"กรมปศุสัตว์" ใช้เทคโนโลยีจีโนมคัดเลือกพ่อโคนมทรอปิคอลโฮลสไตน์ เพิ่มศักยภาพความก้าวหน้าทางพันธุกรรม ให้ความถูกต้องของการทำนายเพิ่มขึ้นจากการประเมินพันธุกรรมแบบเดิม ทั้งช่วยลดค่าใช้จ่าย
เมื่อวันที่ 14 ก.ค.63 นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า กรมปศุสัตว์ โดยสำนักเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตปศุสัตว์ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่ประเมินความสามารถทางพันธุกรรมโคนมที่ถูกเลี้ยงดูในฟาร์มเกษตรกร และผลิตพ่อพันธุ์โคนมที่มีพันธุกรรมที่ดีสำหรับผลิตน้ำเชื้อแช่แข็ง เพื่อบริการผสมเทียมให้แก่เกษตรกรทั่วประเทศ โดยนำวิธีที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติมาใช้เป็นเครื่องมือในการคัดเลือกและจัดลำดับพ่อแม่พันธุ์ สำหรับผลิตลูกโคเพศผู้หนุ่มและแม่โคสาวทดแทนให้มีความถูกต้องแม่นยำตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา

ดร.สายัณห์ บัวบาน หัวหน้ากลุ่มวิจัยและประเมินพันธุกรรมสัตว์ สำนักเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตปศุสัตว์ กล่าวว่า การใช้เทคโนโลยีการประเมินความสามารถทางพันธุกรรมที่เรียกว่า "การทำนายค่าดีที่สุดโดยไม่มีอคติเชิงเส้น" ซึ่งใช้ข้อมูลลักษณะปรากฎ ร่วมกับข้อมูลพันธุ์ประวัติ ของโคนมแต่ละตัว ด้วยโมเดลตัวสัตว์รอบการให้นม และโมเดลตัวสัตว์ในวันทดสอบ สำหรับลักษณะทางเศรษฐกิจต่างๆ เช่น ลักษณะการให้ผลผลิตน้ำนม ลักษณะรูปร่าง และลักษณะความสมบูรณ์พันธุ์ และเรียกความสามารถทางพันธุกรรมที่ประมาณได้ว่า "คุณค่าการผสมพันธุ์" แต่อย่างไรก็ตามการปรับปรุงพันธุ์ด้วยวิธีนี้นั้นยังคงมีข้อจำกัดในการใช้งานอยู่ ได้แก่ ไม่สามารถรู้ค่าความสามารถทางพันธุกรรมที่แท้จริงได้ ลักษณะที่มีค่าอัตราพันธุกรรมต่ำ (เช่น ลักษณะด้านการสืบพันธุ์) อาจทำให้การประเมินพันธุกรรมมีความแม่นยำลดลงได้ ประสิทธิภาพในการคัดเลือกจะลดลงเมื่อใช้กับลักษณะที่วัดได้ยาก (เช่น การต้านทานโรค) ลักษณะที่ถูกจำกัดด้วยเพศ เช่น การให้ผลผลิตน้ำนม และขนาดครอก หรือลักษณะที่แสดงออกในช่วงท้ายของอายุ เช่น ลักษณะคุณภาพซากและคุณภาพเนื้อ นอกจากนี้ในการคัดเลือกสัตว์มักใช้ระยะเวลานาน ได้ผลช้า ไม่สามารถระบุตำแหน่งที่ตั้งของยีนที่ควบคุมลักษณะดังกล่าวบนโครโมโซมได้
...
แต่เนื่องจากปัจจุบันวิทยาการด้านจีโนมิกส์ และอณูพันธุศาสตร์ มีความก้าวหน้ามาก กรมปศุสัตว์จึงได้มีการพัฒนาวิธีการคัดเลือกสัตว์ขึ้นมาใหม่ที่เรียกว่าการคัดเลือกด้วยจีโนม โดยใช้ข้อมูลเครื่องหมายทางพันธุกรรมที่ครอบคลุมทั้งจีโนม ข้อมูล SNPs ร่วมกับข้อมูลพันธุ์ประวัติของสัตว์แต่ละตัวและเครือญาติ และข้อมูลลักษณะปรากฏ แทนการคัดเลือกแบบดั้งเดิม และเรียกความสามารถทางพันธุกรรมที่ประมาณได้ว่า คุณค่าการผสมพันธุ์จีโนม การประเมินพันธุกรรมจีโนมจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเพิ่มความก้าวหน้าทางพันธุกรรมเนื่องจากความถูกต้องในการประเมินค่าทางพันธุกรรมที่มากขึ้น และช่วยลดชั่วอายุ การสร้างพ่อแม่พันธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์เล็กที่ยังไม่มีบันทึกข้อมูลของลูกสาว เนื่องจากความถูกต้องของการคัดเลือกสามารถทำได้ในช่วงต้นของชีวิตสัตว์ จึงทำให้การประเมินพันธุกรรมจีโนมสามารถลดค่าใช้จ่ายในการประเมินได้อย่างมากเมื่อเทียบกับแบบทดสอบลูกหลานแบบดั้งเดิม ซึ่งกรมฯใช้ในการคัดเลือกพ่อโคนมทรอปิคอล โฮลสไตน์

ทั้งนี้ จากการวิจัยในประชากรโคนมของประเทศไทยก่อนที่จะนำมาใช้งานจริงในปัจจุบัน พบว่าการประเมินพันธุกรรมจีโนมให้ความถูกต้องของการทำนายเพิ่มขึ้นจากการประเมินพันธุกรรมแบบดั้งเดิมมีค่าโดยเฉลี่ยอยู่ในช่วง 0.22 ถึง 0.24 สำหรับลักษณะการให้ผลผลิตและคะแนนเซลล์โซมาติก ดังนั้นค่าทางพันธุกรรมที่ปรากฏในสมุดพ่อพันธุ์กรมปศุสัตว์ ปัจจุบันจึงนำเสนอด้วยค่า GEBV ทุกลักษณะ.