สหรัฐอเมริกา เดินหน้าการเสริมสร้างความร่วมมือประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ร่วมการประชุมระหว่างสหรัฐอเมริกา กับสมาชิกประเทศอาเซียน รวมทั้งประเทศไทย ว่าด้วยเรื่องแม่น้ำโขง

นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมบรี เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวว่า สหรัฐฯ ได้เข้าร่วมการประชุมระหว่างสหรัฐฯ กับสมาชิกประเทศอาเซียน รวมทั้งประเทศไทย ว่าด้วยเรื่องแม่น้ำโขง โดยในวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ร่วมกับ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย พร้อมเจ้าหน้าที่จากอีก 4 ประเทศในลุ่มน้ำโขงตอนล่าง เปิดตัวความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-สหรัฐฯ ครั้งใหม่ ซึ่งต่อยอดจากความร่วมมือหลายทศวรรษ รวมถึงเงินช่วยเหลือ 3,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่มอบให้ภายใต้ข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่าง (LMI) มากว่า 11 ปี ในการยกระดับการดำเนินงาน โดยสหรัฐฯ จะส่งเสริมการเชื่อมโยงและการพัฒนาในภูมิภาคมากยิ่งขึ้น ด้วยโครงการริเริ่มใหม่ๆ มูลค่ากว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม การทำงานร่วมกันภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว จะขยายขอบเขตครอบคลุมทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ ความมั่นคง ธรรมาภิบาล สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เหมาะสมกับการรับมือปัญหาที่เผชิญร่วมกันในภูมิภาค ตั้งแต่ภัยแล้งรุนแรงจนถึงการค้ายาเสพติด

เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวต่อว่า ความร่วมมือครั้งใหม่ตระหนักว่า การเอาชนะความท้าทายซับซ้อนในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงจะต้องมีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-สหรัฐฯ จะยังคงปกป้องสุขภาพของแม่น้ำโขง ซึ่งหล่อเลี้ยง 60 ล้านชีวิตต่อไป และสหรัฐฯ จะยังคงสนับสนุนคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) และการพัฒนายั่งยืนของแม่น้ำสายสำคัญนี้ สนับสนุนการแบ่งปันข้อมูลน้ำตลอดทั้งปี โดยใช้แพลตฟอร์มที่มีอยู่ของ MRC รวมถึงข้อมูลการปล่อยน้ำจากโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ต้นน้ำ ซึ่งในการจัดการแม่น้ำข้ามพรมแดนความโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญ

...

ทั้งนี้ แม้ว่าแม่น้ำโขงจะหล่อเลี้ยงชีวิต แต่ก็เป็นช่องทางที่องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติใช้ลักลอบขนส่งสินค้าผิดกฎหมาย และเพื่อช่วยมิตรประเทศในลุ่มน้ำโขงปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดนเหล่านี้ สหรัฐฯ ยังจะมอบเงินสนับสนุนจำนวน 54 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มเติมจากออสเตรเลียกำลังให้และวางแผนจะให้ เพื่อช่วยเหลือในการปราบปรามการค้ามนุษย์ ยาเสพติด ทรัพยากรธรรมชาติ และสัตว์ป่า รวมถึงอาชญากรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเมทแอมเฟตามีนอันเพิ่มสูงขึ้น

ช่วงปีที่ผ่านมา ได้เห็นว่าต้องทำงานร่วมกันเพื่อเอาชนะความท้าทายในยุคสมัย บางประเทศแสวงประโยชน์ของตนเองจากช่วงเวลาอันไม่แน่นอนนี้ สหรัฐฯ ตระหนักถึงโอกาสในการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างภูมิภาคลุ่มน้ำโขงที่แข็งแกร่งและมั่งคั่งยิ่งขึ้น ดังเช่นการบุกเบิกใดๆ ก็ตาม หากจะขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จในช่วงเวลาที่สถานการณ์โลกต่างจากเคยเป็นมานี้ ประเทศของเราทั้งสอง ตลอดจนบรรดาหุ้นส่วนในภูมิภาคจะต้องสร้างข้อตกลงใหม่ๆ ที่เน้นย้ำถึงมิตรภาพอันยืนนาน และแสดงถึงความมุ่งมั่นของเราต่ออนาคตที่เป็นหนึ่งเดียว.

(อ่านฉบับเต็ม ที่นี่)