ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราช เผยสิ่งบ่งชี้โควิด-19 ระบาดระลอก 2 มาแน่ ให้ดูสหรัฐฯ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง เวียดนาม เผยเชื้อโรคไม่ได้มากับตัวคนเท่านั้น แต่มีหลักฐานว่ามากับ "แพ็กเกจจิ้ง" ที่มีการส่งต่อด้วย
วันที่ 4 ส.ค. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า การระบาดระลอก 2 มีมาแน่ โดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลกได้ระบุโลกกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ เป็นยุคอันตรายของโควิด-19 เพราะมีอุบัติการณ์ผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้อัตราเสียชีวิตคลายตัวลดลงระดับหนึ่ง ซึ่ง 6 สัปดาห์ที่แล้วจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มหลักล้านคน จนวันนี้ใช้เวลาเพียง 3-5 วัน หรือโดยเฉลี่ยทุก 4 วัน มีผู้ติดเชื้อกว่า 1 ล้านคนแล้ว
ขณะที่เมื่อ 2 วันที่แล้ว CNN รายงานถึงที่ปรึกษาด้านโควิดของไวท์เฮาท์ สหรัฐอเมริกา ประกาศว่า สหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ช่วงการควบคุมไม่ได้ คาดการณ์ว่าทุก 20 วัน จะมีคนเสียชีวิต 20,000 คน หรือเฉลี่ยวันละ 1,000 คน นอกจากนี้ เกือบทุกประเทศที่ก่อนหน้านี้บอกว่าปลอดภัย แต่ ณ วันนี้เกิดการระบาดระลอก 2 เรียบร้อยแล้ว ทั้งออสเตรเลียที่เคยเป็นที่ 1 ในการควบคุม 2 วันที่แล้วต้องประกาศเคอร์ฟิวในเขตวิคตอเรีย ญี่ปุ่นก็อยู่ในสถานการณ์ที่แย่ มีคนไข้เพิ่มขึ้นต่อวันกว่าพันราย และเสียชีวิตทุกวัน ฮ่องกงก็มีผู้ติดเชื้อเกิน 100 คน ติดต่อมา 7 วัน จนต้องกลับมาประกาศควบคุมใหม่ แม้แต่เวียดนามที่ดีมาตลอด ก็ระบาดรอบสองจนต้องควบคุม
"สิ่งเหล่านี้ส่งสัญญาณไม่ไกลเกินตัว เพราะโควิด-19 ไม่ได้มากับตัวคนเท่านั้น แต่มีหลักฐานว่ามากับแพ็กเกจจิ้งที่มีการส่งต่อด้วย"
คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล กล่าวว่า ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ความปลอดภัยในการเตรียมตัวป้องกันเป็นสิ่งสำคัญดีที่สุด ทั้งการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ รักษาระยะห่าง และเช็กอินเช็กเอาต์เป็นสิ่งสำคัญ อย่างไรก็ตามหากมีการระบาดระลอก 2 ก็หวังจะเป็นคลื่นที่มีการติดเชื้อไม่สูง แต่รัฐบาลต้องออกมาตรการรวดเร็วควบคุมพื้นที่ที่ระบาดให้หยุดอยู่ที่ตรงนั้น ไม่จำเป็นต้องปิดประเทศ ปิดจังหวัด หรือทุกกิจกรรม ถ้าทำแบบนี้ได้จะเป็นคลื่นเล็กๆ มาแล้วก็ลงไปเรื่อยๆ
...
ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวอีกว่า มีงานวิจัยบางชิ้นที่ตีพิมพ์ได้มีการพูดถึงว่า เรามีแนวโน้มเกิดการระบาดใหญ่ในอนาคตอีก ด้วยเหตุที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายของสิ่งมีชีวิตที่ย้ายถิ่นที่อยู่อาศัย และโคโรนาไวรัสไม่สามารถลอยอยู่ในอากาศ แต่ต้องอาศัยสิ่งมีชีวิต ทั้งยังมีการปรับตัวที่เร็วมาก ดังนั้นหากมาอยู่ในสัตว์ซึ่งมีการเคลื่อนย้ายที่อยู่อาศัย การกระจายตัวการแพร่ะระบาดจะเป็นอย่างไร จึงเป็นสิ่งที่ตนย้ำเตือนเสมอว่าวิถีชีวิตใหม่จะต้องเตรียมพร้อมกับการแพร่ระบาดใหม่ ไม่เฉพาะโคโรนาไวรัส แต่รวมถึงการระบาดของโรคต่างๆ ที่ต้องมีระบบการดูแลสุขภาพที่ดีตลอดเวลา.