ภายในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก เพิ่มขึ้น 2.2 แสนราย มาอยู่ที่ 13,323,530 ราย รักษาหายแล้ว 7,399,310 ราย เสียชีวิต 578,628 ศพ จากการรายงานของศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ เมื่อเวลา 11.34 น. วันที่ 15 ก.ค.

  • สหรัฐฯ จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต ยังคงอันดับ 1 ของโลก ผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น 6.5 หมื่นราย มากที่สุดในโลกในช่วงรอบวันที่ผ่านมา มาอยู่ที่ 3,431,574 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 896 ศพ มาอยู่ที่ 136,466 ศพ

  • รัฐนิวยอร์ก ยังคงมีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในสหรัฐฯ รองลงมารัฐแคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา เทกซัส นิวเจอร์ซีย์ และอิลลินอยส์ ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ ระบุการสวมหน้ากากอนามัย สามารถลดการแพร่ระบาดได้ หลังผลการศึกษาพบว่า ช่างทำผม 2 คนในรัฐมิสซูรี ซึ่งติดเชื้อ และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ไม่ได้แพร่เชื้อให้กับลูกค้า 139 คนที่เข้ามารับบริการในร้าน

  • บราซิล หนึ่งในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา มีการแพร่ระบาดอย่างหนัก มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตอันดับ 2 ของโลก ผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น 4.3 หมื่นราย มาอยู่ที่ 1,926,824 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1,341 ศพ มากที่สุดในโลกในช่วงรอบวันที่ผ่านมา มาอยู่ที่ 74,133 ศพ ตามมาด้วยเปรู ผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น 3,744 ราย มาอยู่ที่ 333,867 ราย อันดับ 5 ของโลก เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 175 ศพ มาอยู่ที่ 12,229 ศพ



  • อินเดีย ศูนย์กลางการระบาดอย่างหนักในภูมิภาคเอเชีย ผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น 2.9 หมื่นราย มาอยู่ที่ 936,181 ราย อันดับ 3 ของโลก เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 588 ศพ มาอยู่ที่ 24,309 ศพ ตามมาด้วยปากีสถาน ผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น 1,979 ราย มาอยู่ที่ 253,604 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 54 ศพ มาอยู่ที่ 5,320 ศพ

  • ขณะที่ทวีปแอฟริกา ต้องจับตาดูประเทศแอฟริกาใต้ มีแนวโน้มการแพร่ระบาดอย่างหนัก เนื่องจากรอบวันที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อใหม่พุ่งพรวดมากถึง 10,496 ราย มาอยู่ 298,292 ราย ขึ้นมาอันดับ 9 ของโลก แซงหน้าอังกฤษ เสียชีวิตเพิ่ม 174 ศพ มาอยู่ที่ 4,346 ศพ ทำให้ทางการกลับมาใช้มาตรการเคอร์ฟิว และห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด

  • ถือเป็นความหวังของชาวโลก เมื่อนักวิจัยอิสราเอลและสหรัฐฯ ค้นพบว่า “Fenofibrate” ยาลดคอเลสเตอรอล มีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วย สามารถลดความรุนแรงเป็นเพียงไข้หวัดใหญ่ หลังจากผู้ป่วยรับยาเพียง 5 วัน จากสรรพคุณช่วยให้เซลล์จากปอดเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น ทำให้เชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่สามารถเกาะตัวกับเซลล์ในปอด และลดการแตกตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย



  • สถานการณ์กลุ่มประเทศอาเซียน จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในอินโดนีเซียยังมากที่สุดอันดับ 1 ได้ลุกลามไปทั่ว 34 จังหวัดแล้ว ผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น 1,591 ราย มาอยู่ที่ 78,572 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 54 ศพ มาอยู่ที่ 3,710 ศพ ตามมาด้วยฟิลิปปินส์ ผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น 539 ราย มาอยู่ที่ 57,545 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 4 ศพ มาอยู่ที่ 1,603 ศพ และสิงคโปร์ ผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น 347 ราย มาอยู่ที่ 46,630 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ศพ มาอยู่ที่ 27 ศพ

  • ไทยยังคงอยู่อันดับที่ 100 ของโลก พบผู้ป่วยใหม่ 5 ราย เป็นคนไทยเดินทางมาจากต่างประเทศ เข้าพักสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ ใน State Quarantine ทำให้ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,232 ราย หายป่วยแล้ว 3,092 ราย เสียชีวิตคงที่ 58 ศพ โดยแยกเป็นผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศสะสม 2,444 ราย และผู้ป่วยใน State Quarantine สะสมจำนวน 295 ราย



  • ผู้ป่วยใหม่รายแรก หญิงไทย อายุ 48 ปี เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกามาถึงไทย วันที่ 11 ก.ค. เข้าพักสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ ใน State Quarantine กรุงเทพฯ ตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 13 ก.ค.

  • ผู้ป่วยใหม่อีก 2 ราย ชายไทย อายุ 43 ปี ไม่มีอาการ และหญิงไทย อายุ 49 ปี มีอาการไอและเจ็บคอ ทั้งคู่มีอาชีพรับจ้าง เดินทางมาจากสิงคโปร์ มาถึงไทยวันที่ 13 ก.ค. เข้าพักสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ ใน State Quarantine จ.สมุทรปราการ และภายหลังพบเชื้อ ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ใน จ.สมุทรปราการ

  • ผู้ป่วยใหม่ 2 รายสุดท้าย ชายไทย อายุ 27 ปี และหญิงไทย อายุ 35 ปี เดินทางจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาถึงไทยวันที่ 2 ก.ค. เข้าพักสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ ใน State Quarantine จ.ชลบุรี ตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 13 ก.ค. โดยไม่มีอาการใดๆ ทั้งคู่

  • ผู้ป่วยแยกตามพื้นที่รักษาในแต่ละภูมิภาค รวมถึงผู้ป่วยใน State Quarantine โดยกรุงเทพฯ และนนทบุรี มีจำนวน 1,786 ราย ซึ่งล่าสุดมีผู้ป่วยเดินทางมาจากสหรัฐฯ 1 ราย ภาคใต้ 744 ราย ภาคกลาง 496 ราย โดยล่าสุดมีผู้ป่วยเดินทางมาจากสิงคโปร์ 2 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาลจ.สมุทรปราการ และอีก 2 ราย ผู้ป่วยเดินทางมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เข้าพัก State Quarantine จ.ชลบุรี ภาคอีสาน 111 ราย และภาคเหนือ 95 ราย.

...