รมว.ยุติธรรม เปิดโอกาสให้รองอธิบดี โชว์ศักยภาพ-วิสัยทัศน์ ประชุมแทนอธิบดี แนะต้องช่วยกันทำงานให้ประชาชน-สังคม เชื่อขยันมีโอกาสเติบโต พร้อมตั้ง "วิทยา" นั่งประธานอนุกรรมการศึกษาการใช้กำไล EM ยันไม่ต้องการสร้างคุกเพิ่ม

เมื่อวันที่ 15 ก.ค.63 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายวิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ ปลัดกระทรวง ร่วมเป็นประธานการประชุมผู้บริหารกระทรวง โดยในที่ประชุมวันนี้ เป็นครั้งแรกที่ให้รองอธิบดีของทุกกรมมาประชุมแทนอธิบดี จนถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้ 

โดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขอให้รองอธิบดีทุกคนกล้าพูดกล้าแสดงวิสัยทัศน์ วันนึงทุกท่านทุกคนมีโอกาสเป็นอธิบดีเช่นกัน ต้องเรียนรู้การบริหารงาน ดูภาพรวมของกรมให้ออกว่า ภารกิจใดเป็นเรื่องของสังคมและประชาชน ที่กระทรวงยุติธรรมจะช่วยแก้ไขและพัฒนา การวางแผนงานต้องละเอียดรอบคอบ ไม่ใช่ทำงานไปแล้วต้องมาสะดุดจนงานล่าช้า ขอให้ทุกคนตั้งใจทำหน้าที่ เพราะตนให้โอกาสกับทุกคนที่ขยันทำงาน 

เมื่อเข้าสู่วาระการประชุมได้มีการรายงานความคืบหน้าจากกรมต่างๆ อาทิ เรื่องการจัดทำร่างกฎหมาย Value based confiscation ในการยึดทรัพย์ยาเสพติดตามมูลค่า นอกจากนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษยังได้สรุปการดำเนินงาน เช่น การรับคดีอาหารเสริมอ้างสรรพคุณเกินจริงเป็นคดีพิเศษ รวมถึงการชี้แจงต่อสังคมกรณี "วันเฉลิม" และการตรวจค้นบริษัทลักลอบนำเข้าเนื้อวัวหรือซากวัวจากต่างประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์ เป็นต้น 

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ยังเปิดเผยว่า เวลาตนได้ตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว หรือ Electronic Monitoring : EM เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารความจุผู้ต้องขัง และการควบคุมผู้ต้องขังออกทำงานนอกเรือนจำ โดยมี นายวิทยา สุริยะวงค์ รองปลัดกระทรวง เป็นประธานอนุกรรมการ นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เป็นรองอนุกรรมาธิการ โดยอำนาจหน้าที่ของกรรมการชุดนี้ คือ 1. ศึกษากระบวนการ รูปแบบ การบริหารจัดการ ตลอดจนความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว Electronic Monitoring : EM 2. นำข้อมูลที่ได้จากการศึกษาในข้อ 1 มาวิเคราะห์ ประมวลผล กำหนดรูปแบบดำเนินการและวางแนวทางการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวในสถานการณ์ต่างๆ โดยคำนึงถึงการลดความแออัดของผู้ต้องขังในเรือนจำการบริหารความจุผู้ต้องขัง ประเภทฐานความผิด พฤติกรรมขณะอยู่ในเรือนจำของกลุ่มเป้าหมาย ประสิทธิภาพและความคุ้มค่าของการใช้อุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์โดยความร่วมมือระหว่างกรมคุมประพฤติและกรมราชทัณฑ์ 3. จัดทำแผนบริหารจัดการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว ด้านความคุ้มค่า การคิดต้นทุนการใช้งาน การคาดการณ์ และสนับสนุนงบประมาณต่อการดำเนินงานในอนาคต รวมถึงการกำหนดหลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว การใส่และถอดอุปกรณ์ รวมถึงการกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ถูกคุมประพฤติรับผิดชอบค่าใช้จ่ายบางส่วน จากการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว เพื่อกำหนดแผนดำเนินงานและการจัดสรรงบประมาณต่อไป 4. นำเสนอหลักเกณฑ์กระบวนการที่สอดคล้องกับหลักกฎหมาย ในการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงกฎ ระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม จากนี้คณะอนุกรรมการชุดนี้ต้องไปขอศาลอาญาเพื่อเข้าไปศึกษา ถึงข้อดี-ข้อเสีย ระบบการติดตามตัวว่าเป็นอย่างไร เพราะเมื่อเราเอามาใช้จริงจะได้ตัดปัญหาที่ขัดข้องออกไป 

...

"ผมให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก เพราะถือเป็นนโยบายของผมที่ต้องการลดความแออัดในเรือนจำ ผมไม่ต้องการสร้างเรือนจำเพิ่มเพื่อลดความแออัด แต่ผมจะทำวิธีนี้เพื่อให้คนกลับสู่สังคมและมีงานทำตามชีวิตปกติ และผมต้องการลดรายจ่ายในการดูแลผู้ต้องขังลง เพื่อจะได้นำเงินตรงส่วนนี้ไปทำประโยชน์ด้านอื่น" รมว.ยุติธรรม กล่าว