กรมชลประทาน วางแนวบริหารจัดการน้ำเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่า มีพอใช้ตลอดฤดูแล้งปี 63 ย้ำทั่วประเทศไม่ขาดน้ำกิน น้ำใช้ ด้านแนวตะวันออกใช้โครงข่ายน้ำป้อนพื้นที่ ขอให้ประชาชนสบายใจ

นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้มีการบริหารจัดการน้ำเพื่อดูแลประชาชนป้องกันการขาดแคลนน้ำในภูมิภาคช่วงฤดูแล้งทั่วประเทศตามข้อห่วงใยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในส่วนภาคตะวันออกและพื้นที่โครงการพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่มีความกังวลนั้น ในฤดูแล้งของพื้นที่อีอีซี 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา จะใช้น้ำประมาณ 540 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) โดยเฉพาะระยอง และชลบุรี ซึ่งเป็นศูนย์รวมอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และสวนผลไม้ จะใช้น้ำประมาณ 430 ล้าน ลบ.ม. แต่ปีนี้มีน้ำในอ่างเก็บน้ำในทั้ง 2 จังหวัด ประมาณ 390 ล้าน ลบ.ม. ยังขาดอีก 40 ล้าน ลบ.ม. เนื่องจากปริมาณฝนตกต่ำกว่าค่าเฉลี่ย จึงต้องจัดหาปริมาณน้ำส่วนที่ขาดและสำรองเพื่อกรณีฝนทิ้งช่วงถึง ก.ค. กรมจึงได้บริหารน้ำผ่านโครงข่ายน้ำภาคตะวันออก ซึ่งยืนยันว่าจะมีน้ำอุปโภค-บริโภคเพียงพออย่างแน่นอน

...

“สำหรับน้ำในภาคตะวันออกไม่ได้เหลือใช้ 80 กว่าวันอย่างที่มีการนำตัวเลขมาหารกัน กรมชลประทานคงไม่ปล่อยให้เป็นอย่างนั้น ทั้งหมดมีการบริหารจัดการ เช่น จะผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองประแกด จ.จันทบุรี ระหว่างวันที่ 1-25  มี.ค. 2563 มาเติมอ่างเก็บน้ำประแสร์ จ.ระยอง ซึ่งเป็นอ่างหลักที่ใช้ในพื้นที่อีอีซี และได้มีการทำข้อตกลงระหว่างกรมกับกลุ่มผู้ใช้น้ำลุ่มน้ำคลองวังโตนดแล้ว เนื่องจากเป็นการผันน้ำข้ามลุ่มตามกฎหมายใหม่ เป้าหมาย 10 ล้าน ลบ.ม.โดยอ่างคลองประแกดมีปริมาณน้ำ 40 ล้านลบ.ม. แต่มีความต้องการใช้ในพื้นที่ราว 15 ล้าน ลบ.ม. จึงไม่กระทบต่อพื้นที่ อย่างไรก็ตามหากมีผลกระทบจะหยุดผันน้ำทันที และผันจากอ่างคลองหลวงรัชชโลทร 10 ล้านลบ.ม.มาเติมอ่างเก็บน้ำบางพระ" อธิบดีกรมชลประทาน กล่าว

นายทองเปลว กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นที่ประชุมคีย์แมนวอร์รูม ที่มาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารน้ำภาคตะวันออก ได้ขอความร่วมมือให้ภาคอุตสาหกรรม และการประปาทุกสาขา ลดการใช้น้ำลงกว่า 10% และในส่วนของบริษัท อีสวอเตอร์ ซึ่งเป็นเอกชนที่ผลิตน้ำป้อนภาคอุตสาหกรรมให้ปรับปรุงระบบจ่ายน้ำ และจัดหาแหล่งน้ำดิบสำรองประมาณ 20 ล้านลบ.ม. ปัจจุบันทุกภาคส่วนยังบริหารน้ำได้ตามแผน

อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวอีกว่า สำหรับน้ำในระบบประปา ได้มีการวางแผนขอจัดสรรน้ำในฤดูแล้ง 6 เดือน ไว้ 900 ล้านลบ.ม. สำหรับการประปานครหลวงและการประปาส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะประปาภูมิภาคทั้งหมด 234 สาขา 62 % จะใช้น้ำจากกรมชลประทาน จึงต้องมีการบริหารจัดการอย่างเข้มงวด และได้ให้สำนักชลประทานทุกโครงการหารือกับกปภ.อย่างใกล้ชิดเพื่อให้มีน้ำดิบเพียงพอ และสำรองน้ำในขุมเหมืองต่างๆ ไว้ด้วย

นายทองเปลว กล่าวด้วยว่า สำหรับการจัดสรรน้ำตามแผนบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง 2562/63 มีแผนการจัดสรรน้ำทั่วประเทศ 17,699 ล้านลบ.ม. (1 พ.ย.62-30 เม.ย. 63) จัดสรรแล้ว 10,996 ล้าน ลบ.ม.หรือ 62% ในลุ่มเจ้าพระยาแผนจัดสรร 4,500 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันจัดสรรแล้ว 3,043 ล้านลบ.ม.หรือ 68% ณ ปัจจุบัน การบริหารจัดการยังเป็นไปตามแผน และกรมยังได้สำรองน้ำกรณีฝนทิ้งช่วงไว้ ถึงเดือน ก.ค.63 เพื่อเป็นหลักประกันว่าคนไทยจะไม่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคอย่างแน่นอน.