แถลงการณ์ ภาคประชาชน จี้ กทม.ออกประกาศขายเหล้าเบียร์ได้เฉพาะเวลา 11.00-14.00 น. ลดเสี่ยง ลดภาระของพนักงานจนท.แพทย์-พยาบาล ที่ต้องมาดูแลรักษาคนเมา ที่สร้างปัญหาช่วงโควิด-19         

วันที่ 3 เม.ย. นายนรินทร์ แป้นประเสริฐ ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังแอลกอฮอล์ กรุงเทพฯ พร้อมด้วยภาคีเครือข่าย ออกแถลงการณ์ โดยระบุว่า ด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ได้มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในหลายประเทศทั่วโลก พบผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก รัฐบาลได้ออกประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน กำหนดมาตรการควบคุมพิเศษ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ในจังหวัดต่างๆ รวมถึงกรุงเทพมหานคร มีการออกประกาศสั่งปิดสถานที่หลายแห่งเป็นการชั่วคราว 

และล่าสุด เมื่อวานนี้รัฐบาล มีการออกประกาศห้ามออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. มีผลบังคับใช้ในวันนี้ นายนรินทร์  กล่าวว่า สำหรับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในส่วนของชุมชนมีความตื่นตัวกันมากในเรื่องนี้ คนในชุมชนสวมหน้ากากอนามัยกัน เกือบทั้งหมด ออกจากบ้านน้อยมาก เดินทางเท่าที่จำเป็น ก่อนหน้านี้พบปัญหาการรวมกลุ่ม ตั้งวงกินดื่มกันอยู่พอสมควร แต่ปัจจุบันพบว่า ลดลงไปมาก สถานการณ์ตอนนี้คนที่ตั้งวงกินดื่มจะถูกมอง และถูกร้องเรียนอย่างรวดเร็ว กลไกระดับชุมชน วิธีการแทรกแซงทางสังคมยังได้ผลดี แต่ถ้าเกิดมีวงดื้อขึ้นมาจริงๆ ตำรวจในพื้นที่ก็พร้อมจะเข้ามาทำการที่เรียกว่า “ตีวงสุรา” อย่างไรก็ตามช่วงเวลาในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้ตอนกลางคืน ในพื้นที่ กทม. ก็ยังเป็นสิ่งที่น่าจะทบทวน  

...

นายนรินทร์ กล่าวว่า สิ่งที่ชุมชนให้ความสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คือ ตลาดสด–ตลาดนัด ซึ่งถือเป็นแหล่งอาหารการกินที่สำคัญอย่างยิ่งของชาวบ้าน แต่ทางเครือข่าย ยังพบว่า หลายแห่งยังขาดการส่งเสริมเรื่องความปลอดภัย สุขอนามัย และแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้องต่อสถานการณ์โควิด-19 แม้มีความตื่นตัวในเรื่องนี้กันมาก แต่ก็ยังมีช่องว่างที่น่าเป็นห่วง เช่น มีบางคนยังไม่ใส่แมสก์ บางตลาดไม่มีที่ล้างมือ ขาดการประชาสัมพันธ์ ไม่มีการรักษาระยะห่าง เป็นต้น เพื่อรับมือกับวิกฤติเชื้อไวรัสในครั้งนี้  

ทั้งนี้ เครือข่ายเฝ้าระวังแอลกอฮอล์กรุงเทพ มีความห่วงใยต่อสถานการณ์นี้ จึงขอแสดงจุดยืนและมีข้อเสนอต่อกรุงเทพมหานคร ดังต่อไปนี้ 1. ขอให้กรุงเทพมหานคร พิจารณามาตรการควบคุมเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้ขายได้เฉพาะเวลา 11.00-14.00 น. เท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยง และลดภาระของพนักงานเจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล ที่ต้องมาดูแลรักษาคนเมาที่สร้างปัญหา 

2. ขอให้กรุงเทพมหานคร มีมาตรการต่อตลาดสด ตลาดนัด ให้ดำเนินการ ดังนี้ 2.1 กำหนดให้ผู้ขายและผู้ซื้อ สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกคน 2.2 กำหนดระยะห่างระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อ ให้มากกว่า 1-2 เมตร และกำหนดทางเข้า-ออก ภายในพื้นที่ตลาดให้ชัดเจนเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุม ดูแล 2.3 จัดให้มีจุดล้างมือน้ำ สบู่ แบบไม่สัมผัส หรือจุดติดตั้งเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ไว้บริการล้างมือก่อนและหลังเข้าตลาด 2.4 ทำความสะอาดร้านค้า และอุปกรณ์ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกวันและการทำบิ๊กคลีนนิ่งตลาดทุกสัปดาห์ 2.5 ควรมีสื่อประชาสัมพันธ์ เสียงตามสาย ป้ายรณรงค์ บอร์ดข้อมูลการปฏิบัติตัวเพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19

3. ขอเรียกร้องให้ชุมชนในกรุงเทพมหานคร เร่งออกแบบชุมชนเพื่อสนับสนุนมาตรการภาครัฐที่จะทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด-19 การมีส่วนร่วมเฝ้าระวัง ผู้ที่มีอาการป่วยหรือมีความเสี่ยง รวมถึงผู้ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น การตั้งวงดื่มเหล้า เล่นการพนัน การให้ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ถูกต้อง และ 4. เนื่องจากผู้ที่ติดเชื้อ COVID-19 ที่สูบบุหรี่ มีความเสี่ยงเสียชีวิตมากกว่าผู้ไม่สูบถึง 14 เท่า และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำลายระบบภูมิคุ้มกัน เพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อในปอดถึง 2.9 เท่า จึงขอเชิญชวนผู้ที่ยังสูบบุหรี่และดื่มสุรา ได้ใช้โอกาสนี้ในการลด ละ เลิก หันมาออกกำลังกาย และทานอาหารที่มีประโยชน์ มีคุณสมบัติต้านโควิด-19