สธ.เร่งประสานขอข้อมูลนักท่องเที่ยวเกาหลีติดเชื้อโคโรนาไวรัสหลังกลับจากไทย แพทย์ชี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้จากการแพร่เชื้อกันเองของนักท่องเที่ยวกับนักท่องเที่ยว
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 4 ก.พ.ที่ กระทรวงสาธารณสุข นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการแถลงข่าวสถานการณ์โรคโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่า รายงานผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 สะสมทั้งหมด 19 ราย ขณะนี้นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 11 ราย กลับบ้านแล้ว 8 ราย
ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.-3 ก.พ.2563 พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 492 ราย คัดกรองจากสนามบิน 43 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 449 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 119 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 373 ราย
โดยในวันที่ 3 ก.พ. พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายใหม่ 7 รายขณะที่ นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยทั้ง 11 รายที่ยังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนั้น ขณะนี้ทุกรายอาการดีขึ้น แต่จะรอจนกว่าจะตรวจไม่พบเชื้อแล้ว จึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ อย่างไรก็ตามเชื้อโคโรนาไวรัส จะอยู่ในร่างกายของผู้ป่วยได้ค่อนข้างนานกว่าเชื้อตัวอื่น ซึ่งน่าจะเป็นแนวโน้มที่พบทั่วโลก เช่นเดียวกับของไทยที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นชาวจีน หากจะให้ขึ้นเครื่องบินกลับบ้านคงต้องรอให้ไม่พบเชื้อแล้วจึงจะอนุญาตให้ผู้ป่วยกลับบ้านได้ ทั้งที่บางคนสุขภาพอนามัยพร้อมที่จะกลับบ้านแล้วก็ตาม
ส่วนการดูแลคนไทยที่กลับมาจากอู่ฮั่นนั้น จะมีมาตรการที่ดีที่สุด โดยเน้นทั้งความปลอดภัยและความเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน ซึ่งอยากยืนยันว่าคนไทยกลุ่มที่กลับมาจากอู่ฮั่น หากออกมาเดินภายนอกได้แสดงว่าปลอดภัยและสามารถเข้ามาใช้ชีวิตในไทยได้ปกติ ส่วนกรณีผู้ป่วยชาวไทยที่กลับมาจากญี่ปุ่นแล้วติดเชื้อโคโรนาไวรัสนั้นขณะนี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน หากเป็นผู้ป่วยยืนยันยอดก็จะเพิ่มขึ้น
...
เมื่อถามถึงกรณีศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้ ยืนยันเมื่อวันที่4 ก.พ.นี้ว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายที่ 16 ของเกาหลีใต้เป็นหญิงวัย 42 ปี เพิ่งกลับจากไทย 19 ม.ค. เริ่มมีอาการหนาวสั่น 25 ม.ค. ก่อนเข้ารับการตรวจสอบวันที่ 3 ก.พ. ซึ่งผลยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า ขณะนี้เรากำลังประสานกับทางหน่วยงานควบคุมโรคของทางเกาหลีใต้เพื่อที่จะขอข้อมูลที่ทางเกาหลีใต้จะสามารถแบ่งปันข้อมูลให้กับไทยได้ เพื่อมาใช้ในการทำงาน เพื่อหาว่าพื้นที่ ที่มีความเป็นไปได้ที่ผู้ป่วยหากติดเชื้อจริงจะติดจากพื้นที่ใด
อย่างไรก็ตาม กรณีที่เกิดขึ้นต้องบอกว่าขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในระยะที่มีการแพร่เชื้อในระดับในวงจำกัดอยู่แล้ว ซึ่งหากมองแบบสามัญสำนึกทั่วไปว่าคนจีนที่อยู่ในประเทศไทยนั้น ก็ยังสามารถป่วยในบ้านเราได้ ยังสามารถแพร่เชื้อให้กับคนไทยได้ และโดยทั่วไปนักท่องเที่ยวเวลาไปอยู่ที่ไหนก็มักจะไปอยู่ในพื้นที่เดียวกันเป็นกลุ่มก้อน พื้นที่ไหนนักท่องเที่ยวเยอะจีนก็ไปเที่ยวที่แห่งนั้น เช่นเดียวกับคนเกาหลีที่ไปเที่ยวสถานที่แห่งนั้น ดังนั้นโอกาสที่นักท่องเที่ยวด้วยกันจะมีการติดเชื้อจากนักท่องเที่ยวด้วยกันนั้น ในทางทฤษฎีสามารถเป็นได้อยู่แล้ว
"โอกาสที่นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศจะติดเชื้อกันในประเทศนั้น ในทางทฤษฎีมีความเป็นไปได้ แต่เราก็มีการแพร่เชื้อในประเทศอยู่แล้วพบมีคนจีนแพร่เชื้อให้คนไทย ส่วนตัวจึงเห็นว่ากรณีที่เกิดขึ้นไม่ได้เปลี่ยนอะไรมาก เรายังอยู่ในจุดที่มีการแพร่โรคในประเทศในระดับในวงจำกัดเหมือนเดิม ซึ่งข่าวที่เกิดขึ้นหากถามว่าประชาชนไทยต้องตื่นตระหนกหรือไม่นั้น ก็ย้ำว่าข่าวนี้ไม่ได้เปลี่ยนระดับความเสี่ยง ระดับการประเมินความเสี่ยงของคนไทยเลยเพราะจากการประเมินความเสี่ยงเราอยู่ในระดับที่ค่อนข้างเสี่ยงต่ำ ที่จะสัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อโรคนี้ที่อยู่ในเมืองไทย อย่างไรก็ตามขณะนี้ไทยอยู่ในระดับที่เราพยายามควบคุม พยายามค้นหาผู้ป่วยให้ได้ให้มากที่สุด เพราะเมื่อพบผู้ป่วยก็จะค้นหาผู้สัมผัสเพื่อมาตรวจร่างกายป้องกันการแพร่เชื้อต่อไปได้" รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว