กระทรวงสาธารณสุข รายงานผู้ติดเชื้อขณะนี้นอนในโรงพยาบาล 16 ราย กลับบ้านแล้ว 9 ราย รวมสะสม 25 ราย โดยอาการลุงวัย 70 ปีที่อาการหนักสุดดีขึ้นเล็กน้อย แนะนำใช้หน้ากากผ้าใส่ป้องกันโรคได้เช่นกัน

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 5 ก.พ.63 นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้า สถานการณ์โรคปอดติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่า เนื่องจากประชาชนตื่นตัวใช้หน้ากากอนามัย และเจลล้างมือ ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้องค์การเภสัชกรรม จัดหาหน้ากากอนามัยเพิ่ม และเพิ่มกำลังการผลิต แอลกอฮอล์เจล และแอลกอฮอล์แบบกระดาษ ทั้งนี้หากยังไม่ป่วยโรคทางเดินหายใจ ท่านสามารถใช้หน้ากากผ้าเพื่อป้องกันโรคได้


เนื่องจากปัญหาการขาดตลาดของหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ ในวันพรุ่งนี้ กระทรวงสาธารณสุข จะประชุมกับกระทรวงพาณิชย์ เรื่องผลิตหน้ากากอนามัยเพิ่มเติม เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของพี่น้องประชาชน โดยพี่น้องประชาชนที่ไม่ได้ป่วยโรคทางเดินหายใจ สามารถใช้หน้ากากแบบผ้าป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจได้ โดยหน้ากากแบบผ้ายังสามารถนำมาซักใช้ใหม่ได้ แต่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์สีเขียว-ขาว ที่ซักไม่ได้ ใช้แล้วทิ้ง ทำให้ประหยัดไม่สิ้นเปลือง 

...


สรุปสถานการณ์ของไทย ขณะนี้ เหลือผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 16 ราย กลับบ้านแล้ว 9 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 25 ราย โดยผู้ป่วยที่ยังอยู่โรงพยาบาลได้รับรายงานว่ามีแนวโน้มอาการดีขึ้น รายที่อาการมาก วันนี้อาการยังทรงตัวและอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยกรณีลุงขับรถบัสอายุ 70 ปี ที่มีอาการหนักสุด ตามที่มีรายงานข่าววานนี้ (4 ก.พ.) ล่าสุดดีขึ้นเล็กน้อย สามารถปรับแรงดันเครื่องช่วยหายใจลงมาได้ โดยยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แต่เนื่องจากผู้ป่วยป่วยวัณโรคร่วมด้วย ทำให้แพทย์ตัดสินใจใช้ยาค่อนข้างยาก ดังนั้นแพทย์ผู้ทำการรักษาจึงเลือกใช้ยารักษาวัณโรคก่อน เพราะยาทั้ง 2 โรคมีฤทธิ์ต้านกัน ส่วนอีก 5 รายอาการดีขึ้นต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ขอแนะนำผู้ที่ขับรถรับจ้างสาธารณะให้เช็ดทำความสะอาดพื้นผิวที่ผู้โดยสารสัมผัสบ่อยๆ เช่น ที่จับประตู เบาะนั่ง ที่เท้าแขน ด้วยน้ำผงซักฟอก น้ำกับสบู่ หรือน้ำยาทำความสะอาด หรือแอลกอฮอล์ 70% ซึ่งสามารถทำลายเชื้อไวรัสได้ ที่สำคัญพนักงานขับรถต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะขับรถ โดยสามารถใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้าได้และแนะนำให้ล้างมือบ่อยๆ.