แฟนสาวรองสารวัตรสืบ สน.วังทองหลาง ตายปริศนา มีรอยถูกยิงที่ขมับซ้าย เสียชีวิตคาโซฟา ห้องรับแขกในบ้าน ตรวจสอบบาดแผลพบกระสุนไม่ทะลุ นายตำรวจแฟนหนุ่มอ้าง ขณะนอนอยู่ในห้องนอนชั้น 2 ได้ยินเสียงปืนวิ่งลงมาดูพบแฟนแอบเอาปืน .45 ของตัวเองมายิงตัวตาย อ้างแฟนเครียดเพราะแม่ป่วย แต่ญาติฝ่ายหญิงโวยแหลก ผู้ตายไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้า ไม่เครียด ไม่มีปัญหา สดชื่นดี ยังวางแผนพาลูกสาววัย 4 ขวบ ไปเที่ยวอยู่เลย แถมกระสุนเข้าขมับซ้าย แต่ผู้ตายถนัดขวา พนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ส่งรอง สว.ไปตรวจร่องรอยตามร่างกาย แอลกอฮอล์ สารเสพติด และเขม่าดินปืนที่มือ ผกก.สน.ลาดพร้าว ยัน ทำสำนวนตรงไปตรงมา หลักฐานสำคัญอยู่ที่ผลตรวจทางวิทยาศาสตร์และวิถีกระสุน
...
แฟนตำรวจยิงตัวตายปริศนารายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 มิ.ย. ร.ต.อ.วิโรจน์ สุชาติ รอง สว. (สอบสวน) สน.ลาดพร้าว รับแจ้งเหตุอุกฉกรรจ์หญิงสาวถูกยิงเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 128 หมู่บ้านเสนาวิลล่า 88 แยก 7 ถนนแฮปปี้แลนด์สายเก่า แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. รายงานผู้บังคับบัญชาก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวร รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ภายในห้องโถงชั้น 1 พบศพ น.ส.พิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ อายุ 30 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 123 หมู่ 4 ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นอนเสียชีวิตบนโซฟามีผ้าคลุมอยู่ สวมชุดนอนสีน้ำเงินนอนหงายจมกองเลือด บริเวณศีรษะด้านซ้ายมีรอยกระสุนปืนขนาด .45 ออโต้กระสุนฝังใน 1 แผล ในบ้านไม่พบร่องรอยต่อสู้ ร.ต.อ.ทรงกลด บุญส่ง รอง สว. (สืบสวน) สน.วังทองหลาง ผู้แจ้งให้การว่า ผู้ตายเป็นแฟนตน ขณะเกิดเหตุนอนอยู่ที่ห้องนอนชั้น 2 ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ลงมาดูเห็นแฟนใช้ปืนยิงตัวเองเสียชีวิตแล้ว รีบแจ้งตำรวจท้องที่ทันที
ต่อมา น.ส.พนิตา บุญโชติ อายุ 31 ปี ลูกพี่ลูกน้องผู้ตายเดินทางมาที่เกิดเหตุ เผยว่า ผู้ตายมีลูกผู้หญิงอายุ 4 ขวบกับนายตำรวจคนดังกล่าว หลังคบหากันมาหลายปี แม่ ร.ต.ท.ทรงกลดเป็นคนซื้อบ้านหลังเกิดเหตุให้เมื่อประมาณ 2 เดือนแล้ว ก่อนหน้านี้ทั้ง 2 คนมีปัญหาทะเลาะวิวาทกันหลายครั้ง ถึงขั้นลงมือทำร้ายร่างกายกันก็มี ผู้ตายเคยเล่าให้ฟังว่า ถูกนายตำรวจรายนี้เอาปืนจ่อหัวทำร้ายจนสลบมาแล้ว แต่ตัดใจไม่ได้กลับมาหาทุกครั้ง เพราะสงสารลูกสาว
น.ส.พนิตากล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายไม่มีอาการป่วยด้วยโรคซึมเศร้า อาการปกติทุกอย่าง ยังโพสต์ขายเสื้อผ้าออนไลน์ในเพจเฟซบุ๊กของตัวเอง และพูดคุยกับญาติน้ำเสียงปกติ บอกกับญาติว่าวันหยุดจะพาลูกสาวไปเที่ยวอีกด้วย นอกจากนี้ผู้ตายยังถนัดมือขวา ไม่น่าจะใช้มือซ้ายยิงตัวตายได้ ดังนั้นญาติติดใจการเสียชีวิต อีกทั้งตอนเกิดเหตุตำรวจไม่เรียกเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบ เรียกมูลนิธิมาเก็บศพอย่างเดียว เอาผ้าห่มห่อร่างไว้ที่โซฟาแล้วยกไปโรงพักทันทีเลย
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลาดพร้าว คุมตัว ร.ต.อ.ทรงกลด ไปสอบสวนในห้องฝ่ายสืบสวนนานกว่า 6 ชม. ยังให้การวกวน นำตัวส่งไปยัง รพ.ตำรวจ เพื่อตรวจร่างกาย จากนั้นนำกลับมาสอบสวนต่อโดยไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไป และไม่ยอมเปิดเผยผลการสอบสวน ส่วนศพผู้เสียชีวิตส่งผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ก่อนมอบให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศล
ต่อมา พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.บก.น.4 เดินทางมาสอบสวน ร.ต.อ.ทรงกลด ในห้องฝ่ายสืบสวน สน.ลาดพร้าว ก่อนเปิดเผยว่า ปืนที่ผู้ตายใช้ก่อเหตุเป็นปืนของ ร.ต.อ.นายดังกล่าว ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการฆาตกรรมหรือเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นต้องสงสัยใดทิ้ง ฉะนั้นต้องรอผลตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดมายืนยันอีกครั้ง
ด้าน พ.ต.อ.รุ่งสกุล บุญกระพือ ผกก.สน.ลาดพร้าว กล่าวว่า เมื่อช่วงสายหลังร้อยเวรรับแจ้งเหตุ ตนร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างถูกต้องตามขั้นตอน ส่วนการสอบปากคำ ร.ต.อ.นายนี้ยังไม่แล้วเสร็จ เจ้าตัวให้การยืนยันว่าแฟนสาวฆ่าตัวตายจริง ตอนนี้ส่งตัวไปตรวจหาร่องรอยการต่อสู้ คราบเขม่าดินปืน สารเสพติด และแอลกอฮอล์ที่ รพ.ตำรวจ ส่วนศพผู้เสียชีวิตต้องนำไปผ่าพิสูจน์หาวิถีกระสุน ผลอย่างเป็นทางการจะออกมาภายใน 30-45 วัน ยืนยันว่า ตำรวจทำงานอย่างตรงไปตรงมา หลักฐานทางวิทยาศาสตร์จะเป็นเครื่องยืนยันความจริงทั้งหมด ขอญาติผู้เสียชีวิตอย่ากังวล
ล่าสุดช่วงเย็น ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ลาดพร้าวนำตัว ร.ต.อ.ทรงกลด บุญส่ง รอง สว.สส.วังทองหลาง กลับจากตรวจร่างกายที่ รพ.ตำรวจ ส่งให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำ เจ้าตัวมีสีหน้าเคร่งเครียด มีเพื่อนตำรวจร่วมรุ่นมาให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง ใช้เวลาสอบสวนราว 1 ชม. ก่อนปล่อยตัวกลับไป
...
พ.ต.อ.รุ่งสกุล บุญกระพือ ผกก.สน.ลาดพร้าว เผยกับผู้สื่อข่าวอีกครั้งว่า พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำ เบื้องต้น ร.ต.อ.ทรงกลดให้การเป็นประโยชน์ อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน พร้อมทั้งส่งวัตถุพยานให้กองพิสูจน์หลักฐานแล้ว หลังจากนี้ต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้งเพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ผิดว่าไปตามผิด ไม่มีการเข้าข้างผู้ใด ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานเท่านั้น
มีรายงานข่าวด้วยว่า ร.ต.อ.ทรงกลดให้การว่า หลังจากออกเวรจากการปฏิบัติหน้าที่แล้วเดินทางกลับมายังบ้านพักเวลาประมาณ 03.00 น. วางอาวุธปืนประจำกายไว้บนหัวนอน กระทั่งช่วงเช้าได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ตกใจตื่น วิ่งลงมาดูพบว่าแฟนสาวนอนเสียชีวิตแล้ว ก่อนหน้านี้ผู้ตายมีอาการเครียดมาสักระยะ เคยบอกว่าแม่มีอาการป่วยจนทำให้ ผู้ตายเครียด อย่างไรก็ตาม เป็นเพียงคำให้การเพียงฝ่ายเดียว อีกทั้งในบ้านหลังที่เกิดเหตุมีเพียงผู้ตายและ ร.ต.อ.ทรงกลด อยู่กันสองต่อสอง ทำให้ตำรวจต้องสอบสวนอย่างละเอียดรอบคอบอีกครั้ง