ใกล้เปิดเทอมผู้ปกครองแห่ซื้อเครื่องแบบนักเรียนแน่นร้านย่านบางลำพู เจ้าของร้านตราสมอชี้โควิดฯ ทำเศรษฐกิจทรุด ส่งผลยอดขายหาย 10% ขณะที่พ่อแม่ยุคนิวนอร์มอล ยอมกัดฟันซื้อเครื่องแบบให้ลูกหลานไปเรียน แม้ตัวเองต้องอดก็ยอม
วันที่ 17 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานที่ย่านบางลำพู แหล่งจำหน่ายเสื้อผ้า-เครื่องแบบนักเรียนชื่อดัง บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก เหล่าบรรดาผู้ปกครองและนักเรียนจำนวนมากทยอยเดินทางมาเพื่อจับจ่ายซื้อหาเสื้อผ้าเครื่องแบบนักเรียนเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดภาคเรียน ในวันที่ 1 ก.ค.โดยเฉพาะร้านที่ได้รับความนิยมมายาวนาน อย่างร้านชุดนักเรียนตราสมอ และร้านท็อป ตลอดวันพ่อแม่ปู่ย่าจูงบุตรหลานเดินเข้าออกซื้อชุดนักเรียนกันไม่ขาดสาย
จากการสอบถามนายวรวิทย์ ศิริวณิชสุนทร ผู้ดูแลร้านชุดนักเรียนตราสมอ เผยว่า เนื่องจากการเปิดภาคเรียนปีนี้เลื่อนออกไปเป็นเดือนก.ค.ประกอบกับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ยอดขายของทางร้านลดลงไปราว 10 เปอร์เซ็นต์ ลูกค้าบางคนอาจใช้เครื่องแบบเก่าที่พอใช้ได้อยู่ไปก่อนเพื่อเป็นการประหยัด เว้นแต่กลุ่มผู้ปกครองที่บุตรหลานต้องเปลี่ยนชั้นเรียนจากอนุบาลเป็นชั้นประถมหรือป.6 ขึ้นมัธยม จำเป็นต้องซื้อเครื่องแบบใหม่ซึ่งในส่วนนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ที่เห็นได้ชัดอย่างหนึ่งคือชุดเบอร์ไซส์ใหญ่ขายหมดเกลี้ยง เหตุเพราะเด็กหยุดอยู่บ้านนานหลายเดือนตัวโตขึ้น ต้องอัปขนาด ส่วนเรื่องราคาของชุดนั้นยังคงปกติไม่มีการขึ้นราคาเพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกค้า
...
ด้านความเห็นของผู้ปกครองที่มาซื้อหาเครื่องแบบนักเรียนให้ลูก นายกฤษฎิ์ กุลเพชรชาตรี วัย 37 ปี อาชีพพนักงานส่งสินค้า กล่าวว่า บุตรสาวขึ้นเรียนชั้นป.1 จึงมีความจำเป็นต้องซื้อเครื่องแบบนักเรียนใหม่ทั้งหมด แต่เนื่องจากช่วงนี้รายได้ลดลงทำให้ครอบครัวต้องแก้ปัญหาด้วยการแบ่งการซื้ออุปกรณ์การเรียนเป็นรอบๆ ไม่สามารถที่จะซื้อครั้งเดียวครบ ยืนยันว่าแม้ จะมีรายได้ที่ลดลงต้องดิ้นรนมากขึ้น แต่เรื่องการศึกษาของลูกจะไม่ยอมให้ตกหล่นลูกจะต้องได้ไปเรียนโดยมีอุปกรณ์และเครื่องแบบในการเรียนครบถ้วนตามที่โรงเรียนกำหนดเหมือนคนอื่น
ด้านนางนารี (ขอสงวนนามสกุล) พนักงานบริษัท วัย 40 ปี กล่าวว่า ครอบครัวตนก็ได้รับผลกระทบในช่วงนี้อย่างรุนแรง เนื่องจากสามีต้องถูกเลิกจ้างเมื่อใกล้เปิดเทอม ก็ต้องกัดฟันหาเงินมาซื้อเครื่องแบบนักเรียนให้ลูกก่อนเปิดเรียน โชคดีที่มีบุตรชาย 2 คน คนโตเรียนชั้น ม.3 คนเล็กขึ้นชั้นม.2 จึงสามารถที่จะให้คนเล็กสลับไปใช้เครื่องแบบของพี่ชายแทนได้เพื่อที่จะไม่ต้องซื้อชุดใหม่ 2 คน
ขณะที่นายอนันต์ กลิ่นโพธิ์กลับ พนักงานหน่วยงานภาครัฐ กล่าวว่า ครอบครัวไม่ได้รับผลกระทบมากนักแต่ก็เลือกที่จะประหยัดด้วยซื้อชุดนักเรียนเฉพาะที่จำเป็นหรือไม่มีใช้ ในส่วนที่ยังใช้ได้ก็ใช้ต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ดูแลร้านชุดนักเรียนตราสมอ ระบุว่าผลกระทบของการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ทำให้ยอดขายลดลง คาดว่าน่าจะเป็นเพราะรายได้ของลูกค้าหดหายไป ขณะที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า จับจ่ายโดยใช้มาตรการประหยัดเช่นเครื่องแบบนักเรียนที่ยังใส่ได้อยู่ก็จะยังไม่ซื้อ ขณะที่บางรายต้องทยอยซื้อเครื่องแบบนักเรียนเป็นรอบๆ โดยไม่ซื้อครั้งเดียวให้ครบเพื่อไม่ให้กระทบรายได้ที่ลดลง
อย่างไรก็ตามทุกคนยืนยันตรงกันว่าจะไม่ตัดลดงบเรื่องการศึกษาและอุปกรณ์การเรียนของลูกหลานโดยไปใช้วิธีประหยัดในค่าใช้จ่ายครอบครัวด้านอื่นๆ เช่นการท่องเที่ยว การกินข้าวนอกบ้านแทน
...
เช่นเดียวกับที่ร้านน้อมจิตต์ ย่านบางกะปิ มีผู้ปกครองพาบุตรหลาน มาหาซื้อชุดนักเรียน เข็มขัด รองเท้า ถุงเท้า ฯลฯ เพื่อเตรียมไว้ช่วงเปิดเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ซึ่งทางร้านได้เพิ่มมาตรการหลายอย่าง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส COVID-19 เช่น มีถุงพลาสติกให้สวมใส่ตอนลองรองเท้า การจำกัดจำนวนลูกค้าให้พอดีกับขนาดของร้าน การจ่ายเงินแบบ e-Payment เป็นต้น
สำหรับกำหนดการเปิดเรียนเทอมที่ 1/2563 จะเปิดเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคม-13 พฤศจิกายน 2563 และจะปิดภาคเรียนวันที่ 14-30 พฤศจิกายน 2563 (17 วัน) ส่วนเทอมที่ 2/2563 จะเปิดกันในวันที่ 1 ธันวาคม 2563-9 เมษายน 2564 และปิดภาคเรียนในวันที่ 10 เมษายน-16 พฤษภาคม 2564 (37 วัน) โดยวันเรียนที่ขาดหายไป 12 วัน กำหนดให้สถานศึกษาสอนชดเชย