ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากทั่วโลก เพิ่มขึ้นอีก 7 หมื่นกว่าราย ภายใน 24 ชั่วโมง มาอยู่ที่ 3,584,174 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 4 พันศพ มาอยู่ที่ 251,575 ศพ รักษาหายแล้ว 1,167,991 ราย จากการรายงานของศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ เมื่อเวลา 13.32 น. วันที่ 5 พ.ค.
- สหรัฐฯ ยังคงสถิติอันดับ 1 ของโลก ทั้งจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อและเสียชีวิต โดยภายใน 24 ชั่วโมง ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2 หมื่นกว่าราย ขยับมาอยู่ที่ 1,180,634 ราย และเสียชีวิตเพิ่มอีกพันกว่าศพ มาอยู่ที่ 68,934 ศพ โดยเฉพาะในรัฐนิวยอร์ก เสียชีวิตมากที่สุดในสหรัฐฯ 24,999 ศพ
- อันดับที่ 2 ของโลก ยังเป็นสเปน มีผู้ติดเชื้อ 218,011 ราย เสียชีวิต 25,428 ศพ ตามาด้วยอิตาลี ติดเชื้อ 211,938 ราย เสียชีวิต 29,079 ศพ อังกฤษ ติดเชื้อ 191,832 ราย เสียชีวิต 28,809 ศพ ฝรั่งเศส ติดเชื้อ 169,583 ราย เสียชีวิต 25,204 ศพ และเยอรมนี ติดเชื้อ 166,152 ราย เสียชีวิต 6,993 ศพ
- ชาวอเมริกันอาจเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด มากถึง 1 แสนศพ จากการออกมายอมรับของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ยังมีความหวังว่าสหรัฐฯ จะสามารถพัฒนาวัคซีนต้านโรคดังกล่าวได้ภายในสิ้นปีนี้ พร้อมกับอ้างว่ามีหลักฐานชี้ชัดไวรัสดังกล่าวกำเนิดจากห้องปฏิบัติการในเมืองอู่ฮั่นของจีน สวนทางกับองค์การอนามัยโลกออกมายืนยันไม่ได้รับข้อมูลหรือหลักฐานใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
- ญี่ปุ่น มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 201 ราย มาอยู่ที่ 15,078 ราย ทำให้นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ขยายระยะเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งประเทศ ไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค. และยังคงกำหนดให้ 13 จังหวัดเป็นเขตเฝ้าระวังพิเศษ นอกจากนี้ภายใน 1 สัปดาห์ ต้องติดตามว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะอนุมัติยาเรมเดสซิเวียร์ ใช้รักษาโรคโควิดหรือไม่ หลังจากมีบริษัทเวชภัณฑ์แห่งหนึ่งยื่นขออนุมัติยาชนิดนี้เข้ามา
- สถานการณ์ในกลุ่มประเทศอาเซียน ผู้ติดเชื้อในสิงคโปร์ เพิ่มขึ้นอีก 573 ราย ภายใน 24 ชั่วโมง รวมผู้ติดเชื้อ 18,778 ราย ยอดผู้เสียชีวิตคงที่ 18 ศพ ส่วนอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 395 ราย รวมผู้ติดเชื้อล่าสุด 11,587 ราย เสียชีวิต 864 ศพ ฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 262 ราย รวมผู้ติดเชื้อ 9,485 ราย เสียชีวิต 623 ศพ มาเลเซีย เพิ่มขึ้น 55 ราย รวมผู้ติดเชื้อ 6,353 ราย เสียชีวิต 105 ศพ
- สถานการณ์ในไทยดีขึ้นต่อเนื่อง อยู่ในระดับที่ควบคุมโรคได้ และมีจังหวัดมากกว่า 50% ที่ไม่พบผู้ป่วยมาแล้วมากกว่า 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา และล่าสุดพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มเพียง 1 ราย เป็นชายไทย ชาวนราธิวาส วัย 45 ปี ถือเป็นรายที่ 35 ของนราธิวาส ส่วนทั้งประเทศมีผู้ป่วยสะสม 2,988 ราย หายป่วยแล้ว 2,747 ราย ผู้เสียชีวิตคงที่ 54 ศพ
- ห้วงเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยมากสุดในศูนย์กักกันของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง รองลงมาเป็นกลุ่มสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยก่อนหน้า และจากการค้นหาเชิงรุก และเมื่อแยกผู้ป่วยเป็นรายภูมิภาค พบว่าพื้นที่กรุงเทพฯ และนนทบุรี รวมกันอยู่ที่ 1,697 ราย ภาคใต้ 707 ราย ภาคกลาง 379 ราย ภาคอีสาน 111 ราย และภาคเหนือ 94 ราย
...
ต้องติดตามต่อไป เพราะหลังมีการผ่อนปรนให้กิจการ 6 ประเภท กลับมาเปิดดำเนินการ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ทำให้ประชาชนเริ่มเดินทางมากขึ้น จนกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ออกมาแสดงความกังวลถึงความเสี่ยงที่จะพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า เพราะประชาชนมีการพบปะกันมากขึ้น ทั้งตั้งวงกินอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หวังว่าการระบาดระลอกสองจะไม่เกิดขึ้นอีก.