- ก้าวสู่ปีที่ 72 วันสถาปนากองปราบปราม
- เปิดสนามยิงปืนสุดล้ำ นามสกุล "บิ๊กแป๊ะ"
- “สุวัฒน์ แสงนุ่ม” จ่อนั่งผู้การประเทศไทย คนที่ 37
เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา ถือเป็นวันคล้ายวันสถาปนากองบังคับการปราบปราม ครบรอบ 72 ปี ตามบันทึกหน้าประวัติศาสตร์กองทัพสีกากี “ที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน”
ก้าวสู่ปีที่ 72 หน่วยกองกำลังติดอาร์มสวย
“ผู้การก้อง” พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ได้เชิญ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มาร่วมพิธีเช่นเดียวกับอดีตผู้บังคับบัญชาอีกหลายคน โดยมีข้าราชการตำรวจในสังกัด บก.ป.ให้การต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง
ภายในงานมีพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของหน่วย พิธีสงฆ์ ก่อนมอบโล่เกียรติคุณให้แก่หน่วยงานหรือเอกชนที่ช่วยเหลือสนับสนุนภารกิจ ตลอดจนผู้เกษียณอายุราชการ และมอบทุนการศึกษา “บุตรดีศรีกองปราบ”
...
ขณะเดียวกัน มีการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่ข้าราชการตำรวจที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น
ด้านการสืบสวนป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ประกอบด้วย พ.ต.ต.ทัตพร เลขะวัฒนพงษ์ สว.กก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์ สว.กก.2 บก.ป. พ.ต.ต.ณัฐดนัย สีแข่ไตร สว.กก.3 บก.ป. พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม รอง ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.นิธิ ตรีสุวรรณ สว.กก.5 บก.ป. ร.ต.อ.ธีระยุทธ ไทยราช รอง สว.กก.6 บก.ป.
ด้านการสอบสวน มี พ.ต.ท.ภิรมย์ เมืองไสย รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ภูมิรพี สังข์ทอง รอง ผกก.(สอบสวน) กก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ภูมิพัฒน์ นามพุทธา รอง ผกก.(สอบสวน) กก.3 บก.ป. พ.ต.ท.บุญนำ ลบโลกา รอง ผกก.(สอบสวน) กก.4 บก.ป. ร.ต.อ.ยุทธภูมิ โพธิ์สวัสดิ์ รอง สว.(สอบสวน) กก.5 บก.ป. ร.ต.อ.ชนะชัย ภูราช รอง สว.(สอบสวน) กก.6 บก.ป.
ด้านอำนวยการ ร.ต.อ.ภาณุมาศ นางสะอาด รอง สว.(อก.) ฝอ.บก.ป. ด้านงานสนับสนุน ร.ต.อ.จักรพงษ์ รุ่งกำจัด รอง สว.กก.สสน.บก.ป. ด้านจิตอาสา ร.ต.อ.หญิง วันวิสา ธีระปัญญาชัย รอง สว.กก.สสน.บก.ป. ส่วนชนะเลิศประกวดการฝึก ได้แก่ กก.1 บก.ป.
โดย พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวว่า ในรอบปีที่ผ่านมาตำรวจกองปราบสามารถจับกุมผู้ต้องหาคดีสำคัญได้หลายคดี ส่วนหนึ่งต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่เสียสละความสุขส่วนตนเพื่อความสุขส่วนรวม ดูแลปกป้องพี่น้องประชาชน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคหรืออันตรายใดๆ
อีกทั้งในปีนี้กองปราบยังได้มีสนามยิงปืนแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดขึ้นมา เพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีสถานที่ฝึกซ้อมพัฒนาขีดศักยภาพความสามารถให้ดีมากขึ้นกว่าเดิม มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ให้เหมือนกับการจำลองเหตุการณ์เสมือนจริง ซึ่งมีแบบทดสอบมากถึง 1,000 แบบทดสอบ ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความพร้อมและสามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ หากต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์จริงในรูปแบบต่างๆ
...
เปิดสนามยิงปืน "ชัยจินดา" สุดล้ำ รองรับสถานการณ์จริง
สำหรับสนามยิงปืนชัยจินดา ได้ใช้นามสกุลของ “ผบ.ตร.” มาเป็นชื่อของสนาม ตั้งอยู่ชั้น 3 อาคารที่ทำการพนักงานสอบสวน กองปราบปราม ถนนพหลโยธิน ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นสนามยิงปืนแบบยุทธวิธี มีความคืบหน้าการก่อสร้างไปแล้วกว่าร้อยละ 70 ขณะที่อีก 2 ส่วนเป็นห้องยิงปืนในสถานการณ์จำลอง (simulator) นั้นสามารถใช้งานได้แล้ว จำนวน 2 ห้อง ประกอบด้วย ห้องยิงปืนกระสุนจริงแบบจอยาง และห้องยิงปืนแบบเลเซอร์
รายละเอียดของสนามยิงปืนน้องใหม่แต่ทันสมัยที่สุด ประกอบด้วย 1.สนามยิงปืนยุทธวิธี เป็นสนามยิงปืนกระสุนจริง ความยาว 20 เมตร ภายในเป็นระบบปิด (มีระบบดูดอากาศ) ใช้สำหรับยิงปืนพกและปืนลูกซองทุกขนาด โดยภายในมีโครงสร้างบ้านจำลอง เพื่อใช้จำลองสถานการณ์ต่างๆ และมีอุปกรณ์การฝึกเชิงกีฬา นอกจากนี้ยังมีห้องนิรภัยกันกระสุนที่ใช้สำหรับในการตรวจการณ์ภายในสนามยิงปืน
2.ห้องยิงปืนจอยาง เป็นห้องยิงปืนที่ใช้สำหรับจำลองสถานการณ์สมมติ ไม่ว่าจะเป็นการก่อการร้าย หรือการจับตัวประกัน โดยอาวุธปืนที่ใช้ยิงสำหรับการยิงในห้องยิงปืนจอยาง สามารถใช้ได้ทั้งอาวุธปืนกระสุนจริงและกระสุนเลเซอร์ และ 3.ห้องยิงปืนแบบเลเซอร์ เป็นสนามยิงปืนที่ใช้สำหรับจำลองสถานการณ์สมมติเช่นเดียวกับห้องยิงปืนจอยาง แต่เป็นห้องยิงปืนสำหรับยิงกระสุนเลเซอร์ ซึ่งมีความพิเศษคือมีระบบ shootback ที่สามารถยิงกระสุนบีบีกัน กลับมายังผู้ยิง โดยควบคุมโดยครูฝึก นอกจากนี้ยังสามารถใช้ ปืนช็อตไฟฟ้า, สเปรย์พริกไทย, ไฟฉาย หรือดิ้ว ร่วมกับห้องยิงปืนดังกล่าวด้วย
...
“สุวัฒน์ แสงนุ่ม” ผบก.ปปป. คืนถิ่นนั่งผู้การประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม จากโผแต่งตั้งโยกย้ายในส่วนของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วาระ 63 คาดว่าจะมีการเสนอชื่อ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ปปป. เข้ามาคุมทัพทำ “ที่พึ่งสุดท้าย ที่หมายพึ่ง” ตามสโลแกนของหน่วยอาร์มสวย แทนที่ของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ที่ขยับขึ้น รอง ผบช.ก.
สำหรับประวัติคร่าวๆ ของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ หรือ “ผู้การหมู” เป็นชาวตลิ่งชัน จบชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนทวีธาภิเศก ย่านบางกอกใหญ่ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 28 นักเรียนนายร้อยรุ่นที่ 44 จบคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) และสอบได้เป็นเนติบัณฑิตไทย
เริ่มต้นเส้นทางบนเส้นทางสีกากีที่ตำแหน่งรองสารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.ห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ปักหลักทำงานในพื้นที่นานถึง 16 ปี กระทั่งปี 2550 จึงย้ายมาที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ที่ตำแหน่งพนักงานสอบสวน (สบ3) เทียบเท่า รอง ผกก.กลุ่มงานสอบสวน จนสอบได้เป็น (สบ4) เทียบเท่า ผกก. ดูแลงานสอบสวนสำนวนคดีต่างๆ มานับไม่ถ้วน โดยเฉพาะคดีความมั่นคง เช่น คดีกลุ่มผู้ชุมนุมบุกปิดสนามบินสุวรรณภูมิ และคดีความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ก่อนขึ้นเป็น ผบก.ปป. เมื่อวันที่ 1 ต.ค.62.