แห่ตุนอาหาร-ไข่ราคาพุ่งพรวด

แน่นห้าง-ผวาคําสั่งฉุกเฉินโวยซื้อหน้ากากแต่ได้บะหมี่

ชาวบ้านแห่กักตุนอาหารแน่นห้างฯ ผวารัฐบาลเตรียมประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน “ก.คลัง” ยกเว้นภาษีศุลกากรนำเข้าหน้ากากอนามัยและวัตถุดิบผลิตหน้ากาก 3 เดือน ชาวบ้านโวยสั่งซื้อหน้ากากได้บะหมี่ ล่อซื้อหน้ากากอนามัยราคาแพงหลายจังหวัด ไข่ไก่ราคาพุ่งแผงละ 10 บาทแถมมีแนวโน้มขาดตลาด บก.ปอท.จับโพสต์กุเรื่องกล่าวหาสุวรรณภูมิไม่ตรวจโควิด ส่งฟ้องศาลให้ประกัน 1 แสน “อัจฉริยะ” แจ้งความเอาผิด “เสี่ยบอย” พร้อมพวกกักตุนหน้ากาก พร้อมส่งข้อมูลลับให้ “บิ๊กปั๊ด” ตรวจสอบ ผู้ว่าฯ กทม.ระบุหลังออกประกาศปิดสถานที่เสี่ยงในกรุงเทพฯ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือ ฝ่าฝืนหรือไม่เข้าใจบ้างแค่ 1-3% ประธานศาลฎีกาออกระเบียบให้ศาลชั้นต้นเลื่อนคดี มี.ค.-พ.ค.ได้ ด้าน “เลขาฯศาลยุติธรรม” แจ้งทุกหน่วยงานใช้เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกคู่ความ ย้ำแอปใหม่ “COJ APP” ช่วยลดการมาศาล อัยการสูงสุดกำหนดมาตรการ Work from Home หนุ่มแสบทำโสโครกในลิฟต์บีทีเอสโดนกักขัง 15 วัน รีบประกันตัวอุทธรณ์ให้ศาลลงโทษสถานเบา ก.แรงงานป้อนงาน 20,000 อัตราให้ผู้ได้รับผลกระทบ

กรณีผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยยังสร้างผลกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนประชาชนทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่พบผู้ติดเชื้อจากสนามมวย สถานบริการ และที่ชุมชนต่างๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กรุงเทพ-มหานครต้องออกมาตรการปิดที่ชุมนุมชน ทั้งห้างสรรพสินค้า สนามกีฬา ตลาด รวมไปถึงร้านอาหารตามตรอกซอกซอย ห้ามนั่งกินที่ร้าน อนุญาตให้ซื้อกลับไปกินที่บ้านเท่านั้น นอกจากนั้น ยังเตือนคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ กทม.ที่กักตัวอยู่ในบ้าน ต่อมารัฐบาลประกาศให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคร้ายเองได้เลย ส่วนความช่วยเหลือด้านชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก ภาครัฐยังมีมาตรการช่วยเหลือออกมาอย่างต่อเนื่อง

เอกชนมอบอุปกรณ์ลดความเสี่ยง

ความคืบหน้าจากศาลาว่าการ กทม. เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 มี.ค. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. รับมอบอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (PPE) จากสมาคมนักธุรกิจยุคใหม่ไทย-จีน และภาคเอกชน ที่นำมามอบให้ใช้ปฏิบัติงาน ลดความเสี่ยงจากการสัมผัสเชื้อโรค 3,200 ชุด ประกอบด้วยชุดป้องกันการติดเชื้อ 1,000 ชุด ชุดกันเปื้อนสำหรับทำความสะอาด 2,200 ชุด แว่นตา 2,200 อัน ถุงมือยาง 12,000 คู่ และรองเท้าบูต 2,200 คู่ กทม.จะนำไปมอบให้บุคลากร และพนักงานรักษาความสะอาดของ กทม.ได้แก่ พนักงานเก็บขยะมูลฝอย 1,000 ชุด และพนักงานทำความสะอาด 2,200 ชุด เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อโรค พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า กทม.ห่วงใยบุคลากรด้านการรักษาความสะอาด เพราะเสี่ยงการสัมผัสกับเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่อาจติดมากับขยะมูลฝอย มอบชุดอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (PPE) แก่สำนักสิ่งแวดล้อมและฝ่ายรักษาความสะอาดฯ ทั้ง 50 เขต ขอประชาสัมพันธ์ไปยังหน่วยงานภาคเอกชนและประชาชนที่ประสงค์จะมอบชุดป้องกันภัยส่วนบุคคลหรืออุปกรณ์ป้องกันต่างๆ กทม.ยินดีรับและส่งต่อให้ผู้ปฏิบัติงาน

กทม.ไม่มีอำนาจสั่งปิดออฟฟิศ

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่อไปว่า ภายหลังออกประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่องสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มอบหมายให้แต่ละเขตส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ทำความเข้าใจผู้ประกอบการและประชาชน รวมถึงตรวจสอบและดูแลความเรียบร้อย ส่วนใหญ่ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี มีเพียงเล็กน้อยที่อาจยังไม่เข้าใจและฝ่าฝืนบ้างร้อยละ 1-3 กทม.พยายามทำความเข้าใจและตักเตือนก่อน ในภาวะบ้านเมืองเป็นเช่นนี้ตามกฎหมายมีความผิดและมีบทลงโทษ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สังคมต้องช่วยกัน หากไม่ทำเหมือนต่อต้านสังคมและอาจทำให้คนอื่นเดือดร้อน ส่วนจะพิจารณาสั่งปิด สถานที่เพิ่มเติมหรือไม่ พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า ส่วนใหญ่ตอนนี้ปิดหมดแล้ว ขณะที่การประเมินการสั่งปิดออฟฟิศเอกชน กทม.ไม่มีอำนาจ ให้คำแนะนำว่าส่วนไหนให้พนักงานทำงานที่บ้านได้ก็ควรทำ หรือให้พนักงานเหลื่อมเวลา ส่วนประกาศกรุงเทพมหานคร ขอความร่วมมืองดเดินทางออกนอกกรุงเทพฯ เป็นเพียงการขอความร่วมมือ ประสานกระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบก จัดเจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลทุกสถานีขนส่ง เพื่อเก็บข้อมูลปลายทางก่อนส่งให้กับกระทรวงมหาดไทยจัดทำฐานข้อมูลต่อไป

จับโพสต์ข่าวปลอมป่วนสุวรรณภูมิ

ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ออกแถลงการณ์หรือข่าวในกลุ่มแอปพลิเคชันไลน์ “แจ้งข่าว บก.ปอท.” ระบุว่า เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ว่าที่ พ.ต.อ.พิเชษฐ์ คำภีรานนท์ ผกก.3 บก.ปอท. พร้อมกำลังตำรวจ กก.5 บก.ป. ปฏิบัติการปราบปรามข่าวปลอมโควิด-19 จับกุมชายไทยผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “Zen Wide” ตามหมายจับศาลอาญาที่ 400/2563 ลงวันที่ 23 มี.ค.63 ที่บ้านพักใน จ.ภูเก็ต พฤติการณ์คือ เมื่อวันที่ 18 มี.ค.63 บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “ARTZEN” ที่ผู้ต้องหาเป็นผู้ใช้โพสต์ข้อความอันมีเนื้อหากล่าวถึงมาตรการตรวจคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าของท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ อีกทั้งนำภาพถ่ายจากเว็บไซต์สำนักข่าวแห่งหนึ่งซึ่งเป็นภาพเก่าตั้งแต่ปี 2562 จากการ ตรวจสอบพบว่าข้อมูลที่ผู้ต้องหาโพสต์ไม่เป็นความจริง จากการโพสต์ข้อมูลดังกล่าว ทำให้ประชาชน ตื่นตระหนก เสียความเชื่อมั่นต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นเหตุให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้รับความเสียหาย จึงออกหมายจับดำเนินคดีดังกล่าว

ฝากขังศาลให้ประกัน 1 แสน

ที่ศาลอาญา ตำรวจ บก.ปอท.นำตัวนายดนัย อุศมา อายุ 42 ปี ชาว จ.ภูเก็ต ศิลปินกราฟฟิตี้ผู้ต้องหาคดีโพสต์ข้อความอันเป็นความเท็จมายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรก พนักงานสอบสวนบรรยายคำร้องว่า ผู้ต้องหาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ ART ZEN ว่า เมื่อวันที่ 18 มี.ค.63 เดินทางกลับจากประเทศสเปนเข้าไทยโดยไม่มีการตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่มีโอกาสติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สนามบินสุวรรณภูมิ ล้วนเป็นข้อความอันเป็นเท็จ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอท.ขอหมายจับศาลอาญาที่ 400/2563 ลงวันที่ 23 มี.ค.63 ตามจับกุมตัวที่บ้านพักใน จ.ภูเก็ต ส่งพนักงานสอบสวน ปอท.แจ้งข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการน่าจะก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวเกรงว่า ผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาไม่คัดค้าน อนุญาตให้ฝากขัง ต่อมาญาติยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 1 แสนบาทขอประกันตัว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาต

“อัจฉริยะ” แจ้งความ “เสี่ยบอย”

ที่ บก.ปอท. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าพบ พ.ต.ท.กฤช เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. แจ้งความเอาผิดบุคคลพร้อมพวก หลังให้การนาน 2 ชม. นายอัจฉริยะเผยว่า วันนี้ตนนำหลักฐานการโพสต์ข้อความลงโซเชียลมีเดียของนายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือเสี่ยบอย เกี่ยวกับการขายหน้ากากอนามัยมาแจ้งความ บก.ปอท. ดำเนินคดีกับขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัย ทำให้สินค้าขาดตลาด ความผิดฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เชื่อว่ามีกลุ่มขบวนการที่เกี่ยวเนื่องกับนายบอย เนื่องจากพบหลักฐานว่า กลุ่มผู้ต้องสงสัยติดต่อซื้อขายหน้ากากอนามัยจากโรงงานที่ผลิตส่งขายให้กับรัฐบาล มีหลักฐานการซื้อขายและจ่ายส่วนแบ่งค่านายหน้า 4 แสนบาทให้นายบอย

รับไปสนามมวยแต่ไม่ติดโควิด

“ส่วนการดำเนินคดีเอาผิดผู้ต้องสงสัยรายอื่น ทราบว่า บช.ก.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแยกไปเป็นกลุ่มที่สาม ข้อมูลที่ตนจะนำไปให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. เป็นเอกสาร 136แผ่น เกี่ยวข้องกับรายชื่อบริษัทเอกชน โรงงานผลิตหน้ากากอนามัยกว่า 242 แห่ง เพื่อขอให้ตรวจสอบว่า เกี่ยวข้องกับขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัยหรือไม่ ทั้งนี้ทราบว่า มีการเข้าตรวจค้นโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยต้องสงสัยทางภาคเหนือว่า เกี่ยวข้องกับขบวนการนี้อย่างไรบ้าง” อัจฉริยะกล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ระบุว่านายอัจฉริยะไปชมมวยเวทีลุมพินีด้วย นายอัจฉริยะกล่าวว่า “เอาอย่างนี้ดีกว่า ผมไม่ได้เป็นโควิด-19 ถ้าเป็น เป็นนานแล้ว เพราะผ่านการตรวจจากแพทย์มาแล้ว ยอมรับไปสนามมวยครั้งเดียว ไปก่อนมีข่าวโควิด-19 ไปล่าสุดประมาณเดือนกว่า ถ้าผมเป็นผมเป็นแล้ว พูดตรงๆเพราะเราผ่านการตรวจทุกที่มาแล้ว”

มอบรายชื่อโรงงานหน้ากากให้ “บิ๊กปั๊ด”

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำบัญชีโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย และบริษัทนำเข้าหน้ากากอนามัยและวัตถุดิบทั่วประเทศ 169 แผ่น กว่า 1,000 บริษัท มอบให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. เพื่อสืบสวนจับกุมบริษัทที่ฝ่าฝืนลักลอบส่งออก นายอัจฉริยะกล่าวว่า ช่วงเช้าตำรวจ บช.ภ.5 ตรวจค้นโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ที่ไม่อยู่ในรายชื่อ 11 บริษัทที่กรมการค้าภายในควบคุม ตรวจยึดหน้ากากอนามัย 45,000ชิ้น กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่จับผู้ค้า สอบสวนซัดทอดว่า โรงงานดังกล่าวเป็นผู้ผลิต บริษัทเหล่านี้ผลิตหน้ากากจำหน่ายตลาดมืด จากเดิมขายให้ธงฟ้าในภาคเหนือ แต่พบว่าจำหน่ายทางออนไลน์กล่องละ 800 บาท ส่วน 11 บริษัทที่กรมการค้าภายในกำกับพบว่า มี 1 บริษัทลักลอบจำหน่ายตลาดออนไลน์จำนวนมาก แจ้งยอดการผลิตไม่ตรงความจริงเช่น แจ้งยอดผลิตได้ 200,000 ชิ้นต่อวัน แต่ความจริงผลิตได้ 500,000 ชิ้น ส่วนต่าง 300,000 ชิ้น ลักลอบนำไปจำหน่ายให้แก๊งนายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือเสี่ยบอย รวมทั้งกลุ่มข้าราชการกรมการค้าภายใน 3-4 ราย ขบวนการนี้มีกลุ่มการเมืองและกลุ่มทหารเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

อัดกลุ่มการเมืองใน ก.พาณิชย์

นายอัจฉริยะกล่าวด้วยว่า ส่วนกลุ่มนักการเมืองเป็นกลุ่มที่เคยพูดมาก่อน อยู่ในกระทรวงพาณิชย์ หลักฐานเริ่มปรากฏขึ้นเรื่อยๆ โรงงานที่จับได้เป็นหนึ่งใน 11 บริษัทที่เอามาขาย โดยเฉพาะวันที่ 29 ม.ค. เอามาขายให้กับนายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคภราดรภาพ จำนวน 1 ล้านชิ้น นายพันธ์ยศได้ส่วนแบ่ง 4 แสนบาท ระหว่างเดือน ก.พ.ยังขายอีกหลายล้านชิ้น 1 ในบริษัทนี้อยู่ในสังกัดของกรมการค้าภายใน และ 11 บริษัทที่กล่าวอ้างมายังไม่รวมอีก 242 บริษัทที่ทำเรื่องขอมายังกรมการค้าภายใน เพื่อประสงค์ส่งออกหน้ากากอนามัย ดังนั้นทำไมอีก 200 กว่าบริษัทไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยงานที่ขอไป

แห่ซื้อของตุนรับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

ทันทีที่รัฐบาลเตรียมประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน วันที่ 26 มี.ค. เพื่อควบคุมกิจกรรมต่างๆทั่วประเทศ สกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กำลังลุกลามไปทั่ว ส่งผลให้มีประชาชนจำนวนมากเกิดความตื่นตระหนกพากันออกมาซื้อข้าวสาร อาหารแห้ง กระดาษชำระ และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่แม็คโคร สาขาบาง– ขุนนนท์จำนวนมาก ขณะที่บริเวณหน้าพระบรมมหาราชวัง บรรยากาศแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเพราะเงียบสงัด ไม่ค่อยมีรถราผ่าน เนื่องจากมีการปิดการเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว มาตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา

กักขัง 15 วันหนุ่มทำบีทีเอสโสโครก

ที่ศาลแขวงปทุมวัน พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลแขวง 6 ยื่นฟ้องด้วยวาจานายเอกชัย คันทะมาลา อายุ 32 ปี จำเลยคดีใช้นิ้วแตะน้ำลายป้ายลิฟต์โดยสารสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สนามกีฬาแห่งชาติ (ศุภชลาศัย) ฐานกระทำด้วยประการใดๆให้ของโสโครกเปรอะเปื้อนทรัพย์ฯ หรือแกล้งทำให้ของโสโครกเป็นที่เดือดร้อนรำคาญ อัยการยื่นฟ้อง ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค.63 เวลากลางคืน จำเลยเข้าไปในลิฟต์โดยสารสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สนามกีฬาแห่งชาติ ใช้นิ้วมือแตะน้ำลายของตัวเองป้ายไปยังปุ่มกดต่างๆและราวจับในลิฟต์หลายครั้ง นอกจากนี้ จำเลยยังใช้มือล้วงเข้าไปในกางเกงจับอวัยวะเพศแล้วนำนิ้วมือที่เลอะน้ำคัดหลั่งไปป้ายปุ่มกดต่างๆอีก เป็นการทำให้เกิดความสกปรกโสโครก เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เหตุเกิดที่แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลพิเคราะห์แล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้จำคุกจำเลยเป็นเวลา 1 เดือน จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 15 วัน ให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทนที่สถานกักขังกลางปทุมธานี ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ ศาลพิจารณาแล้วให้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 5,000 บาท

ให้ศาลชั้นต้นเลื่อนคดี มี.ค.–พ.ค.

ที่สำนักงานศาลยุติธรรม นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เผยว่า หลังประชุมคณะ กรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) มีมติเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาเลื่อนวันนัดพิจารณาที่กำหนดระหว่างวันที่ 24 มี.ค.-31 พ.ค. กำหนดนัดใหม่ที่เหมาะสม ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 วันนี้นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา ลงนามประกาศคณะกรรมการ บริหารศาลยุติธรรมเรื่องการบริหารจัดการคดีภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่จะนำมาใช้เป็นแนวปฏิบัติของศาลชั้นต้นทั่วประเทศ ส่วนของสำนักงานศาลยุติธรรม นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ออกหนังสือเวียนถึงหัวหน้าหน่วยงานในสังกัด ลงวันที่ 23 มี.ค.63 เรื่องซักซ้อมการนำนวัตกรรมมาใช้ปฏิบัติงาน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยว่า ขณะนี้มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคปัจจุบันอยู่ระยะที่ 2 ทุกภาคส่วนล้วนต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินสถานการณ์และกำหนดมาตรการที่เหมาะสม

ใช้นวัตกรรมลดการติดต่อโดยตรง

นายสุริยัณห์กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า สำนักงานศาลยุติธรรมพิจารณาแล้วเห็นว่า ในสภาวการณ์เช่นนี้ ขอซักซ้อมและทำความเข้าใจให้หน่วยงานในสังกัด นำนวัตกรรมที่สำนักงานศาลยุติธรรมเคยกำหนดมาใช้ในการปฏิบัติงานอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดอีกทางหนึ่ง เนื่องจากนวัตกรรมต่างๆล้วนมีส่วนที่ทำให้ประชาชนหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไม่จำเป็นต้องเดินทางมาศาล ลดโอกาสการสัมผัสใกล้ชิดระหว่างกัน สำหรับการใช้เทคโนโลยีและระบบอิเล็กทรอนิกส์มาช่วยอำนวยความสะดวกบริการข้อมูลคดีให้คู่ความ-ทนายความ-ประชาชนที่ติดต่อราชการคดีของศาล สามารถดาวน์โหลด Application ตัวใหม่ ชื่อ “COJ APP” สำนักงานศาลยุติธรรม เริ่มเผยแพร่เมื่อวันที่ 19 มี.ค. สามารถดาวน์โหลด App ดังกล่าวได้ฟรีทั้งระบบ iOS (iOS : shorturl.at/cdvxA หรือเปิด App Store ค้นชื่อ “cojapp”) และระบบ Android (Android : shorturl.at/cyEM0 หรือเปิด Play Store ค้นชื่อ “cojapp”) บริการข้อมูลคดีผ่าน App นี้ ช่วยลดการเดินทางมาศาลในสถานการณ์เช่นนี้ หลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของโรคได้อีกทางหนึ่งด้วย

อัยการสูงสุดให้ทำงานที่บ้าน

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยว่า เมื่อวันที่ 23 มี.ค. นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด ออกหนังสือคำสั่งถึงรองอัยการสูงสุด ผู้ตรวจการอัยการ อธิบดีอัยการ อธิบดีอัยการภาค อัยการพิเศษฝ่าย และอัยการจังหวัดทั่วประเทศ เกี่ยวกับมาตรการปฏิบัติงานตามแผนการเหลื่อมเวลาการทำงานและแผนการปฏิบัติงานจากบ้าน (Work from Home) นอกจากนี้นายวงศ์สกุลลงนามคำสั่งตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มอบหมายให้นายสาวิตร บุญประสิทธิ์ รองอัยการสูงสุด เป็นประธาน ศูนย์ ศบ.สค.อส.ศูนย์มีอำนาจกำหนดนโยบายการบริหารสถานการณ์การ แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีนโยบายของรัฐบาล ประกาศของกรุงเทพมหานคร ประสานงานกับอัยการจังหวัดทั่วประเทศเพื่อรวบรวมข้อมูลแพร่ระบาดและผลกระทบต่อบุคลากรรวมถึงการเฝ้าติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาด

ก.แรงงาน ป้อนงาน 20,000 อัตรา

วันเดียวกัน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน กล่าวว่า ในยามวิกฤติไวรัสโควิด-19 ประชาชนต้องทำงานที่บ้านเพื่อลดการแพร่ระบาดบางคนออกจากงาน กระทรวงแรงงานเพิ่มโอกาสการทำงานให้ลูกจ้างที่ว่างงาน ศูนย์บริการจัดหางานพาร์ตไทม์กระทรวงแรงงาน มีตำแหน่งงานกว่า 28,363 อัตรา เป็นงานจัดส่งสินค้าดีลิเวอรีมากที่สุด 20,500 อัตรา พนักงานคลังสินค้า 2,000 อัตรา พนักงานบริการ 374 อัตรา พนักงานฝ่ายผลิต 100 อัตรา ยังมีพนักงานเสิร์ฟ พนักงานครัว พนักงานขาย แคชเชียร์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายขาย งานธุรการ และอื่นๆ เพื่อความปลอดภัยผู้สมัครงานและสถานประกอบการสามารถใช้บริการจัดหางานผ่านเว็บไซต์ http://smartjob.doe.go.th และ Part-time หลังจากผู้สมัครเลือกตำแหน่งงานว่างแล้ว ระบบจะจับคู่คุณสมบัติตามความต้องการของสถานประกอบการทำให้ทั้งผู้สมัครงานและสถานประกอบการสามารถพิจารณาจ้างงานได้โดยตรง

ยกเว้นภาษีนำเข้าหน้ากาก–วัตถุดิบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการคลัง โดยกรมศุลกากร พิจารณามาตรการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องการลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) พิกัดอัตราศุลกากร 2530 (ฉบับที่ 3) เพื่อยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับหน้ากากชนิดที่ใช้ในห้องผ่าตัด และหน้ากากอนามัยเฉพาะหน้ากากกรองฝุ่น หมอกควัน หรือสารพิษ ที่เป็นอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยตามประเภทย่อย นอกจากนี้ ยังยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับของใดๆที่นำเข้ามาเพื่อผลิตหน้ากากอนามัยตามประเภทพิกัดดังกล่าว มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.สิ้นสุดวันที่ 20 ก.ย.2563 มาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้ต้นทุนนำเข้าหรือผลิตสินค้าหน้ากากอนามัยลดลง ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ที่มีความจำเป็นต้องใช้หน้ากากอนามัยในการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงประชาชนสามารถเข้าถึงสินค้าดังกล่าวได้อย่างทั่วถึง

สั่งซื้อหน้ากากแต่ได้บะหมี่

ที่ จ.ตาก นายกฤษณะ สารสุวรรณ อายุ 21 ปี อยู่เลขที่ 459 หมู่ 2 บ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก เผยว่า สั่งซื้อหน้ากากอนามัย 10 กล่องราคากล่องละ 550 บาท รวมมูลค่า 5,500 บาท โอนเงินแล้ว จากกลุ่มซื้อขายสินค้าออนไลน์เพื่อนำมาใช้และแจกจ่ายสมาชิกในครอบครัว รวมทั้งจะนำไปถวายพระและแจกจ่ายเพื่อนบ้าน แต่พอรับพัสดุที่สั่งซื้อเปิดดูถึงกับตกใจ เพราะข้างในเป็นบะหมี่สำเร็จรูปจำนวนมาก ไม่ใช่หน้ากากอนามัย สอบถามไปยังผู้ขายปรากฏว่าถูกบล็อกช่องทางติดต่อ เข้าแจ้งความที่ สภ.แม่สอด เพื่อดำเนินคดี

ล่อซื้อหน้ากากอนามัยราคาแพง

ส่วน จ.เชียงใหม่ ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 ร่วมกับเจ้าหน้าที่พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ จับกุมนายทวิชย์ วงษ์ประเสริฐ อายุ 47 ปี พร้อมหน้ากากอนามัย 40,000 ชิ้น เงินล่อซื้อ 285,000 บาท ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาขายหน้ากากอนามัยราคาแพงได้ 2 คน ซัดทอดว่าซื้อจาก หจก.ทีที เมด เลขที่ 47/11-12 ถนนโชตนา ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ของนายทวิชย์ วางแผนล่อซื้อ 20,000 ชิ้นราคา 285,000 บาท ด้าน จ.เลย พ.อ.สมหมาย บุษบา รอง ผบ.มทบ.28/รอง ผอ.รมน.จ.เลย นางเบญจวรรณ ตัญญู พาณิชย์จังหวัดเลย พร้อมฝ่ายปกครอง และตำรวจ สภ.เมืองเลย ร่วมกันจับกุม น.ส.วิไลพร เพียจำปา อายุ 42 ปี ผู้ดูแลร้านขายยาไชยเวชภัณฑ์ เลขที่ 8/85 ต.กุดป่อง อ.เมืองเลย หลังล่อซื้อหน้ากากอนามัยราคาแพงเกินกฎหมายกำหนดของกลางหน้ากากอนามัย 1 แพ็ก 10 ชิ้นกับธนบัตรล่อซื้อ 200 บาท

ไข่ไก่ปรับราคาแผงละ 10 บาท

นอกจากปัญหาแมสก์ราคาแพงและหายากแล้ว ช่วงไวรัสมรณะระบาด ปรากฏว่าไข่ไก่ราคา ปรับสูงขึ้น จากการสอบถามผู้ค้าตลาดบางลำภู เขตเทศบาลนครขอนแก่นพบว่า ปรับราคาขายขึ้น เนื่องจากไข่เริ่มขาดตลาด ทำให้ประชาชนซื้อไว้กักตุน เพราะหน่วยงานภาครัฐขอความร่วมมือให้ประชาชนอยู่บ้านเพื่อลดการแพร่เชื้อ นายวัลลภ ลี้ฮะจือ อายุ 53 ปี พ่อค้าขายไข่ไก่ที่ตลาดบางลำภูกล่าวว่า ราคาไข่ไก่วันนี้ปรับขึ้นแผงละ 10 บาท ไข่เบอร์ 0 เดิมราคา 110 บาท ปรับเป็น 115 บาท ไข่ไก่เบอร์ 1 เดิมราคา 90 บาท ปรับเป็น 105 บาท ไข่ไก่เบอร์ 2 เดิม 85 บาท ปรับเป็น 93 บาท และไข่ไก่เบอร์ 3 เดิม 80 บาท ปรับเป็นแผงละ 90 บาท

ปากน้ำโพทั้งแพงและหายาก

ขณะที่ตลาดสดเทศบาลนครนครสวรรค์ พ่อค้าแม่ค้าขายไข่ไก่และไข่เป็ดรายย่อย ต่างได้รับผลกระทบจากราคาที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องและขาดตลาด น.ส.กาญจนา อินทร์แป้น แม่ค้าไข่ไก่รายย่อยในตลาดสดเทศบาลนครนครสวรรค์ เผยว่า ช่วงนี้ไข่ไก่เริ่มขาดตลาด และมีแนวโน้มขยับราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง ตนไปรอซื้อไข่ไก่หน้าฟาร์มเพื่อนำมาวางขายที่ร้านแต่ไม่ได้ บางวันได้แต่ฟองเล็ก ทั้งนี้ไข่ไก่ถ้าซื้อมาขายทุกวันราคาจะขยับขึ้นฟองละ 0.50 บาท เฉลี่ย แผงละ 5-6 บาท ยอมรับว่าต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น หากสถานการณ์เป็นแบบนี้อาจทำให้ไม่มีไข่ขาย