กทม. เผย 10 กลุ่มสถานที่หลังผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ระยะที่ 2 ให้เปิดบริการตั้งแต่ 17 พ.ค. คงมาตรการสาธารณสุขเข้มข้นป้องกันการระบาด ผู้ว่าฯ ย้ำ ห้ามขายเหล้าให้ทานในร้าน ฝ่าฝืนสั่งปิดทันที

วันที่ 16 พ.ค. 2563 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร และ ร.ต.ท.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังมีการประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 7) เรื่องการผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 2 จะเริ่มตั้งแต่ 17 พ.ค. 2563 เป็นต้นไป ว่า การเปิดกิจการกิจกรรมในระยะที่ 2 กทม. ได้ขอรับความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครแล้ว ซึ่งทั้งหมดยังอยู่ในมาตรการกำกับดูแลเพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากขึ้น การที่จะประสบความสำเร็จ จะเกิดการผ่อนคลายระยะที่ 3 หรือไม่นั้น อยู่ที่ความร่วมมือของประชาชนทุกคนและผู้ประกอบการ อีกทั้ง กทม. ก็ร่วมกับตำรวจ กอ.รมน. เจ้าหน้าที่เขต ตรวจตราสถานที่ที่มีการผ่อนปรนเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนด และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ติดตามผลวันต่อวัน โดยที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือในระดับหนึ่ง จึงจำเป็นจะต้องขอความร่วมมือประชาชนต่อไป รวมทั้งจะมีการลงพื้นที่ตรวจตรามากขึ้นด้วย

สำหรับผ่อนปรนมาตรการแบ่งเป็น 10 กลุ่มสถานที่ใหญ่ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. เป็นต้นไป มีดังนี้

1. ร้านอาหารและเครื่องดื่มในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ อนุญาตเปิดให้นั่งทานได้ แต่ต้องทำตามมาตรการอย่างเคร่งครัด และไม่ให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่ง กทม. จะตรวจอย่างเข้มข้นต่อไป

...

2. ร้านอื่นๆ ในห้างสรรพสินค้า อนุโลมให้เปิดได้ แต่ที่สำคัญคือต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า การป้องกันไม่ให้เกิดแออัด การรักษาสุขลักษณะอนามัย การทำความสะอาดพื้นที่ และเว้นระยะห่างทางสังคม

  • ส่วนที่ยังปิด คือ โรงภาพยนตร์ ร้านเกม ลานโบว์ลิ่ง ลานสเก็ต หรือโรลเลอร์เบลด ตู้เกม เครื่องเล่นหยอดเหรียญ คาราโอเกะ สวนสนุก สวนน้ำ สถานที่ประกวดพระเครื่อง และศูนย์ประชุมในห้างสรรพสินค้า

3. สถานที่รับเลี้ยงผู้สูงอายุ หรือสถานสงเคราะห์ผู้สูงอายุ จะให้เปิดเฉพาะที่เป็นการจัดสวัสดิการโดยรัฐ ส่วนการมาเช้าเย็นกลับยังไม่ให้เปิดใช้บริการ

4. กองถ่ายภาพยนตร์นอกสถานที่ ต้องมีการเว้นระยะห่าง จำกัดจำนวนคน หน้าฉากที่ออกกล้องไม่เกิน 10 คน ขณะที่เมื่อรวมกับคนหลังกล้องต้องไม่เกิน 50 คน และการออกนอกสถานที่ต้องแจ้งสำนักงานเขตก่อนถ่ายทำ 1 วัน

5. ห้องประชุมในโรงแรม หรือศูนย์ประชุม จัดได้แต่ห้ามเกิน 50 คน และต้องเป็นการประชุมจากหน่วยงานเดียวกัน

6. คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงาม ทั้งในและนอกห้างสรรพสินค้า โดยทำได้ทุกอย่างเว้นบริเวณใบหน้า เช่น การฉีดโบท็อกซ์ กดสิว เพราะแพทย์มีความเป็นห่วงเนื่องจากเสี่ยงการติดโควิด-19 รวมถึง ร้านทำเล็บ เปิดบริการได้ตามปกติ

7. ฟิตเนส นอกห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า หรือคอมมูนิตี้มอลล์ เปิดให้เล่นได้เฉพาะ ฟรีเวท (Free weight) โยคะ เล่นได้คนละไม่เกิน 2 ชั่วโมง มีระบบจองคิว เว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร ผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากากอนามัย มีการทำความสะอาดอุปกรณ์ทุกครั้งหลังใช้งานแล้ว และผู้เล่นโยคะต้องนำเสื่อมาเอง

8. สถานที่ออกกำลังกายในร่ม โรงยิม ได้เฉพาะกีฬาดังต่อไปนี้ แบดมินตัน ตะกร้อ ปิงปอง สควอช ยิมนาสติก ฟันดาบ และปีนผา ต้องมีการทำความสะอาดอุปกรณ์ทุกครั้งหลังเล่น และต้องไม่มีการชมการแข่งขัน ต้องสวมหน้ากากอนามัยทั้งก่อนและหลังใช้บริการ

9. สระว่ายน้ำสาธารณะทุกประเภท ต้องจำกัดผู้ใช้ตามขนาดพื้นที่ 150 ตารางเมตรต่อคน และจำกัดคนละ 1 ชั่วโมง รวมถึงต้องสวมหน้ากากทั้งก่อนและหลังใช้บริการ ให้เปิดได้ตั้งแต่ 06.00-18.00 น. (งดเว้นการเรียนและสอนว่ายน้ำ)

10. สวนพฤกษศาสตร์ สวนดอกไม้ พิพิธภัณฑ์ ศูนย์การเรียนรู้ แหล่งประวัติศาสตร์ โบราณสถาน ห้องสมุดสาธารณะและหอศิลป์ ต้องมีการจองคิวล่วงหน้าและจัดเป็นรอบ ต้องเว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะ เก้าอี้ อย่างน้อย 1 เมตร ไม่มีการฉายวีดิทัศน์ชมแบบรวมกลุ่ม

อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ฝากทิ้งท้ายด้วยว่า มีความเป็นห่วงในการเปิดห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าในวันแรก กังวลว่าจะเกิดภาพการแย่งกันเหมือนตอนเปิดขายสุรา ขอให้ทยอยไปวันอื่นได้เพราะห้างฯ ไม่หนีไปไหน ไม่ต้องรีบร้อนแย่งกัน และไม่ต้องกลัวของหมด พร้อมย้ำว่า หากพบผู้ประกอบการหรือร้านใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ลูกค้าทานในร้านจะถูกสั่งปิดทันทีโดยไม่มีข้อแม้.