สถานการณ์โรคระบาด “โควิด-19” เลวร้ายเกินที่ใครหลายคนจะคาดคิด ประชาชนล้มตาย เศรษฐกิจดิ่งเหว ผู้คนตกงาน ผู้ประกอบการเจ๊ง หน้ากากขาดแคลน พวกหัวหมอฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า ทุกภาคส่วนล้วนได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า และดูท่าว่า “โควิด-19” จะไม่เลิกแผลงฤทธิ์ง่ายๆ
ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ พาก้าวเร็วๆ ไปดูอนาคต ประเทศไทยจะเกิดอะไรในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เศรษฐกิจจะดีขึ้นหรือไม่ โรคร้ายจะสลายไปแล้วหรือยัง ไปดูคำตอบ...
โควิด-19 ในไทย จะคลี่คลายเมื่อไหร่?
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค เปิดเผยกับทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ว่า สำหรับสถานการณ์ทั่วโลกของโรคโควิด-19 ในประเทศจีนมีแนวโน้มดีขึ้น มีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นไม่มากนัก ซึ่งหลายวันมานี้ ผู้ป่วยรายใหม่ของจีนมีเพิ่มเพียง 10 กว่ารายต่อวันเท่านั้น
ในขณะที่ โควิด-19 ได้แพร่ระบาดไปยังประเทศในแถบทวีปยุโรป โดยข้อมูลล่าสุด ประเทศอิตาลีมีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่และผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 2 แซงหน้าประเทศเกาหลีใต้แล้ว
...
“ไม่เฉพาะอิตาลี ยังมีฝรั่งเศส สเปน เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ สวีเดน และเบลเยียมที่ล้วนขึ้นมาติดอันดับท็อปๆ ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน เพราะฉะนั้น คนไทยควรหลีกเลี่ยงเดินทางไปยังประเทศที่มีการรายงานพบผู้ป่วยรายใหม่ต่อเนื่อง” นพ.โสภณ กล่าว
ทั้งนี้ ระยะการระบาดของโรคโควิด-19 แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังต่อไปนี้
ระยะที่ 1 - ผู้ป่วยติดเชื้อเป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ระบาดเป็นวงจำกัด
ระยะที่ 2 - เริ่มมีคนไทยในประเทศติดเชื้อ และสามารถสืบค้นได้ว่า ติดจากใครอย่างชัดเจน
ระยะที่ 3 - ระบาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ทราบว่าใครติดจากใคร หรือติดมาจากแหล่งใด
ขณะที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า "ภายหลังจากพบผู้ติดเชื้อหลายราย บางคนก็กังวลว่า ประเทศไทยเข้าสู่ระยะที่ 3 แล้วหรือไม่ ซึ่งต้องย้ำว่า การระบาดในไทยยังอยู่ในระยะ 2 เพราะยังติดตามผู้ป่วยได้ และทราบถึงที่มาที่ไปในการติดต่อ"
เศรษฐกิจ
ในทางเศรษฐกิจ วันนี้ (12 มี.ค.63) ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจไทยไว้ได้อย่างสนใจ ดังต่อไปนี้
- ผลของการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลงทุกรายการ โดยส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 251 เดือน หรือ 20 ปี 11 เดือนนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2542 เป็นต้นมา โดยลดลงจากระดับ 67.3 เป็น 64.8
- เหตุที่ปรับตัวลงนั้น อันเนื่องมาจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับโรคระบาดโควิด-19 งบประมาณที่ล่าช้า ภัยแล้ง และเสถียรภาพทางการเมืองทั้งในปัจจุบันและในอนาคตที่อาจส่งผลให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงอย่างมากในอนาคต
- ผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโอกาสในการหางานทำ และรายได้ในอนาคตมากนัก
- วิเคราะห์ชะตาประเทศไทยนับจากนี้ : ประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้เหลือขยายตัว 1.1% จากเดิม 2.8% ส่งออกขยายตัวติดลบ -1% จากเดิม 0.8%
...
- หากกรณีที่แย่ที่สุด(Worse Case) การแพร่ระบาดไวรัส โควิด-19 คลี่คลายได้ในเดือนสิงหาคม 2563 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศลดลงเหลือ 30.7 ล้านคน หรือ -22.9%, สงครามการค้าเข้มข้นมากขึ้น, เงินบาทแข็งค่าต่ำกว่าระดับ 30.50 บาท/ดอลลาร์, สถานการณ์ภัยแล้งมีความรุนแรงมากที่สุดในรอบ 20 ปี ตลอดจนการเมืองขาดเสถียรภาพเป็นอย่างมาก ก็มีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะลงไปอยู่ที่ 0.6%
- ส่วนกรณีที่ดีที่สุด(Best Case) การแพร่ระบาดของ โควิด-19 คลี่คลายได้ภายในเดือนเม.ย. 63 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศลดลงเหลือ 34.7 ล้านคน หรือ -12.8%, สงครามการค้าผ่อนคลายลง, เงินบาทอ่อนค่าขึ้นเหนือระดับ 31.50 บาท/ดอลลาร์, สถานการณ์ภัยแล้งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับที่เกิดขึ้นในปี 62, การเมืองมีเสถียรภาพอย่างมาก
...
เด็กนักเรียน
นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 โดยในช่วง 2-3 เดือนนี้ หากสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ.อาจต้องเลื่อนการเปิดภาคเรียน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ที่จะต้องเปิดในเดือนพฤษภาคมออกไปก่อน หรือ อาจจัดการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์แทน
นิสิต-นักศึกษา
ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า กระทรวง อว.ขอความร่วมมือจากสถาบันอุดมศึกษาในสังกัด ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และพิษเศรษฐกิจ โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ให้หน่วยงานและสถาบันอุดมศึกษาพิจารณาลดค่าเช่าพื้นที่แก่ผู้ประกอบการรายย่อยลง เป็นระยะเวลา 6 เดือน
2. ให้สถาบันอุดมศึกษาพิจารณาลดค่าธรรมเนียมต่างๆ ของสถาบันอุดมศึกษาที่เรียกเก็บจากนักศึกษาใน ภาคการศึกษาที่จะถึงนี้เป็นกรณีพิเศษ
3. ให้สถาบันอุดมศึกษาพิจารณาปรับลดค่าตอบแทน ค่าเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการบริหารลง เพื่อนำงบประมาณดังกล่าวไปเพิ่มการจ้างงานนักศึกษาและบุคคลทั่วไปในกิจการของสถาบันอุดมศึกษาเป็นระยะเวลา 6 เดือน
...
4. ให้สถาบันอุดมศึกษาพิจารณาการจัดการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบในช่วงภาวะวิกฤติ
5. ให้อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย และอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค รวมทั้งเขตอุตสาหกรรม ซอฟต์แวร์ประเทศไทย และเมืองนวัตกรรมอาหาร พิจารณาปรับลดค่าบริการต่างๆ ที่เรียกเก็บจาก SMEs, Start up และประชาชนทั่วไปเป็นกรณีพิเศษ
6. ให้หน่วยงานและสถาบันอุดมศึกษา พิจารณากำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่มเติมตามความเหมาะสมต่อไป
อนาคตข้างหน้า
คงไม่ผิดไปจากนี้มากนัก
ขอให้ทุกคนโชคดี...