วิชั่นไทยผนึกกำลัง 5Lab เปิดแพลตฟอร์ม รวบรวมข้อมูล "โควิด-19" เวอร์ชั่นภาษาจีน พร้อมเปิดรายการให้ข้อมูล-จับมือโรงพยาบาลชั้นนำจากไต้หวัน ให้ความรู้สู้ภัยเชื้อร้าย 

เมื่อวันที่ 19 พ.ค.63 นายชิต ลี ผู้ร่วมก่อตั้งวิชั่นไทย เปิดเผยถึงการรับมือสถานการณ์ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ว่า ล่าสุดได้ร่วมมือกับ นายอาพร พลานุเวช ประธานเจ้าหน้าที่สายเทคโนโลยี (CTO) แห่ง 5Lab ผู้สร้าง COVID Tracker แพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบเรียลไทม์เจ้าแรกในไทย โดยวิชั่นไทยได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรโปรเจกต์นี้ เพื่อต่อยอดไปสู่แพลตฟอร์มภาษาจีนให้เป็นสื่อเผยแพร่ข้อมูลแบบเรียลไทม์แก่กลุ่มผู้ใช้ภาษาจีนในไทย ที่ไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้ สามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ติดเชื้อเพื่อนำไปวิเคราะห์แนวทางรับมือให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยโปรเจ็กต์นี้วิชั่นไทยรับผิดชอบแปลข้อมูลเป็นภาษาจีนประยุกต์และภาษาจีนดั้งเดิม ให้แก่กลุ่มผู้ใช้ภาษาจีนที่อาศัยอยู่ในไทย หรือชาวจีนที่ต้องการทราบถึงสถานการณ์ในไทย ได้เข้าใจและติดตามสถานการณ์ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ผ่านทางแพลตฟอร์มนี้

สำหรับแพลตฟอร์มดังกล่าว ได้เปิดให้บริการเป็นภาษาจีนมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา โดยพบว่ามีผู้ลงทะเบียนใช้งานค่อนข้างมาก ทั้งกลุ่มผู้ใช้ภาษาจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย กลุ่มผู้ใช้ภาษาจีนที่อยู่ในจีน ไต้หวัน ฮ่องกง มาเลเซีย ที่ต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย รวมถึงคนไทยที่สามารถอ่านภาษาจีนได้ ก็เข้าใช้งานเช่นกัน ส่งผลให้กลุ่มผู้ใช้ภาษาจีนเหล่านี้ สามารถเสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับโควิด-19 ในไทยเป็นภาษาจีนได้อย่างง่ายดาย

...

นอกจากนี้ยังเปิดตัวรายการ "WHAT THAI SAY" ทางยูทูปซึ่งเป็นการไปสัมภาษณ์คนไทยตามสถานที่ต่างๆ ประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 เพื่อเป็นการสะท้อนมุมมองของคนไทยในแต่ละพื้นที่ และให้ทุกคนได้มองเห็นอีกมุมหนึ่งของสังคม ที่มีความจริงแตกต่างไปจากสื่อต่างประเทศอื่นๆที่เผยแพร่ออกไป โดยหวังจะทำให้ทุกคนได้เห็นประเทศไทยในมุมต่างๆ นอกจากด้านการท่องเที่ยวแล้ว ยังมีวัฒนธรรมไทย รวมถึงเป็นสื่อในการสะท้อนปัญหาสังคม ซึ่งอาจนำไปสู่การแก้ไขอย่างยั่งยืนได้

ไม่เพียงเท่านี้เรายังได้จัดสัมมนาออนไลน์การแพทย์ไต้หวัน-ไทย แบ่งปันข้อมูลการป้องกันโรคระบาด โดยได้รับความไว้วางใจจากโรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียน ให้จัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์ของรัฐบาลไต้หวัน ภายใต้หัวข้อ "The Likely Economic Impact of COVID-19 on Global and Southeast Asia Countries" ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.-3 ก.ค.63 โดยมีผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ การป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน รวมถึงการประยุกต์ใช้สมาร์ทเฮลท์แคร์ในการป้องกันโรคระบาด การดูแลป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ และการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ในการวิเคราะห์และหารือเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจจากโรคระบาด 

ด้าน นางแองเจิ้ล เฉิน ผู้ร่วมก่อตั้งวิชั่นไทย สื่อภาษาจีนเกี่ยวกับประเทศไทย กล่าวว่า "วิชั่นไทยก่อตั้งขึ้นกว่า 6 ปีแล้ว เป็นสื่อกลางในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของประเทศไทยให้แก่กลุ่มผู้ใช้ภาษาจีน ช่วงเกิดวิกฤต COVID-19 ตนและนายชิต ลี ได้ตัดสินใจไม่กลับบ้านเกิดไต้หวัน เพื่อดูแลบริษัทฯที่ไทยและคอยอยู่เคียงข้างพนักงาน อีกทั้งไม่ปลดพนักงาน ไม่ลดเงินเดือน และยังได้ตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเพื่อประเทศไทย โดยนำเอาจุดแข็งนั่นคือการสร้างเนื้อหาภาษาจีนให้คนเข้าใจได้โดยง่าย และการนำเนื้อหากับเทคโนโลยีมาผสานกัน เพื่อให้บริการโซลูชั่นต่างๆ ซึ่งสำหรับสถานการณ์โควิด-19 นี้ หากย้อนกลับไปในช่วงที่ยังไม่แพร่กระจายไปทั่วทั้งโลก เรารู้สึกได้ถึงความผิดปกติ จากประสบการณ์ที่ไต้หวันเคยเผชิญกับโรคซาร์ส ประกอบกับการติดตามสถานการณ์ในจีนอย่างต่อเนื่อง จึงได้เริ่มให้ความรู้แก่พนักงานในบริษัทฯ และย้ำเตือนถึงความสำคัญของการป้องกันโรคระบาด พร้อมติดตามและให้ความสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์โรคระบาดมากยิ่งขึ้น 

"ประเทศไทยเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สอง เราจึงคิดว่าเราจะสามารถทำอะไรให้ประเทศไทยได้บ้าง เราได้เห็นพลังของคนไทยในการต่อสู้กับโควิด-19 ในฐานะที่เราอาศัยอยู่ในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี จึงอยากมีส่วนร่วมในการต่อสู้ไปพร้อมกับคนไทย" แองเจิ้ล เฉิน กล่าว