สองข่าวเช้าเขย่ารั้วปทุมวัน คงหนีไม่พ้น ผบ.ตร.มีคำสั่งเด้ง "พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย" เข้ากรุ ซึ่งน้อยคนนักจะได้ทราบถึงเหตุผลอันลึกซึ้งนี้ได้

ส่วนอีกคน “บิ๊กตู่” เซ็นคำสั่งย้าย “พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา” ไปอยู่สำนักนายกฯ หลายคนก็คงจะพอเดาทางคำสั่งนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นว่ามาจากปมคลิปหลุดสนทนาของผู้มากบารมี

ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ไล่เรียงเส้นทางสีกากีของ “พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา” และ "พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย" กว่าจะไต่เต้ามาได้อย่างทุกวันนี้ และก่อนจะตกจากฟ้า พวกเขามีที่มาที่ไปอย่างไร...

...

เส้นทางสีกากี “บิ๊กต้อย” วิระชัย ทรงเมตตา

พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา เกิดเมื่อวันที่ 19 ต.ค.2504 มีชื่อเล่นว่า “ต้อย” พื้นเพเป็นชาวสมุทรปราการ จบมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนบางพลีราฎร์บำรุง จบมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา ก่อนตัดสินใจเบนเข็มเข้าเรียนต่อที่ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.รุ่น 37)

ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.วิระชัย ยังจบปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาเอกสาขาการบริหารการพัฒนา คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

ในการรับราชการครั้งแรกของ พล.ต.อ.วิระชัย เป็นรองสารวัตรสถานีตำรวจภูธร อ.พระสมุทรเจดีย์ และต่อมาได้รับความดีความชอบเกินกว่า 1 ขั้นเป็นประจำทุกปี โดยทำงานได้เพียงปีแรกก็ได้เป็นพนักงานสอบสวนดีเด่น โดยยึดวิสัยทัศน์ในการทำงานที่ว่า “ไม่มีคำว่าสาย ถ้าจะพัฒนา ไม่มีคำว่าช้า ถ้าจะเริ่มต้น”

ต่อมาขึ้นเป็นสารวัตรสอบสวนที่ จ.สระบุรี เป็นคนดูสำนวนทั้งจังหวัด ก่อนที่จะเสนอผู้บังคับการจังหวัดสั่งฟ้อง จากนั้น ขึ้นเป็น ผกก.ภาควิชาบริหารตำรวจ สถาบันพัฒนาข้าราชการตำรวจ กระทั่งติดนายพลเป็นผู้บังคับการตำรวจทางหลวง จนเป็นที่ฮือฮาในการปราบส่วยทางหลวง ปราบส่วยสติกเกอร์จนเหี้ยน

ชื่อของ พล.ต.อ.วิระชัย ติดหูชาวบ้านมาตั้งแต่จับคดีเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ยูฟัน จนมาถึงการทลายเครือข่าย “เมจิกสกิน” ธุรกิจสินค้าเสริมความงามผิดกฎหมาย และยังลงพื้นที่ไปจับกุมนายทุน ยึดบ้านและที่ดินคืนลูกหนี้ รวมทั้งเข้าไปดูแลคดีสำคัญอีกหลายคดี จนสื่อเคยให้ฉายา “มือปราบพระกาฬ” โดยถือว่าเป็นตำรวจอนาคตไกลคนหนึ่ง เนื่องจากเกษียณอายุราชการปี 2565

อีกทั้งยังมีชื่อเสียงทางบวก เมื่อครั้งที่มีภาพเต็นท์พักแรมกลางป่าของ พล.ต.อ.วิระชัย ระหว่างขึ้นไปค้นหาโพรงบนดอยผาหมี ในปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง เพราะไม่ว่าอากาศจะหนาว ร้อน ฝน ยุงเยอะ ป่ารก ภูเขาชัน ดินโคลนลื่น พล.ต.อ.วิระชัย ก็ไม่ทิ้งลูกน้อง และไม่ยึดติดที่จะอยู่สบาย จนเรียกเสียงปรบมือจากโซเชียลได้อย่างท่วมท้น

...

นอกจากนี้ ยังเคยรับบทบาทเป็นโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่พักหนึ่ง ก่อนเติบโตในหน้าที่การงานและปล่อยมือให้คนอื่นมาเป็นโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติแทน

พล.ต.อ.วิระชัย ชื่อเดิมคือ พล.ต.อ.สุวิระ สมัยที่ขึ้นเป็นที่ปรึกษา (วบ.10) เทียบเท่า รอง ผบ.ตร. ซึ่งเหตุผลของการเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนาม เจ้าตัวบอกเพื่อไม่อยากให้ทั้งผู้ประกาศข่าวและประชาคมต่างประเทศเรียกชื่อผิดเป็น สุริยะ หรือ สุวีระ

นอกจากนี้ชื่อ “วิระชัย” ยังมีความหมายมงคล ซึ่งแปลว่า “ผู้เลื่องลือเรื่องกล้าหาญที่ประสบความสำเร็จ ประสบชัยชนะ” ซึ่งเจ้าตัวเป็นคนตั้งเอง แล้วนำชื่อไปให้พระเกจิอาจารย์ที่นับถือหลายท่าน ทั้งเจ้าคุณมีชัย วัดหงส์รัตนารามฯ กรุงเทพฯ เจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตรฯ พระอาจารย์แดง วัดไร่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และพระอาจารย์อุเทน วัดท่าไม้ จ.สมุทรสาคร ท่านบอกว่าเป็นชื่อที่ดีมีความหมาย จึงใช้ชื่อนี้ แต่ พล.ต.อ.วิระชัย ก็ยังบ่นเสียดายชื่อเก่า เพราะไปสร้างวัด โบสถ์ วิหาร ไว้หลายวัดก็มีชื่อเก่าติดอยู่

...

กระทั่งมีเสียงวิจารณ์เล็ดลอดออกมาจากรั้วปทุมวันว่า “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี เกิดอาการเกาเหลากับ พล.ต.อ.วิระชัย รอง ผบ.ตร. จากปมคลิปหลุดเสียงสนทนาที่มีเนื้อหาการพูดคุยหลายช่วงหลายตอน ถูกนำไปตีความว่า เป็นการเบรก พล.ต.อ.วิระชัย ไม่ให้มายุ่งกับคดี “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” มากนัก

เส้นทางสีกากี “บิ๊กช้าง” ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย

พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เกิดวันที่ 21 ธันวาคม 2502 มีดีกรีรัฐประศาสนศาสตร์ จบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.รุ่น 36) และปริญญาโท มหาวิทยาลัยรามคำแหง อีกทั้งยังผ่านหลักสูตรนักปกครองระดับสูง (นปส.) รุ่นที่ 44 และการบริหารงานตำรวจชั้นสูง (บดส.) รุ่นที่ 24

เส้นทางสีกากี เริ่มต้น 1 ก.พ.2526 เป็น รองสารวัตรสถานีตำรวจภูธร อำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา ก่อนก้าวไปตามลำดับ จนกระทั่งติดยศนายพลครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2551 เป็นผู้บังคับการกองสันติบาล และตำแหน่งล่าสุด (ก่อนโดนย้ายเข้ากรุ) คือ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

...

พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ ถือว่า ผ่านมาแล้วทั้งงานบู๊ และงานบุ๋น ผ่านประสบการณ์อาชญากรรม ด้านความมั่นคงมาอย่างโชกโชน ผู้มีอิทธิพลหลากหลายพื้นที่รู้จักกิตติศัพท์ดี

ขณะเดียวกันในรั้วปทุมวันต่างรู้ดีว่า “เดอะช้าง” พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย เป็นเพื่อนรักร่วมรุ่นของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งรักสนิท จนสื่อต่างจับตาว่า บิ๊กแป๊ะจะหมายมั่นปั้นมือให้เดอะช้าง เขยิบขึ้นมานั่งในเก้าอี้แม่ทัพสีกากีคนต่อไปหรือไม่

จนกระทั่ง วานนี้ (23 ม.ค.) มีลายเซ็นเพื่อนรัก เซ็นคำสั่งเด้ง พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ พ้นรอง ผบ.ตร. เข้ากรุศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ.