"อนุทิน" โพสต์แจงไม่เคยเตรียมชง พ.ร.บ.มั่นคงฯ ปราบผู้ชุมนุม หลังถูกถามนำ พร้อมสนันสนุนการชุมนุม "ตามสิทธิ-กรอบ รธน." วอนอย่านำ การเมืองมาซ้ำเติมสถานการณ์โรคระบาด
เมื่อวันที่ 1 มี.ค.63 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข โพสต์เฟสบุ๊คหัวข้อ "อย่านำ "การเมือง" มาซ้ำเติมสถานการณ์โรคระบาด ระบุว่า "ขอเรียนชี้แจงทุกสำนักข่าวที่เสนอข่าวว่ากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะเสนอนายกรัฐมนตรีให้ใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อห้ามชุมนุมทางการเมือง ทราบว่าข่าวที่ท่านนำเสนอนั้นเป็นความเท็จ"
"ขอย้ำว่าเป็นความเท็จ ไม่เคยคิดถึง พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรมาก่อน ผมไม่เคยคิดสกัดกั้นหรือห้ามการชุมนุมทางการเมือง เพื่อแสดงออกถึงสิทธิ เสรีภาพทางความคิด และการพูดของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นประชาชนกลุ่มใดๆก็ตาม หากการชุมนุมนั้นไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น และเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่ขัดต่อกฎหมาย" นายอนุทิน ระบุ
นายอนุทิน ระบุต่อว่า "การแถลงข่าวในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวานนี้ (29 ก.พ.) มีขึ้นภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และคณะแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านการระบาด การควบคุมโรค และการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคระบาด สาระสำคัญของการประชุม คือ การหาแนวทางควบคุมการระบาดของ covid-19 ซึ่งถูกประกาศเป็นโรคติดต่ออันตราย ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะต้องมีการจัดทำประกาศกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ข้อมูลแก่ประชาชนว่า กิจกรรมใดควรทำ กิจกรรมใดไม่ควรทำ เพื่อการควบคุมการระบาดของโรคติดต่ออันตราย"
นายอนุทิน ระบุต่อว่า "เช่น ไม่ควรเดินทางไปยังพื้นที่เขตติดโรค แต่หากต้องไปหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อกลับมาถึงประเทศไทย ต้องถูกกักบริเวณ 14 วัน ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการควบคุมโรค แม้จะกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่เราต้องประกาศ และต้องควบคุมให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยของประชาชนส่วนใหญ่"
...
นายอนุทิน ระบุต่อว่า "เช่น ไม่ควรจัดกิจกรรมทุกประเภท ที่จะก่อให้เกิดการมารวมตัวกัน หรือการชุมนุมของประชาชนจำนวนมากหลายพันคน และมีโอกาสที่จะมีการสัมผัส หรือการติดต่อทางลมหายใจ และละอองน้ำลาย น้ำมูก จากการพูด ไอ จาม ใส่กันในระยะใกล้ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้จัดต้องจัดเตรียมแนวทาง และให้บริการอุปกรณ์แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อป้องกันการระบาดของโรคติดต่ออันตราย"
นายอนุทิน ระบุต่อว่า "กรณีที่มีการติดต่อของโรคเกิดขึ้น ผู้จัดกิจกรรมและเจ้าของสถานที่ต้องรับผิดตามกฎหมาย ในการนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถออกคำสั่งระงับการจัดกิจกรรมได้ ตามคำแนะนำของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ การประกาศให้ covid-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย กระทบต่อการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนมากพอสมควร แต่เป้าหมาย คือ ต้องการควบคุมการระบาดของโรคติดต่อและป้องกันชีวิต และสุขภาพของประชาชนคนไทยทุกคน ไม่ใช่การควบคุมหรือจำกัดสิทธิเสรีภาพทางการเมืองของประชาชน"
นายอนุทิน ระบุต่อว่า "ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศโรคติดต่ออันตราย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ทำงานควบคุมโรคติดต่อมาหลายสิบปี เคยให้คำแนะนำว่าไม่ควรจัดการชุมนุมทางการเมือง เพราะเป็นโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการระบาดของ covid-19 ได้ ท่านถูกตำหนิและถูกวิจารณ์จากผู้ต้องการให้มีการชุมนุมอย่างรุนแรงว่า มีเป้าหมายอื่นซ่อนเร้น และไม่ควรนำการระบาดของ covid-19 มาเป็นเงื่อนไขทำให้ประชาชนที่ต้องการเข้าร่วมการชุมนุมหวาดกลัว การประชุมเมื่อวานนี้ มีการนำประเด็นการชุมนุมเพื่อแสดงจุดยืนทางการเมือง มาพิจารณาในที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุขกันอีกครั้งหนึ่ง เพราะมีการประกาศเป็นโรคติดต่ออันตรายแล้ว หากไม่ปฏิบัติ นายแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในฐานะเจ้าพนักงาน ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมโรคติดต่อ จะเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่ทันที"
"ผมในฐานะนักการเมือง ไม่มีเจตนาจะแถลงเรื่องการชุมนุมทางการเมือง เพราะทราบดีว่าจะถูกแปรเจตนาเป็นอื่น และถูกกล่าวหาหวังผลทางการเมือง แต่สอบถามนายแพทย์ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขหลายท่าน ที่เข้าประชุมแล้วเข้าใจดีว่า ทุกท่านไม่อยากพาดพิงเรื่องการชุมนุมทางการเมือง แต่มีความกังวลมากว่า การควบคุมการระบาดของ covid-19 ที่ประเทศไทยทำมาได้ดี อาจจะมีจุดเสี่ยงและถึงจุดเปลี่ยนได้ อาจารย์แพทย์ทุกท่านมีความเป็นห่วงว่า หากมีการติดเชื้อในที่ชุมนุม ซึ่งมีประชาชนเข้าร่วมหลายพันคน และอาจจะนำสู่ผู้สัมผัสเป็นหมื่นคน ภายในเวลาอันรวดเร็ว หากเกิดสถานการณ์เช่นนั้นขึ้น กระทรวงสาธารณสุข ไม่มีความสามารถที่จะควบคุมโรคได้ และจะทำให้ประเทศไทยเข้าสู่สถานการณ์ระบาด เช่นเดียวกับบางประเทศ ที่มี super spreader และควบคุมโรคไม่ได้"
นายอนุทิน ระบุต่อว่า "ผมจึงต้องแถลงด้วยตัวเอง แต่ย้ำหลายครั้งว่าไม่ห้ามการชุมนุม เพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ แต่ขอให้เจ้าของสถานที่และผู้จัดการชุมนุม จัดการชุมนุมอย่างมีความรับผิดชอบและแจ้งความห่วงใย ความกังวลใจของอาจารย์แพทย์ให้ทราบ ว่า มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การระบาดของโรคอย่างไร"
"ไม่มีเรื่อง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร ในการประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เพราะไม่ใช่ภารกิจของกระทรวงสาธารณสุขแต่มีนักข่าวถามผมตอบว่า กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้ดูแลเรื่องความมั่นคง ต้องไปถามฝ่ายความมั่นคง ในที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุข เราพูดคุยถึง พ.ร.บ.โรคติดต่อฉบับเดียว เพื่อการควบคุมโรคเท่านั้น ดังนั้นท่านที่นำเสนอข่าวว่า ผมหรือกระทรวงสาธารณสุขเสนอให้ใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯสกัดกั้นการชุมนุม โดยอ้างเหตุการควบคุมโรคติดต่ออันตราย จึงเป็นการเสนอข่าวเท็จ ทั้งสิ้น ท่านต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพการชุมนุมของประชาชน ผมกับกระทรวงสาธารณสุข ต่อสู้กับเชื้อโรค เพื่อความปลอดภัยของประชาชน" นายอนุทิน ระบุ
...
นายอนุทิน ระบุต่อว่า "ผมขอย้ำอีกครั้งว่า ผมไม่เคยมีความคิดจะสกัดกั้นหรือห้ามการชุมนุมทางการเมือง เพียงแต่ขอให้ผู้จัดการชุมนุม ดำเนินการด้วยความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ในสถานการณ์ที่มีการระบาดของโรคติดต่ออันตราย ได้ทราบถึงข้อห่วงใยและความกังวลใจของคณะแพทย์ ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ที่มีต่อการจัดการชุมนุมเท่านั้น ขอความกรุณานำเสนอและส่งต่อข้อมูลนี้ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องด้วย ขอบคุณครับ"