ขาดเวทีร่วมตัดสินใจนโยบายชาติ
ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะ ผอ.ศูนย์วิชาการและเครือข่ายวิชาการด้านเด็กและเยาวชน เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของเด็กและเยาวชน และคนทั่วไป เกี่ยวกับคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2563 ที่ว่า “เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย” โดยสำรวจวันที่ 18 ธ.ค.62-8 ม.ค.63 โดยสอบถามความคิดเห็นใน 6 ประเด็นหลัก
ผลการสำรวจพบว่า เด็กไทยยุคใหม่มีลักษณะแบบไหน ส่วนใหญ่ตอบว่า กล้าแสดงออก กล้าคิด กล้าทำ ตามลำดับ, คำว่า รู้รักสามัคคี หมายถึงอะไร พบว่าส่วนใหญ่เห็นว่าคือ สามัคคีกัน รองลงมาคือ ช่วยเหลือกัน และไม่ทะเลาะกัน, คำว่า พลเมืองดี หมายความอย่างไร พบว่าส่วนใหญ่ตอบว่า หมายถึงคนดี มีน้ำใจ ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ตามลำดับ, เมื่อถามว่าพลเมืองดีต้องมีพฤติกรรมอย่างไร ส่วนใหญ่ตอบว่า ช่วยเหลือคนอื่น เคารพกฎหมาย เป็นคนดี ตามลำดับ ส่วนคำถามที่ว่าพลเมืองไทยมีหน้าที่อะไรบ้าง ส่วนใหญ่ตอบว่า เคารพหรือปฏิบัติตามกฎหมาย รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตามลำดับ และคำถามที่ว่า ตัวอย่างพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นพลเมืองไทยนั้น ส่วนใหญ่ตอบว่า เคารพกฎหมาย รักชาติ เป็นคนดีเคารพธงชาติ ตามลำดับ
“ผลการสำรวจยังพบว่า เยาวชนได้ระบุคุณสมบัติของเด็กยุคใหม่ในด้านลบ เช่น ติดโทรศัพท์ ติดสื่อสังคมออนไลน์ ตื่นสาย ขี้เกียจ ที่น่าสนใจ คือ การให้ชุดความหมายของคำบางคำ เช่น พลเมืองดี พลเมืองไทย หน้าที่ของพลเมืองดี หน้าที่ของพลเมืองไทยนั้น ยังผูกโยงกับชุดความคิดเรื่องการทำความดี ให้ความสำคัญกับสถาบันหลักของชาติ มากกว่าการมองคำว่าพลเมืองในฐานะผู้มีส่วนรับผิดชอบต่อการพัฒนาประเทศ เช่น การเสียภาษี การตรวจสอบการทำงานของภาครัฐ และมีมุมมองเรื่องการทำเพื่อส่วนรวม” ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว
...
และว่า ผลโพลออกมาจะเห็นว่า เด็กยุคใหม่ต้องการความกล้าคิด กล้าแสดงออก มากที่สุด แต่ก็ยังต้องทำตามสิ่งที่ผู้ใหญ่บอก ยังติดกรอบเดิม นอกจากนี้งานวันเด็กของไทยยังเป็นลักษณะสร้างความสนุกสนาน และวางกรอบให้เด็กต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่ ขณะที่ประเทศอื่นๆ การจัดงานวันเด็กจะมุ่งเน้นการเข้าถึงสิทธิเด็ก สร้างความเป็นพลเมือง โดยเปิดพื้นที่ให้เด็กและนักการเมืองได้ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น และให้เด็กได้มีส่วนร่วมในการกำหนดและตัดสินใจนโยบายของรัฐ.