ประพฤติตนดี ผิดพลาดแก้ไข

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทาน ส.ค.ส. และพรปีใหม่ 2563 แก่ปวงชนชาวไทย ทรงแนะการทำงานใดๆ ย่อมมีความผิดพลาดบกพร่อง แต่ ให้นำข้อบกพร่องและผิดพลาดนั้นไปปรับปรุงแก้ไขไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดซ้ำอีก ขณะที่ทั่วไทยสนุกสนานร่วมเคาต์ดาวน์ส่งปีหมู 2562 เข้าสู่ปีชวด 2563 กันอย่างคึกคัก ด้วยสารพันมหรสพ จุดพลุตระการตา ขณะที่ชาวพุทธทั้งในไทยและต่างประเทศร่วมสวดมนต์ข้ามปีโดยพร้อมเพรียง ด้านสมาคมดาราศาสตร์ไทย สวนกระแสความเชื่อ “แสงแรกปีใหม่ 2563” ไม่ใช่ “โขงเจียม” แต่เป็น “ตากใบ”

ในวาระสิ้นสุดปี 2562 เข้าสู่ศักราชใหม่ 2563 คนไทยทั้งในประเทศและทั่วโลกร่วมเฉลิมฉลองช่วงเวลาก้าวผ่านปี พ.ศ.2562 หรือ ค.ศ.2019 เข้าสู่ปี พ.ศ.2563 หรือ ค.ศ.2020 กันอย่างคึกคักสนุกสนาน

ในหลวงพระราชทานพรปีใหม่

เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 31 ธ.ค.2562 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพรปีใหม่ 2563 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ความว่า เนื่องในวาระขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2563 ข้าพเจ้าขอถือโอกาสนี้อำนวยพรความสุข และความปรารถนาดี แก่ทุกๆท่าน ขอให้มีกำลังกาย กำลังใจ และสุขภาพที่แข็งแรง สติปัญญาผ่องใส มีศรัทธาและความสำนึกในการประพฤติและดำรงตนในกรอบของความดีงาม ถูกต้อง และพอเหมาะพอควร มุ่งมั่นที่จะร่วมกันสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติและส่วนรวมในการทำงานใดๆก็ดี ย่อมต้องมีความผิดพลาด ความบกพร่องเกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา หากความบกพร่องนั้นนำไปสู่การเรียนรู้ที่จะแก้ไข ปรับปรุงข้อผิดพลาดหรือข้อบกพร่องที่ผ่านมาให้กลายเป็นบทเรียนแก่ตนเอง ผู้อื่น และส่วนรวม สิ่งนั้นจึงจะเรียกว่าเกิดการเรียนรู้ หรือเกิดบทเรียน ทั้งนี้ ประสพการณ์ และสติปัญญา ตลอดจนความรู้ความสามารถที่จะนำมาใช้เป็นเครื่องกำกับตนเอง ไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดหรือบกพร่องซ้ำอีก อันจะอำนวยให้บังเกิดผลในอนาคตที่เหมาะสมเหมาะควรนั้น คือการบังเกิดขึ้นของความเจริญและความเป็นมงคลอย่างแท้จริงขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพนับถือ พร้อมด้วยพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จงปกป้องคุ้มครอง ให้ทุกท่านประสบแต่ความสุข ความเจริญ และความเป็นมงคล ตลอดพุทธศักราช 2563 นี้ และตลอดกาลทุกเมื่อไป

...

พระราชทาน ส.ค.ส.2563 แก่พสกนิกร

นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานบัตรอำนวยพร ส.ค.ส. พ.ศ.2563 เป็นพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับเคียงคู่กับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี มีพระบรมสาทิศลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 อยู่ด้านบนอีกด้วย

นายกฯขอให้คนไทยมีความสุข

นอกจากนี้ เมื่อเวลา 20.30 น. เว็บไซต์ทำเนียบ รัฐบาลเผยแพร่คำกล่าวอวยพรปีใหม่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2563 ว่า เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2563 ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยร่วมกันตั้งจิตอธิษฐานอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดอภิบาลประทานพร ให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ มีพระราชประสงค์จำนงหมายสิ่งใดขอจงสัมฤทธิ์ดังพระราชหฤทัยปรารถนา สถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้าเหล่าพสกนิกรชาวไทยตราบกาลนิรันดร์ รวมถึงขอให้คนไทยใช้ช่วงเวลาในเทศกาลแห่งความสุขร่วมกับครอบครัว ญาติมิตรด้วยความรัก ความสามัคคี มีความเอื้ออาทรต่อกัน สำหรับผู้ที่เดินทางสัญจรขอให้มีสติ ตั้งอยู่ในความ ไม่ประมาท และคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งต่อตนเอง และผู้อื่น ทำให้เทศกาลแห่งความสุขนี้เต็มไปด้วยความทรงจำที่ดี และเป็นพลังในการก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ด้วยความสุข ความสดชื่น สมหวังและประสบความสำเร็จในทุกๆด้านตลอดไป

ปธ.ศาลฎีกาอวยพรปีใหม่

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2562 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปี และขึ้นศักราชใหม่ 2563 นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา มีสารอวยพรปีใหม่ 2563 ใจความสรุปว่า ในศุภวาระวันขึ้นปีใหม่พุทธศักราช 2563 ที่มาถึงนี้ ผมและข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่านร่วมกันน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และร่วมกันตั้งจิตอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล ตลอดจนพระบารมีแห่งสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ได้โปรดดลบันดาลพระพรชัย มงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ให้ทรงพระเกษมสำราญพระบารมีแผ่ไพศาลสถิตเป็นมิ่งขวัญปกเกล้าแก่ประชาชนชาวไทยตราบชั่วนิรันดร์ และนับจากนี้ศาลยุติธรรมจะยกระดับความยุติธรรมไปอีกขั้นหนึ่งคือ ความยุติธรรมต้องไม่มีวันหยุด ผมจึงกำหนดนโยบายเร่งด่วนให้ศาลยุติธรรมทั่วประเทศทุกชั้นศาล เปิดทำการในวันหยุดราชการทุกวันเพื่อพิจารณาสั่งคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวให้แก่ผู้ต้องหาหรือจำเลย และขอมอบการดำเนินการตามนโยบายนี้เป็น ของขวัญปีใหม่ให้แก่พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน

ร่วมเข้าสู่วันใหม่แน่นอุทยานฯ

สำหรับบรรยากาศการท่องเที่ยวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ วันสุดท้ายของปี 2562 ทั้งในตัวเมืองและตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆของจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งที่พัก รีสอร์ต ร้านอาหาร คึกคักเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะร้านขายพลุดอกไม้เพลิง นักท่องเที่ยวพากันซื้อพลุดอกไม้เพลิงเตรียมไว้จุดฉลองนับถอยหลังส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ด้านนายกริชสยาม คงสตรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวร่วม 2 หมื่นคน หลั่งไหลขึ้นไปเที่ยวบนดอยอินทนนท์ ทำให้การจราจรติดขัด เช่นเดียวกับอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ อุทยานแห่งชาติผาแดง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ และอุทยานแห่งชาติออบหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า อุทยานแห่งชาติภูกระดึง และอุทยานแห่งชาติภูเรือ จ.เลย นักท่องเที่ยวขึ้นไป เที่ยวกันเป็นจำนวนมาก

...

กราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ล้นหลาม

ที่ จ.นครพนม ประชาชนทั้งชาวไทยและลาว เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ทำบุญในช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม นมัสการองค์พระธาตุพนม บูชาพระอุรังคธาตุ กระดูกส่วนหน้าอกพระพุทธเจ้า เพื่อเสริมสิริมงคลแก่ชีวิตครอบครัว และร่วมนุ่งขาวห่มขาวปฏิบัติธรรม บูชาพระธาตุพนม และประกอบพิธีสวดมนต์ข้ามปี ตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป ไปถึงรุ่งเช้าของปีพุทธศักราชใหม่ พร้อมร่วมกันทำบุญตักบาตรตามประเพณี ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร ประชาชนจำนวน มากหลั่งไหลมาในช่วงเช้า ปิดทององค์หลวงพ่อโสธรองค์จำลอง และมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ข้ามปี ช่วงเช้าวันที่ 1 ม.ค.2563 เวลา 07.00 น.ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุและสามเณร 349 รูป รอบพระอุโบสถ

แห่ร่วมฉลองปีใหม่แน่นกรุง

สำหรับในกรุงเทพมหานคร มีการจัดงานเคาต์ดาวน์ 2020 ทั้งหมด 7 แห่ง ประกอบด้วย เซ็นทรัลเวิลด์, เอเชียทีค, ไอคอนสยาม, ซีดีซี, ซีคอนสแควร์, เดอะสตรีทรัชดา และถนนข้าวสาร ท่ามกลางการดูแลของเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ เทศกิจ ปภ. ฯลฯ ซึ่งแต่ละแห่งล้วนเนืองแน่นไปด้วยฝูงชนเข้าร่วมเฉลิมฉลองปีใหม่กันอย่างสุขสันต์ โดยที่ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม มีการจัดงาน “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ เคาต์ดาวน์ 2020” อย่างยิ่งใหญ่อลังการริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายใต้แนวคิด “มหัศจรรย์พร 7 ประการ” โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มาเป็นประธาน พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย (ททท.) และนางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการบริษัท ไอคอนสยาม จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ทั้งนี้ไฮไลต์ของงานคือการแสดงพลุรักษ์โลกสุดตระการตาเหนือสายน้ำเจ้าพระยา ด้วยจำนวนพลุมากกว่า 20,000 ดอก ขนาดรัศมีดอกใหญ่ที่สุดและระยะทางยาวที่สุดในประเทศไทยถึง 1,400 เมตร พร้อมด้วยการแสดงจากเหล่าดาราศิลปินชื่อดัง สร้างความตื่นตาตื่นใจและประทับใจแก่ผู้มาร่วมงานอย่างมาก

...

ระดมเจ้าหน้าที่นับพันดูแล

เช่นเดียวกับที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลเข้าร่วมเคาต์ดาวน์กับงาน AIS Bangkok Count down 2020 ที่ยกคอนเสิร์ตมาอยู่ในงานแบบจัดเต็ม อาทิ เวทีไฮดรอลิก 4 ชั้น พร้อมด้วยลิฟต์ 4 จุด เวทียาว 220 เมตร ซึ่งยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้มีประชาชน แฟนคลับของเหล่านักร้องดัง อาทิ ปาล์มมี่, เดอะทอยส์, เป๊ก ผลิตโชค, โจอี้ บอย, ไทเทเนียม x ทูพี, สลอตแมชชีน, เกทสึโนวา, SBFIVE และวง TRINITY รวมถึงเจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข ฯลฯ มาร่วมงาน ณ จุดนี้อย่างเนืองแน่น ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 2 พันนาย เช่นเดียวกับที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มากันเป็นครอบครัว เพราะปีนี้เนรมิตบรรยากาศให้เป็นเมืองน้ำแข็งเหมือนในภาพยนตร์แอนิเมชัน Frozen 2 พร้อมประดับประดาตกแต่งไฟหลากสีสัน อีกทั้งยังมีการจุดพลุไฟที่จะสว่างไสวเต็มท้องฟ้า และชมคอนเสิร์ตจากศิลปินดังที่ยกขบวนมาสร้างความมันส์แบบเต็มอิ่ม ปิดท้ายด้วยการนับถอยหลังก้าวสู่ศักราชใหม่

...

สุดตระการตาพลุทั่วฟ้า กทม.

ส่วนที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตะวันออก ที่เอเชียทีค จัดงาน “ช้าง มิวสิก คอนเนกชัน พรีเซนต์ส เอเชียทีค ไทยแลนด์ เคาต์ดาวน์ 2020” ซึ่งมาพร้อมคอนเซปต์ Boost Your Energy Up รีชาร์จพลังชีวิตให้เต็มที่รับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ด้าน CDC จัดงานซีดีซี เคาต์ดาวน์ 2020 ฟรีคอนเสิร์ตส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่สุดเร้าใจเต็มรูปแบบจากศิลปินสุดฮิตแนวหน้าของเมืองไทย Zeal, Cocktail, New Jiew, Paradox และ Joey Boy ตั้งแต่เวลา 17.00 น. วันที่ 31 ธ.ค.เป็นต้นไป ฟากกรุงเทพฯ ตะวันออก ศูนย์การค้าเมกาบางนา จัดนับถอยหลังข้ามปีกับงาน “เดอะ ฟอเรสเทียส์ บาย เอ็มคิวดีซี พรีเซนต์ เมกา เคาต์ดาวน์ 2020”

ร่วมสวดมนต์เต็มลานคนเมือง

นอกจากประชาชนจะหลั่งไหลร่วมงานเคาต์ดาวน์ตามสถานบันเทิงต่างๆแล้ว ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ก็เนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่มาร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ เนื่องในโอกาสมงคลขึ้นปีใหม่ 2563 โดยมีพระพรหมบัณฑิต เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร บรรยายธรรม ก่อนที่เวลา 23.00 น. เป็นพิธีเจริญพระพุทธมนต์ โดยพระสงฆ์จำนวน 69 รูป นำประชาชนเจริญพระพุทธมนต์สวดมนต์ข้ามปี ซึ่ง กทม.จัดพิมพ์หนังสือสวดมนต์ 5 พันเล่มแจกให้คนที่ร่วมพิธีฯด้วยและต่อเนื่องในเวลา 07.00 น. วันที่ 1 ม.ค.63 มีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์เนื่องในวันขึ้นปีใหม่

ทุกศาสนาจัดสวด/อธิษฐานข้ามปี

ส่วนที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 21.30 น. สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี หรือสมเด็จธงชัย วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นประธานในพิธีสวดมนต์ข้ามปีถวายพระราชกุศล เสริมสิริมงคลทั่วไทย โดยมีนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และสมเด็จพระสังฆราชประทานไฟพระฤกษ์ให้แก่กระทรวงวัฒนธรรมนำไปถวายเจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ สำหรับจุดประกอบในพิธีสวดมนต์ข้ามปี โดยนายอิทธิพลกล่าวว่า วธ.ขอความร่วมมือองค์การศาสนาเชิญชวนศาสนสถานในสังกัดจัดกิจกรรมถวายพระพรชัยมงคลและจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ตามหลักศาสนบัญญัติของศาสนานั้นๆ ได้แก่ ศาสนาคริสต์ นิกายโปรเตสแตนต์ จัดพิธีนมัสการข้ามปี อธิษฐานโต้รุ่ง ณ คริสตจักรทั่วประเทศ, ศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก จัดพิธีบูชาขอบพระคุณขึ้นปีใหม่ ณ โบสถ์ทั่วประเทศ, ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู จัดที่เทวสถานโบสถ์พราหมณ์, วัดเทพมณเฑียร และศาสนาซิกข์ จัดที่คุรุดวาราศีคุรุสิงห์สภา

พุทธทั่วโลกพร้อมใจจัดสวดมนต์

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สมาคมวิสาขบูชาโลก คณะกรรมการสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติและสมัชชาสงฆ์ไทยในต่างประเทศทั้งยุโรป เอเชีย รวมทั้งประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาและประเทศที่มีชุมชนชาวพุทธทั่วโลก จัดสวดมนต์ข้ามปี อาทิ วัดเหมอัศวาราม ประเทศจีน วัดไทยมิวนิก ประเทศเยอรมนี วัดวิสุทธิประดิษฐาราม ประเทศมาเลเซีย วัดอตัมมยตาราม ประเทศสหรัฐอเมริกา วัดพุทธธรรม ประเทศออสเตรีย วัดพุทธาราม ประเทศเกาหลี วัดพระธาตุหลวง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นต้น

พระสังฆราชนำเจริญจิตตภาวนา

จากนั้นเวลา 22.39 น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงยังพระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทรงนำคณะสงฆ์วัดราชบพิธฯ และพุทธศาสนิกชน เจริญพระพุทธมนต์ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร และเจริญจิตตภาวนาข้ามปี ภายหลังเสร็จพิธีได้มีการแจกน้ำพระพุทธมนต์ให้พุทธศาสนิกชนกลับไปเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย นอกจากนี้ ทางสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้แจก ส.ค.ส.ประทานจากสมเด็จพระสังฆราช โดยเป็นพระรูป พร้อมลายพระหัตถ์เชิญพุทธศาสนสุภาษิต ว่า “โมกฺโข กลฺยาณิยา สาธุ เปล่งวาจางาม ยังประโยชน์ให้สำเร็จ” เป็นพระคติธรรม ประทานพรสำหรับความสุขปีใหม่ ให้กับพุทธศาสนิกชนที่เข้าร่วมพิธีที่วัดราชบพิธฯด้วย

“ตากใบ” จุดเห็นแสงแรกปีใหม่ 2563

วันเดียวกัน นายวิมุติ วสะหลาย ฝ่ายวิชาการสมาคมดาราศาสตร์ไทย กล่าวว่า หลายคนยังมีความเข้าใจว่า แสงแรกของเช้าวันปีใหม่จะมีขึ้นที่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี แต่ความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะแม้ อ.โขงเจียม จะเป็นพื้นที่ที่อยู่ทางตะวันออกสุดของประเทศไทย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าดวงอาทิตย์จะขึ้นที่นั่นก่อนที่อื่นทุกวัน

“เนื่องจากแกนหมุนของโลกเอียง แนวรอยต่อเช้าจึงไม่ได้ขนานกับเส้นลองจิจูดเสมอ โดยในฤดูร้อนแนวรอยต่อจะเอียงซ้ายทำให้ทางตอนเหนือจะเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นก่อนทางใต้ที่ลองจิจูดเท่ากัน ส่วนฤดูหนาวรอยต่อจะเอียงขวาทำให้ทางตอนใต้จะเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นก่อนทางเหนือที่ลองจิจูดเท่ากัน ดังนั้นวันขึ้นปีใหม่ของทุกปีแนวรอยต่อเช้าเอียงไปทางขวาเป็นมุมประมาณ 23 องศาซึ่งถือว่าเอียงมากเกือบที่สุดในรอบปี มากจนปลายด้ามขวานของประเทศ ไทยล้ำไปทางตะวันออกมากกว่า อ.โขงเจียม ด้วยเหตุนี้ทุกวันปีใหม่ พื้นที่ในประเทศไทยที่เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นเป็นที่แรกจึงไม่ใช่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี แต่เป็นที่บ้านตาบา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และอำเภอแรกของ จ.อุบลราชธานีที่ได้รับแสงอาทิตย์ก็ไม่ใช่ อ.โขงเจียม แต่เป็น อ.บุณฑริก” นายวิมุติกล่าว

อุณหภูมิลดอีก 1–3 องศาฯ

นอกจากนี้ จากการที่ประชาชนแห่เดินทางท่องเที่ยวตามยอดดอยและยอดภูต่างๆ ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น เนื่องจากสภาพอากาศยังคงหนาวเย็นนั้น กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายสภาพอากาศว่า ในช่วงนี้ถึงวันที่ 6 ม.ค.63 ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ในภาคเหนือ บริเวณพื้นราบของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-11 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไปทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่ เปลี่ยนแปลง สำหรับชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 4 ม.ค.63

“คิริบาติ” เริ่มศักราชใหม่ก่อนใคร

สำหรับบรรยากาศการเฉลิมฉลองเข้าสู่ศักราชใหม่ ค.ศ.2020 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ภูมิภาคต่างๆทั่วโลกเฉลิมฉลองวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันอย่างคึกคัก โดยการเข้าสู่ศักราชใหม่ พ.ศ.2563 หรือ ค.ศ.2020 หลังเวลาเที่ยงคืนวันที่ 31 ธ.ค. เริ่มต้นอย่างเป็นทางการที่ประเทศสาธารณรัฐคิริบาติ จุดพลุเข้าสู่ศักราชใหม่เป็นที่แรกของโลก ซึ่งตรงกับเวลา 17.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ต่อด้วย ซามัว ตองกา และหมู่เกาะคริสต์มาส ในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งตามการแบ่งโซนเวลาเป็นภูมิภาคแรกของโลกที่ก้าวผ่านเข้าสู่ปีใหม่ ส่วนภูมิภาคสุดท้ายที่ก้าวเข้าสู่ปีใหม่คือเกาะเบเกอร์และฮาวแลนด์ หมู่เกาะเล็กๆนอกสหรัฐอเมริกา ซึ่งไร้ผู้คนอยู่อาศัย

ออสซีฉลองปีใหม่แม้ไฟป่าโหม

ขณะที่ออสเตรเลีย ก้าวเข้าสู่ปีใหม่ ท่ามกลางวิกฤติไฟป่ารุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งฤดูไฟป่าปีนี้เริ่มตั้งแต่เดือน ก.ย. ส่วนใหญ่อยู่ที่ชายฝั่งภาคตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะที่รัฐนิวเซาธ์เวลส์และรัฐวิคทอเรีย โดยไฟป่าทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เผาผลาญพื้นที่กว่า 40,000 ตารางกิโลเมตร เท่าๆ กับประเทศญี่ปุ่น บ้านเรือนถูกเผาทำลายแล้วกว่า 1,000 หลัง มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 10 คน รวมทั้งอาสาสมัครดับไฟป่า 3 คน อย่างไรก็ตาม การจุดพลุดอกไม้ไฟเฉลิมฉลองวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่อ่าวซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ สถานที่ตั้งซิดนีย์ โอเปราเฮาส์ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในนครซิดนีย์ ก็ยังคงมีเหมือนเช่นทุกปี