำ ไม่ทราบยี่ห้อ และทะเบียน จอดติดเครื่องรออยู่ข้างรถผู้ตาย ไม่ได้คิดอะไรจนใส่บาตรเสร็จ ระหว่างเก็บของกลับขึ้นรถมีคนร้ายไม่แน่ใจว่าเป็นชายหรือหญิงลักษณะคล้ายทอมบอย 1 คน อายุ 35-40 ปี สวมเสื้อแขนยาวสีทึบ สวมหมวกแก๊ปอำพรางใบหน้า เดินลงมาจากรถปรี่มาจับมือผู้ตายและล็อกคอจากด้านหลังยิงใส่ 4 นัด ก่อนจะขึ้นรถหลบหนี และไม่ทราบสาเหตุที่มือปืนมาดักยิงนายจ้างตนอย่างอุกอาจขนาดนี้
...
มีรายงานว่า ผู้ตายยังไม่มีสามีและลูก แต่ใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนสาวคนสนิทที่บ้านพักและแม่บ้าน รวม 3 คน อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนเบื้องต้น ชนวนสังหารเกิดจากปัญหารักสามเส้าที่ผู้ตายพยายามเลิกรา แต่ฝั่งผู้ก่อเหตุที่เป็นสาวทอมเกิดความหึงหวงเพราะผู้ตายไปมีคนอื่น สะกดรอยติดตามมาก่อเหตุ ทั้งนี้มีรายงานว่าผู้ก่อเหตุคือ ส.ต.ต.หญิงสิริวรรณ สำเร็จศิลป์ อายุ 37 ปี ผบ.หมู่ ฝ่าย ตม.ขาเข้าด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ก่อนคุมตัวสอบสวนอย่างละเอียดที่ สน.ภาษีเจริญ
ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่ สน.ภาษีเจริญ หลังชุดสืบสวน สภ.ศรีประจันต์นำตัว ส.ต.ต. หญิงสิริวรรณมามอบให้กับพนักงานสอบสวน สน.ภาษีเจริญ พ.ต.อ.ภัคภณ เล็กท่าไม้ ผกก.สภ.ศรีประจันต์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 09.00 น. พ่อแม่ ส.ต.ต.หญิงสิริวรรณ เป็นข้าราชการครูบำนาญในพื้นที่ ได้พามามอบตัวที่ สภ.ศรีประจันต์ หลังทราบว่าลูกสาวเพิ่งไปก่อเหตุยิงนางลินลดาเสียชีวิต ได้เรียกพนักงานสอบสวนมาลงบันทึกประจำวัน พร้อมทำหนังสือรับมอบตัว จากนั้นประสานทาง ตม.ต้นสังกัด และ สน.ภาษีเจริญ ให้มารับตัวไปดำเนินคดี
จากการสอบสวน ส.ต.ต.หญิงสิริวรรณให้การอ้างว่า คบหาผู้ตายมาได้สักระยะ พักอยู่ด้วยกันที่แฟลตตำรวจของผู้ต้องหา ช่วงที่คบกันมีปัญหาระหองระแหงรักๆเลิกๆมาตลอด ล่าสุดเลิกรากันไปอีกรอบ จากนั้นวันที่ 19 ก.ย. ผู้ตายโทร.ไปทวงทรัพย์สินที่ยังอยู่ในห้องพักของ ส.ต.ต.หญิงสิริวรรณ ก่อนนัดหมายจะเอามาคืนในวันที่ 22 ก.ย. แต่ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายโทร.ไปฟ้องผู้บังคับบัญชาระดับสารวัตร ของ ส.ต.ต.หญิงสิริวรรณว่ามีปัญหาทะเลาะกัน เลิกรากันแล้ว ผู้ต้องหาไม่ยอมคืนทรัพย์สิน เมื่อผู้บังคับบัญชาเรียกไปสอบถาม ทำให้ผู้ต้องหาวิตก กังวลว่าจะถูกดำเนินการทางวินัย เกิดความเครียดโทรศัพท์ไปเล่าให้แม่ฟังก่อนลงมือก่อเหตุ จากนั้นขับรถกลับบ้านที่ จ.สุพรรณบุรี และให้พ่อแม่พามามอบตัวดังกล่าว
ขณะที่ พ.ต.อ.ลือศักดิ์ ดำเนินสวัสดิ์ ผกก.สน.ภาษีเจริญ กล่าวว่า นอกจากรับมอบตัวผู้ต้องหาแล้ว ยังได้ยึดของกลางที่ใช้ก่อเหตุคือปืนซิกซาวเออร์ รุ่น P365 ขนาด 9 มม. และรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูเนอร์ สีเทา ทะเบียน 7 กญ 8373 กรุงเทพมหานคร จากนั้นประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลางเข้ามาตรวจร่างกาย ลายนิ้วมือ เขม่าดินปืน และแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ สาเหตุที่เร่งสอบปากคำเพื่อส่งศาลนั้นเนื่องจากตามหลักการเป็นเจ้าหน้าที่ราชการเมื่อเข้ามามอบตัวต้องปล่อยชั่วคราว ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่เกรงว่าทางญาติจะคาใจกับการกระทำว่ามีการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยกันเอง เร่งสอบปากคำไปฝากขังศาลอาญาธนบุรีในวันที่ 21 ก.ย. ทันที