18 ล้อบรรทุกเหล็กเส้นมาจาก จ.ระยอง กลับรถหวังหาที่จอดนอน ถูกเก๋งหรูพุ่งชนเสียบกลางลำพ่วง ทำคนในเก๋งเสียชีวิตคาที่ 2 ราย โชเฟอร์พ่วงอ้างเก๋งขับมาเร็ว ไม่เปิดไฟหน้า จึงมองไม่เห็นเป็นเหตุสลด ตำรวจเผยจุดดังกล่าวห้ามกลับรถ เบื้องต้นแจ้งข้อหาโชเฟอร์พ่วง ขับรถโดยประมาทฯ
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 12 ก.พ.63 ร.ต.อ.เริงศักดิ์ เพชรเขียว รอง สว.(สอบสวน) สน.แสมดำ รับแจ้งเหตุรถชนกัน มีผู้เสียชีวิตติดภายใน 2 ราย บริเวณกลางซอยเอกชัย 131 ถนนพรมแดน แขวงและเขตบางบอน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช รถพยาบาลหน่วยกู้ชีพ รพ.บางปะกอก 8 และอุปกรณ์ตัดถ่างหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นถนนเชื่อมต่อระหว่างถนนเอกชัยกับถนนพระราม 2 มีเส้นทางเดินรถทั้งสิ้น 4 ช่องทางจราจร ไม่มีเกาะกลาง พบรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกเหล็กเส้น ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หัวลากทะเบียน 71-3442 ระยอง ส่วนท้ายพ่วงทะเบียน 71-3443 ระยอง ของ หจก.โชคเจษฎาขนส่ง จอดขวางถนนทั้ง 4 เลนในลักษณะกำลังกลับรถจากฝั่งมุ่งหน้าพระราม 2 เพื่อวกรถวนไปทางถนนเอกชัย ส่วนรถคู่กรณีเป็นรถเก๋งยี่ห้อวอลโว่ รุ่น S 60 สีดำ ทะเบียน 8 กภ 2823 กรุงเทพมหานคร ซึ่งกำลังแล่นออกไปทางถนนพระราม 2 ได้พุ่งชนเข้าที่ใต้ท้องส่วนท้ายรถพ่วงอย่างจัง จนติดอยู่กลางลำ สภาพด้านหน้ารถพังยับเยินยุบถึงห้องโดยสาร หลังคารถหลุดไปทั้งแถบ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นชายติดอยู่คาซากรถ ในตำแหน่งเบาะคนขับและคนนั่งข้างกัน รวมทั้งสิ้น 2 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้อุปกรณ์ตัดถ่างนำร่างออกมาชันสูตร
ทราบชื่อคนขับ คือ นายพฤศพล ปารีพันธ์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 368 ถนนเพชรเกษมซอย 68 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. สภาพศพไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว นุ่งกางเกงขายาวสีน้ำเงิน มีบาดแผลกะโหลกศีรษะแตก ใบหน้ายุบทั้งแถบ ลำคอหวิดขาด ส่วนคนที่นั่งข้างกันชื่อ นายจิรชาติ ชาญเชาวน์กูล อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/25 แขวงและเขตทวีวัฒนา กทม. สภาพไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ มีบาดแผลฉกรรจ์ที่บริเวณลำคอและไหปลาร้าข้างซ้าย จึงมอบศพให้มูลนิธินำส่งนิติเวช รพ.ศิริราช ทำการผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง
...
จากการสอบสวน นายทวี มากงูเหลือม อายุ 57 ปี โชเฟอร์รถพ่วง ซึ่งยืนรอมอบตัวกับตำรวจ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถบรรทุกสินค้าเหล็กเส้นเต็มคันมาจากโรงงานที่ จ.ระยอง กำลังจะนำไปส่งให้ลูกค้าที่ถนนบางบอน 5 ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ แต่ด้วยความที่เดินทางมาถึงก่อนรุ่งสางจึงพยายามกลับรถหาจุดจอดนอนรอ เพื่อให้บริษัทลูกค้าเปิดทำการในช่วงเช้า โดยตนยืนยันว่าก่อนที่จะตัดสินใจกลับรถมีแท็กซี่ 2 คันแล่นผ่านไปแล้ว ส่วนรถของผู้ตายแล่นมาด้วยความเร็วสูง โดยไม่ได้เปิดไฟหน้ารถ ทำให้ตนมองไม่เห็นส่งผลให้พุ่งชนเข้าอย่างจังจนมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว
ด้าน ร.ต.อ.เริงศักดิ์ กล่าวว่า จากการสอบถามญาติๆ กับเพื่อนผู้ตายทั้ง 2 รายที่เดินทางมาที่เกิดเหตุ เบื้องต้นทุกคนยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ ทราบว่าทั้งคู่น่าจะยังเป็นนักเรียนนักศึกษากันอยู่ โดยก่อนเกิดเหตุทั้งคู่ออกจากบ้านพักย่านเลียบคลองทวีวัฒนา พากันไปร้านสะดวกซื้อ และกำลังจะพากันมุ่งหน้าไปหาเพื่อนยังไม่ทราบว่าที่ใด ซึ่งตนจะมอบศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายให้แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช ทำการผ่าชันสูตรอีกครั้ง ก่อนให้ญาติมารับกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา ส่วนโชเฟอร์รถพ่วงนั้นมีความผิดชัดเจนเนื่องจากบริเวณดังกล่าวไม่ใช่จุดกลับรถ ซึ่งจะคุมตัวไปโรงพักเพื่อสอบปากคำอย่างละเอียด ก่อนแจ้งข้อหา "ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตและมีทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย" ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.