กลุ่มติดตามคดีอุ้มนายวันเฉลิม บุกชุมนุมหน้าสถานทูตกัมพูชาอีกรอบ ครั้งนี้นำภาพถ่ายผู้ต้องสงสัยและจุดเกิดเหตุส่งมอบให้ แกนนำโวยมาขอความเป็นธรรมให้คนไทยที่ถูกอุ้มกลับโดนตำรวจตั้งข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 มิ.ย. ที่หน้าสถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ถนนประชาอุทิศ เขตวังทองหลาง นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ นายณัฐชนน ไพโรจน์ และน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แกนนำสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) นัดหมายมวลชนราว 30 คน เดินทางมาชุมนุมติดตามข้อเรียกร้องที่ขอให้รัฐบาลกัมพูชาช่วยเร่งคลี่คลายคดีการอุ้มหายนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงที่หลบหนีไปกบดานที่กรุงพนมเปญ

โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง นำกำลังมารักษาความปลอดภัยตั้งแผงเหล็กสกัดกลุ่มผู้ชุมนุมให้ยืนแค่บนผิวจราจรไม่ให้มาชุมนุมใกล้กำแพงสถานทูต แล้วใช้เครื่องขยายเสียงประกาศเตือนให้ยุติเพราะถือเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
...

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประท้วงได้อ่านแถลงการณ์ ก่อนนำหนังสือข้อเรียกร้อง ภาพถ่ายหลักฐานจากกล้องวงจรปิด บริเวณจุดเกิดเหตุอุ้มนายวันเฉลิม และภาพผู้ต้องสงสัย 5 คน ที่คาดว่าเป็นคนไทยยื่นถึงนายกรัฐมนตรีกัมพูชาผ่านกับผู้แทนสถานทูตกัมพูชา

นายสมยศ ระบุว่า ภาพถ่ายชาย 5 คนที่เป็นผู้ต้องสงสัยอุ้มนายวันเฉลิมคาดว่าน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของไทย และขณะนี้ทั้งตนรวมทั้งผู้ที่มาเรียกร้องความเป็นธรรมให้นายวันเฉลิม ที่หน้าสถานทูตกัมพูชา เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ถูกตำรวจสน.วังทองหลาง เรียกไปรับทราบข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วรวมทั้งสิ้น 10 คน การกระทำครั้งนี้ถือเป็นการใช้กฎหมายโดยไม่สุจริตปิดกั้นเสรีภาพ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลรู้เห็นเป็นใจในการอุ้มนายวันเฉลิม ตลอดจนผู้ลี้ภัยรายอื่นๆ ในประเทศเพื่อนบ้านรวม 9 คน รวมถึงเหตุความรุนแรงในการลอบทำร้ายนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลก่อนหน้านี้ทั้งหมด จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งทบทวนในสิ่งที่ทำเพราะจะทำให้สถานการณ์บานปลาย
อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทางกลุ่มเตรียมยื่นข้อเรียกร้องต่อทางยูเอ็น ในส่วนของญาติของนายวันเฉลิม นั้น อยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อมอบอำนาจทนายความประเทศกัมพูชา ดำเนินการติดตามและให้ข้อมูลหลักฐานทั้งหมดกับทางตำรวจกัมพูชาเพื่อให้ช่วยคลี่คลายคดีนี้ต่อไป