พบสองหนุ่มนักดนตรีตกยาก ไม่ยอมงอมือเท้าต่อโชคชะตา ผันตัวมาเป็นพ่อค้าเปิดท้ายขายน้ำพริกริมถนน ทั้งที่ก่อนมีโรคโควิด เคยมีรายได้จากการเล่นดนตรีเดือนละหลายหมื่นบาท วอนรัฐผ่อนปรนให้สถานบันเทิง และเยียวยาให้ทั่วถึงกว่านี้ 

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 30 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณริมถนนตัดใหม่ พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 ได้มีประชาชนให้ความสนใจจอดรถซื้อน้ำพริกริมถนน ซึ่งเป็นของนายสุรกานต์ รุ่งเจริญ วัย 41 ปี และนายปณีตชาย ลอยถาดทอง วัย 40 ปี สองนักร้องและนักกีตาร์ตกยาก ที่ผันตัวมาเป็นพ่อค้าเปิดท้ายขายน้ำพริก โดยมีการนำกีตาร์คู่ใจ แท่นวางโน้ต และป้ายข้อความว่า “น้ำพริกนักดนตรีตกงานมาเป็นเดือน ช่วยอุดหนุนหน่อยครับ 3 กระปุก 100”

นายสุรกานต์ เผยว่า ตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย นักดนตรีถือเป็นอาชีพแรกๆ ที่ต้องตกงาน และเป็นอาชีพท้ายๆ ที่ได้รับเงินช่วยเหลือ จากเดิมที่เคยเล่นดนตรีคืนละ 2 แห่ง และรับงานเล่นดนตรีตามงานอีเวนต์ มีรายได้เดือนละหลายหมื่นบาท แต่ตอนนี้รายได้เป็นศูนย์ ขณะที่รายจ่ายมีเท่าเดิม ทั้งมีลูกเมียที่ต้องเลี้ยงดู จึงไม่สามารถอยู่เฉยๆ เพื่อรอความช่วยเหลือจากรัฐเพียงอย่างเดียวได้ ต้องดิ้นรนผันตัวมาเป็นคนขับแกร็บคาร์ วาดรูปขาย จนถึงพ่อค้าเร่ขายน้ำพริก

...

"ไม่มีนักดนตรีคนไหนเตรียมตัวว่าจะต้องตกงานนานขนาดนี้ ทำให้ตอนนี้บางคนไม่มีเงินเหลือติดตัวเลยสักบาทเดียว ผมโชคดีได้รับเงินเยียวยา ประกอบกับมีรถและมีความรู้ด้านศิลปะจึงใช้หารายได้ประทังไปก่อนได้ แต่หากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ห่วงว่าจะมีคนที่ไม่มีทางทำกินอาจต้องผันตัวไปเป็นมิจฉาชีพ จึงอยากให้รัฐมีการผ่อนปรนในส่วนของสถานบันเทิง และเยียวยาให้รวดเร็วทั่วถึงกว่านี้เพราะทราบว่านักดนตรีหลายคนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้เงินช่วยเหลือ”