เริ่มแล้ว ปฏิบัติการทหาร ไล่ "โควิด-19" ตามนโยบายกองทัพ "บิ๊กคลีนนิ่ง" 50 เขตทั่วกรุง เน้นที่เสี่ยงแพร่ระบาด ผู้คนพลุกพล่าน ป้องกันเชื้อมรณะ 

เมื่อเวลา 01.30 น.วันที่ 19 มี.ค.63 พล.ต.เกษมศิริ มีความดี เจ้ากรมวิทยาศาสตร์ทหารบก นำเจ้าหน้าที่ทหาร 77 นาย รถ 14 คัน ออกฉีดพ่นน้ำผสมสารฆ่าเชื้อโรค ตั้งแต่บริเวณ 5 แยกลาดพร้าว ถนนพหลโยธิน สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิต สวนจตุจักร ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ตามที่ได้รับข้อมูลจากสำนักงานเขตจตุจักรว่า เป็นพื้นที่ที่มีประชาชนไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก มีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของไวรัส "โควิด-19" 

โดย พล.ต.เกษมศิริ กล่าวว่า การฉีดพ่นดังกล่าวเป็นหนึ่งในมาตรการป้องกัน เพื่อฆ่าเชื้อที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 โดยการฉีดพ่นดังกล่าว จะแบ่งเป็นชุดฉีดน้ำผสมน้ำยาฆ่าเชื้อโรคและชุดทำความสะอาด โดยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่นำไปฉีดพ่นนั้น เป็นน้ำยาแบบเดียวกับที่ใช้ในประเทศสิงคโปร์ โดยการดำเนินการจะฉีดพ่นไว้อย่างน้อย 10 นาที เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถฆ่าเชื้อโรคแล้ว และน้ำยาฆ่าเชื้อโรคดังกล่าว มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับสุขภาพของประชาชน ส่วนแผนการฉีดพ่นฯ จะเร่งดำเนินการให้ครบทุกจุดในพื้นที่รับผิดชอบก่อน จากนั้นจึงจะพิจารณาฉีดซ้ำในพื้นที่ที่มีประชาชนไปใช้บริการจำนวนมาก โดยวันพรุ่งนี้เน้นไปที่บริเวณกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์, อู่รถโดยสาร ขสมก. ย่านบางเขน และวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน

...

ต่อมาเวลา 02.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารจากกองทัพภาคที่ 1 ได้ส่งรถน้ำและสารฆ่าเชื้อ เพื่อทำความสะอาดบนทางเท้าและถนน ตามมาตรการควบคุมเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเริ่มทำตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 มี.ค.ตั้งแต่เวลา 01.00-05.00 น. โดยบริเวณแยกปทุมวัน หน้าลานหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ภงษ์เภตรา ผบช.น.ได้เดินทางมาตรวจความเรียบร้อยที่จุดนี้ และพาสื่อมวลชนเดินตรวจถึงแยกราชประสงค์ไปกลับผ่านถนนพระราม 1 ใช้ระยะทางรวม 2 กิโลเมตร โดย สน.ปทุมวันได้ทำการปิดการจราจร เพื่อให้รถบรรทุกน้ำฉีดสารเคมีฉีดน้ำนำ และมีเจ้าหน้าที่ทหารใส่ชุดป้องกันฉีดสารเคมีแบกสารเคมีฉีดลอยขึ้นไปในอากาศ และมีทหาร ตำรวจ เทศกิจในชุดจิตอาสาพระราชทานทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบร่วมกับทหารด้วย

โดย พล.ต.สุวิทย์ เกตุศรี รองแม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ป้องกันพื้นที่ทำความสะอาดในสถานที่ต่างๆ แล้ว จากนี้ก็มาเน้นทำความสะอาดที่สาธารณะ โดยเน้นจุดที่คนจับสัมผัส เช่น ราวบันไดเลื่อน ป้ายรถเมล์ สำหรับสารเคมีที่ใช้นั้น สามารถทำลายเชื้อโรคได้ โดยที่ไม่ทำอันตรายอะไรแก่ประชาชน อาจมีระคายเคืองบ้าง สำหรับปฏิบัติการนี้ใช้กำลังทั้งหมด 115 นาย จากหน่วยต่างๆ ทำงานร่วมกัน วันต่อไปก็จะวนไปจุดต่างๆ เน้นแหล่งท่องเที่ยวหรือชุมชน

ทั้งนี้ทางกองทัพบกได้ใช้สารฆ่าเชื้อที่ BKC (benzalkonium chloride) หรือ Sanisol เป็นเป็นสารทำความสะอาดที่ใช้ฆ่าเชื้อต่างๆ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส ได้เป็นอย่างดี และเป็นหนึ่งในสารทำความสะอาดที่ทางสิงคโปร์แนะนำว่า ให้ใช้ได้ในการกำจัดโคโรนาไวรัส โดยใช้ความเข้มข้น 0.05% ซึ่งเป็นระดับความเข้มข้นน้อยสุดที่กำจัดไวรัสได้ และยังคงปลอดภัยต่อการใช้งาน การระเหยออกจากพื้นที่ ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที