สคบ.นัดเคลียร์ผู้เสียหาย เจอค่าถ่ายเอกสารแพงมหาโหด ก่อนแจ้งข้อหาผู้ประกอบการ คิดค่าบริการแพงเกินป้ายแสดงราคา ขณะที่ มีเหยื่อที่โดนค่าบริการระดับสุลต่านก่อนหน้าเข้าให้ข้อมูลเพิ่มอีก
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 21 พ.ค.63 ที่ห้องประชุม 4 ชั้น 9 อาคารบางกอกแลนด์ เอเยนซี่ จำกัด นายพิฆเนศ ต๊ะปวง รองเลขาธิการสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ร่วมกับ นายประมวล นิลนาค พาณิชย์จังหวัดนนทบุรี เรียกคู่กรณีเจ้าของร้านถ่ายเอกสารแห่งหนึ่งย่านเมืองทองธานี ผู้เสียหาย และเจ้าของผู้ให้เช่า เข้าร่วมพูดคุยเจราจาปมประเด็นดราม่าค่าถ่ายเอกสารแพงเกินจริง หลังผู้เสียหายนำเรื่องดังกล่าวไปโพสต์ลงในเฟสบุ๊ก ในวันนี้ยังมีผู้เสียหายที่เคยมาใช้บริการที่ร้านดังกล่าวทราบเรื่องเดินทางเข้าร่วมพูดคุยด้วย หลังจากใช้เวลาในการพูดคุยกันนานเกือบ 3 ชม.ปรากฎว่าผลการพูดคุยไม่ได้บทสรุปเป็นที่น่าพอใจแก่ผู้เสียหายมากนัก
นายพิฆเนศ ต๊ะปวง กล่าวว่า วันนี้ได้เรียกทั้งสามฝ่ายร่วมประชุมหารือในเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้น ประกอบด้วย เจ้าของร้านถ่ายเอกสาร ผู้เสียหาย และผู้ให้เช่า โดยการเจราจาเบื้องต้นทางผู้ประกอบการยินดีที่จะคืนเงินจำนวนดังกล่าวให้กับผู้เสียหาย แต่ทางผู้เสียหายไม่ยอมรับ โดยขอให้ทางหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบเข้าไปดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจังกับผู้ประกอบการ ไม่ใช่เจ้านี้เจ้าเดียวต้องควบคุมทั้งหมด ซึ่งทางพาณิชย์จังหวัดพร้อมรับไปดำเนินการทันที จะมีการเรียกผู้ประกอบการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา เพื่อดำเนิคดีตามบทลงโทษ นอกจากนี้จะมีมาตรการที่เข้มข้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะแบบนี้ขึ้นอีก

...
ด้าน พาณิชย์จังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า ต่อไปนี้ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนนทบุรี จะมีการตรวจสอบสถานประกอบการในลักษณะอย่างนี้ทุกร้าน เพื่อหาข้อสรุปในการกำหนดราคา ซึ่งแต่ละพื้นที่อาจจะไม่เหมือนกัน อยู่กับสถานที่ที่ให้เช่าซึ่งจะมีราคาแตกต่างกัน เพราะฉนั้นจะต้องกำหนดราคาให้บริการที่ชัดเจน พร้อมทั้งติดป้ายประกาศให้ลูกค้าทราบ และต้องคิดตามราคาที่ประกาศไว้ ถ้าสถานประกอบการไม่ทำตามที่กำหนดมีผู้เสียหายไปแจ้งความ เราก็จะดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ซึ่งพรบ.ดังกล่าวมีบทลงโทษตามมาตรา 40 ผู้ใดไม่แสดงราคาหรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดตามมาตรา 28 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท พร้อมทั้งนำประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยสินค้าและบริการ(กกร.) ฉบับที่ 103 มาบังคับใช้เป็นบทลงโทษ
นายประมวล กล่าวต่อว่า ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านมา หลังจากพูดคุยกันแล้วทั้งสามฝ่าย อาจจะได้บทสรุปที่มีบางฝ่ายอาจจะไม่พอใจ ซึ่งถ้าทางผู้เสียหายเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ให้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ประกอบการตามกฎหมายได้ และเราก็จะเรียกผู้ประกอบการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ส่วนความเห็นของทางเจ้าของสถานที่ให้เช่าในการพูดคุยได้ชี้แจงว่าขอให้ทางผู้ประกอบการไปดำเนินการทุกเรื่องให้ถูกต้องเสียก่อน เช่นมีใบแสดงราคาสินค้า ค่าใช้จ่ายในเรื่องอะไรให้แสดงไว้ด้วย เพื่อให้ลูกค้าที่มาใช้บริการทราบชัดเจน ถึงจะให้เช่าดำเนินกิจการต่อไป ซึ่งทางผู้ประกอบการได้รับปากว่าจะไปดำเนินการให้เรียบร้อยตามที่ตกลงกัน
ขณะที่ น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย เจ้าของเรื่องค่าถ่ายเอกสารโคตรแพง กล่าวว่า วันนี้ที่เรียกมาพูดคุยกัน รู้สึกว่าไม่เป็นที่น่าพอใจ ไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการอะไรเลย ไม่มีบทลงโทษกับผู้ประกอบการ บอกแต่ว่าให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ ซึ่งตนคงไม่ไปแจ้งความเพราะไม่อยากไปทะเลาะกับใครแล้วเราต้องทำงาน วันที่ตนเข้าไปถ่ายเอกสารนั้นตนก็ไม่ได้สอบถามเรื่องราคาซึ่งก็คิดว่าน่าจะไม่แพงมากกว่าที่อื่นมากนัก ประกอบกับเจ้าของร้านชวนคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้จนตนลืมถามราคา
ผู้เสียหายจากค่าถ่ายเอกสารแพง กล่าวอีกว่า ในการพูดคุยทางเจ้าของร้านอ้างว่า แถวนี้เขารู้จักหมดทุกคน รวมทั้งมอเตอร์ไซด์รับจ้างที่วิ่งอยู่ในเมืองทองธานี พร้อมทั้งบอกว่าอยู่ในนี้ต้องระวังตัวให้ดี เพราะมันน่ากลัว ตนก็ไม่คิดอะไรเมื่อถ่ายเอกสารเสร็จเจ้าของก็ยื่นเอกสารมาให้พร้อมบอกว่า ค่าถ่ายเอกสารทั้งหมด 420 บาท ตนก็ถามไปว่ามันแพงเกินไปหรือเปล่า เขาบอกว่าไม่แพงหรอกแถวนี้เขาก็ถ่ายราคานี้กันทั้งนั้น ตนกลัวจะมีปัญหาก็เลยจ่ายเงินให้เขาไป เมื่อถึงบ้านก็ไปเล่าให้แฟนฟัง แฟนก็ไม่พอใจจึงนำเรื่องราวดังกล่าวไปโฟสต์ลงเฟซบุ๊ก ก็เพื่อเตือนคนอื่นที่ไม่รู้เรื่องอาจจะถูกหลอกเหมือนตน แต่ไม่คิดว่าจะเป็นกระแสที่โด่งดังขึ้นมา

ระหว่างการรอ สคบ.ไกล่เกลี่ยระหว่างคู่กรณีถ่ายเอกสารราคาแพง มีผู้เสียหายที่เคยใช้บริการร้านถ่ายเอกสารร้านนี้ และขนส่งร้านนี้ สังเกตุการณ์การดำเนินการของ สคบ.อย่างใกล้ชิด เช่น กรณีของผู้เสียหายอีกราย ที่ถ่ายเอกสาร 12 แผ่น 720 บาท เมื่อทราบราคาจะไม่จ่ายก็จะถูกข่มขู่ว่า วินรถจักรยานยนต์ด้านข้างร้านเป็นพวกเดียวกับร้าน และยังมีหมวกตำรวจวางไว้ในร้านด้วย ซึ่งทำให้ผู้เสียหายส่วนใหญ่หวาดกลัว ไม่ดำเนินคดี หรือ ร้องเรียนร้านค้า
...

นายบี (นามสมมุติ) ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตนผ่านมาเห็นผู้สื่อข่าวอยู่กันเป็นจำนวนมากที่ด้านหน้าตึก จึงสอบทราบจึงทราบว่ามีการเรียกผู้ประกอบการกับผู้เสียหายร่วมพูดคุยเจรจา ตนก็เป็นเหยื่อรายหนึ่งเหมือนกันที่โดน ตนไม่ได้ถ่ายเอกสารแต่ตนไปฝากส่งของไปให้เพื่อน เป็นลิปสติกจำนวน 6 แท่ง ทางร้านคิดค่าดำเนินการจัดส่งเป็นจำนวนเงิน 260 บาท ตนสอบถามว่าทำไมถึงแพงจังเลย ทางเจ้าของร้านบอกว่าพี่ลดให้แล้วนะ ตนไม่อยากมีปัญหาก็เลยยอมจ่ายเงินให้เขาไป
ทั้งนี้ มีรายงานว่าทางเมืองทองธานี อาจจะพิจารณายกเลิกสัญญาเช่า เนื่องจากทำให้ทางเมืองทองธานีเสื่อมเสียชื่อเสียง และทางเจ้าหน้าที่ สคบ.ก็ได้แจ้งข้อหากลับเจ้าของกิจการร้านถ่ายเอกสารดังกล่าว 1 ข้อหา เรียกเก็บค่าบริการเกินราคาที่แสดงไว้ในป้ายแสดงราคา.