อ.นักจิตวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ ห่วงคนเสพข่าวปล้นร้านทองจนติด แล้วหวั่นเกิดอารมณ์ร่วมแต่ระบายออกไม่ได้ นำไปสู่ความอัดอั้นจนร่างกายทรุด วอนสื่อเสนอข่าวแบบราบเรียบ ไม่ชี้นำวิธีการ หวั่นเลียนแบบ
กรณีเหตุคนร้ายควงปืนบุกปล้นร้านทอง ภายในห้างสรรพสินค้าใน จ.ลพบุรี พร้อมทั้งกราดยิงประชาชนและพนักงานในร้าน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 คน ได้ทองคำรูปพรรณ น้ำหนัก 26 บาท 2 สลึง มูลค่าประมาณ 5 แสนบาทเศษ ก่อนจะหลบหนีไปอย่างลอยนวล ท่ามกลางการจับจ้องของประชาชนต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการไล่ล่าสืบหาตัวคนร้ายมาดำเนินดคีตามกฎหมาย
เมื่อวันที่ 10 ม.ค.63 นายอธิชาติ โรจนะหัสดิน อาจารย์สาขาจิตวิทยาคลินิก คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และหัวหน้าโครงการศูนย์ชีวิตชีวา (Viva City) เปิดเผยว่า ผู้ที่ติดตามข่าวและภาพความรุนแรงจากเหตุการณ์คนร้ายบุกปล้นทองที่ จ.ลพบุรี อย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด โดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์ที่มีการเผยแพร่ตลอดเวลา มีโอกาสเกิดความเครียดสะสมอย่างไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกโกรธแค้นคนร้าย ความรู้สึกสงสารผู้สูญเสีย ทั้งหมดนี้คืออารมณ์ร่วมเช่นเดียวกับการดูละคร หรือข่าวการเมือง ซึ่งที่สุดแล้วจะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตได้
นายอธิชาติ กล่าวว่า เมื่อเสพข้อมูลข่าวสารความรุนแรงเหล่านี้จนเกิดอารมณ์ร่วมแล้ว แต่กลับไม่สามารถปลดปล่อย ระบาย หรือแสดงออกในทางใดทางหนึ่งได้ ความรู้สึกอัดอั้นเหล่านั้นก็จะแสดงออกผ่านความกังวล ความกลัว ความเศร้า และความเครียดกดดัน ซึ่งตรงนี้จะเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติของฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ที่ส่งผลต่อร่างกาย ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า ไปจนถึงมีผลกระทบต่อระบบหัวใจ หลอดเลือด ความดันโลหิต ซึ่งระดับความรุนแรงจะแปรผันไปตามอารมณ์ร่วมที่เกิดขึ้น
...
“อย่างเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าที่ออสเตรเลีย หากเราบริจาคหรือช่วยเหลืออะไรได้ ก็จะรู้สึกปลดปล่อยความทุกข์ในใจออกไป แต่ถ้าเป็นข่าวที่สามารถเสพได้อย่างเดียวแต่แอ็กชั่นอะไรไม่ได้ ก็จะส่งผลกระทบต่ออารมณ์” นายอธิชาติ กล่าว
หัวหน้าโครงการศูนย์ชีวิตชีวา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงวิธีการดูแลตัวเองเบื้องต้นว่า ประการแรกคือควรสังเกตตัวเองว่ามีอารมณ์ร่วมกับเหตุการณ์มากน้อยเพียงใด ต้องมีสติและเสพข่าวแต่พอประมาณ แล้วเปลี่ยนไปทำกิจกรรมอย่างอื่นบ้าง ไม่ควรอยู่กับข่าวนานเกินไป โดยเฉพาะภาพเหตุการณ์และคลิปวิดีโอจะสร้างผลกระทบรุนแรงกว่าการอ่านเนื้อหา ฉะนั้นหากจะเสพข่าวควรเลือกวิธีการอ่านมากกว่าการดู จะทำให้เกิดความเครียดน้อยลง
นายอธิชาติ กล่าวด้วยว่า อีกส่วนหนึ่งที่น่ากังวล คือ การเกิดพฤติกรรมการเลียนแบบ จากการเห็นข่าวและเหตุการณ์ผ่านสื่อที่มักนำเสนอในลักษณะดราม่า ดึงอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยอาจทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดีรายอื่นที่มีแรงจูงใจในการปล้นอยู่แล้วเกิดการลอกเลียนแบบวิธีการได้ ฉะนั้นการรายงานข่าวแบบราบเรียบ ไม่ชี้นำ วิธีการนี้จะเป็นหนทางที่ดีที่สุด.