นาทีนี้กระแสสังคมพูดถึง “พีท คนเลือดบวก” อย่างมากมายท่วมท้นล้นโซเชียล เราคงไม่ต้องอธิบายให้มากความว่า สังคมพูดถึงพีทไปในทิศทางไหน แต่ที่แน่ๆ หลายคนตั้งข้อสงสัยถึงความมั่นอกมั่นใจในองค์ความรู้ในตัวเขา และด้วยการอธิบายด้วยไทยคำอังกฤษคำ ย่อมทำให้หลายคนเกาหัว และอยากรู้เบื้องลึกถึงความเป็นมาของผู้ชายคนนี้...
ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ พูดคุยกับ พีท คนเลือดบวก อย่างเปิดอกเกี่ยวกับเรื่องราวหนหลังที่เขาไม่ค่อยได้พูดที่ไหน เขาโตมาอย่างไร เรียนอะไร และมีรายได้หาเลี้ยงตัวอย่างไร ไปดูคำตอบ!
ชีวิตการเรียนของพีทคนเลือดบวก
เมื่อถามถึงเส้นทางการเรียนของ นายฐิฏิวัสส์ ศิรเศรษฐกร ในวัย 30 ปี หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “พีท คนเลือดบวก” เจ้าตัวเปิดเผยกับทีมข่าวว่า “อันที่จริงแล้วผมจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งผมลาออกจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งตอนปี 3 เพื่อออกมาทำธุรกิจเป็นของตัวเองตอนอายุ 21 ปี”
...
ที่มาพูดอังกฤษคำ ไทยคำ
“ส่วนที่หลายคนเห็นว่า ผมพูดภาษาอังกฤษได้ ก็คงจะมาจากการที่ผมทำธุรกิจส่งออก เพราะผมต้องติดต่องานกับประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ อยู่ประจำ และผมก็มีบริษัทของตัวเองอยู่ที่เมืองยะโฮร์บาห์รู ทางตอนใต้ของประเทศมาเลเซีย แต่ตอนนี้ปิดกิจการไปแล้วครับ”
“ผมพูด อ่าน เขียนภาษาอังกฤษได้ ซึ่งในส่วนของเขียนภาษาอังกฤษ อาจจะเขียนได้ แต่ไม่ถูกหลักแกรมม่าทั้งหมด ซึ่งจริงๆ แล้ว ผมเป็นคนชอบเรียนภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้น จึงไม่แปลกที่ผมจะพูดไทยคำอังกฤษคำ” พีท คนเลือดบวก กล่าว
ม.6 แล้วไง ฉะพวกโลกแคบ
“ผมเกลียดมากเลยกับคนที่คิดว่า จบแค่ ม.6 มีสิทธิ์อะไรที่มารู้เรื่องพวกนี้ ผมรู้สึกว่า โลกแคบจัง คนพวกนี้ให้ค่าเฉพาะกับคนที่มีการศึกษาเหรอ คนมีการศึกษาแต่ไม่มีความรู้ก็มีนะ แม้ว่าผมจะจบ ม.6 แต่ผมก็สามารถรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างมืออาชีพได้ หากผมใช้เวลาศึกษามามากพอ โดยศึกษาทั้งจากทฤษฎี และประสบการณ์ตรง”
“ผมมีความรู้สึกว่า ผมไม่อยากเรียนในระบบ เพราะผมรู้สึกว่าไม่ได้ตอบโจทย์การเรียนรู้ของเรา ผมมองว่า ไม่จำเป็นต้องมี certificate (ใบรับรอง) ใดๆ เพื่อรองรับว่าเรามีความรู้ความชำนาญในด้านใด เพราะเรามองว่า คนที่รู้จริง ต้องทำสิ่งนั้นได้จริง แก้ปัญหาสิ่งนั้นได้จริง ไม่ใช่แค่มีเพียงวุฒิการศึกษา”
“ถ้าใครติดตามผมมานานๆ แล้วตัดสินผมจากวุฒิการศึกษา จนหมดศรัทธาในตัวผม ผมขอให้เขาออกจากชีวิตผมไปเลยครับ เพราะนี่เป็นการตัดสินคนแค่เปลือกนอก” พีท คนเลือดบวก กล่าว
พีท คนเลือดบวก อ้างมีธุรกิจส่งออก
“ตอนที่ผมอายุ 21 ปี ผมตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัย ณ เวลานั้น เกรดเฉลี่ยผมดีนะครับ ไม่ใช่ว่าไม่ดี เพราะผมเป็นคนที่รักการเรียนรู้ตั้งแต่เด็ก แต่ในขณะนั้น คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการตัดสินใจแบบนี้ ซึ่งครอบครัวผมก็ไม่ได้มีความพร้อม ผมเป็นลูกชาวนา พอลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัยในรอบรับตรงได้ พ่อกับแม่ก็ดีใจและตั้งความหวังกับเรามากๆ แต่จุดประสงค์เราก็ชัดมากว่า เราอยากออกมาทำธุรกิจ”
...
“ผมทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าอุปกรณ์มือถือ อยู่ประมาณ 1 ปีก็ปิดตัวลงจากปัญหาเชิงธุรกิจ และก็ออกบวช จากนั้นในช่วงที่ผมอายุ 25 ปี ผมก็กลับมาทำธุรกิจอีกครั้ง ผมทำอยู่ 2 บริษัท บริษัทหนึ่งอยู่ในเมืองไทย บริษัทหนึ่งอยู่ในมาเลเซีย ซึ่งทั้งสองบริษัทเป็นบริษัทส่งออกพืชผลทางการเกษตร โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจากปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทำมาได้ประมาณ 1 ปี ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีรายได้หลักล้านบาทต่อเดือน แต่เมื่อรู้ว่าตัวเองติดเชื้อ HIV ก็ปิดกิจการ เพราะรู้สึกสิ้นหวังในชีวิต และเข้าใจว่าตัวเองต้องตาย” พีท คนเลือดบวก กล่าว
รายได้พีทคนเลือดบวก เงินทองไม่ใช่ของจำเป็น
เมื่อถามว่า ชีวิตประจำวันมีรายได้จากช่องทางไหน พีท คนเลือดบวก ตอบว่า “จริงๆ ผมอยู่บ้านไม่ได้ทำธุรกิจอะไรเลย ที่ทำอย่างนี้ก็เพื่อต้องการคลายข้อสงสัยว่า ผมไม่ได้ทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ลงไป เพื่อผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น”
เมื่อถามว่า ไม่ได้ทำอะไร แล้วนำเงินที่ไหนมาใช้จ่าย พีท คนเลือดบวก ตอบว่า “เงินส่วนหนึ่งมาจากเงินของผม ส่วนหนึ่งมาจากที่บ้านซัพพอร์ต ผมรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องขวนขวายหาเงินมากมายขนาดนั้น เพราะว่าผมเคยมีมามากมายอยู่แล้ว ผมไม่ยึดติดเรื่องงาน แต่อยากทำงานเพื่อสร้างคุณค่าให้กับชีวิตในด้านอื่นมากกว่า” พีท คนเลือดบวก กล่าว.
...
ขอบคุณภาพจาก : พีทคนเลือดบวก - Pete Living With HIV Positive Undetectable