หน้ากากทำพิษ กรมการค้าภายใน เตรียมแจ้งความเอาผิดคนให้ข่าวเท็จ หลังโฆษกกรมศุลกากร ปูดส่งออกแมสก์ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มากกว่า 330 ตัน เสียงอ่อยตั้งแต่ประกาศ 5 ก.พ. ส่งออกน้อยมาก

เมื่อวันที่ 11 มี.ค.63 นายวิชัย โภชนกิจ อธิดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงกรณีที่โฆษกกรมศุลกากรได้ออกข่าวว่า กรมการค้าภายในอนุญาตให้ส่งออกหน้ากากอนามัยไปในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.63 มากถึง 330 ตันว่า การออกข่าวของโฆษกกรมศุลกากร เป็นการเสนอข้อมูลที่ไร้ความรับผิดชอบ สร้างความเสียหายต่อกรมการค้าภายใน โดยไม่สามารถให้อภัยได้ ผู้ถูกกล่าวถึงได้รับความเสียหายโดยไม่มีมูล การชี้แจงข้อเท็จจริงของกรมการค้าภายในเพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอกับการกระทำแบบนี้ 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ว่า วันที่ 12 มี.ค.นี้ กรมการค้าภายในเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ให้ข้อมูลข่าวสารที่ผิดพลาด ทั้งผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และฟ้องหมิ่นประมาท พร้อมทั้งจะเปิดแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดด้วย

สำหรับกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะ โฆษกกรมศุลกากรได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงการส่งออกหน้ากากอนามัย โดยระบุว่า ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.63 ได้อนุญาตให้ส่งออกหน้ากากอนามัย ตามการอนุญาตของกรมการค้าภายใน 330 ตัน กรมศุลกากรไม่สามารถห้ามการส่งออกได้ ซึ่งข่าวดังกล้าวสร้างความปั่นป่วนภายในกรมการค้าภายใน และกระทรวงพาณิชย์ตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังถูกสังคมและโซเชียลมีเดียวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ถึงการดำเนินการของกรมการค้าภายใน

แต่หลังจากนั้นในช่วงค่ำวันที่ 11 มี.ค.63 กรมศุลกากรได้ออกข่าวแจกชี้แจงข้อเท็จจริงอีกครั้งว่า ตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขจากพิกัดศุลกากร ซึ่งรวมสินค้าชนิดอื่นอีกหลายชนิด นอกเหนือจากหน้ากากอนามัย เช่น ชุดผ้าหุ้มเบาะ เชือกผูกรองเท้า ผ้ากันเปื้อน ผ้าคลุม สายคล้องคอทำด้วยผ้าทอ เป็นต้น โดยที่ตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขในช่วงเดือน ม.ค.-4 ก.พ.63 ก่อนที่จะมีประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 พ.ศ.63 ลงวันที่ 4 ก.พ.63 เรื่องการควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งหน้ากากอนามัย ซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.63 เพื่อควบคุมการส่งออกหน้ากากอนามัย เพื่อลดการขาดแคลนหน้ากากอนามัยในประเทศ

...

พร้อมกันนั้นในข่าวแจกของกรมศุลกากร ยังระบุอีกว่า กรมศุลกากรได้ตระหนักและให้ความสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยนับตั้งแต่กระทรวงพาณิชย์ออกประกาศควบคุมการส่งออกหน้ากากอนามัย ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.63 มีปริมาณการส่งออกน้อยมาก